ไม่รอให้ยัยเด็กกาฝากต่อว่าเขา อคินณ์คว้าแขนเรียวก่อนจะกระชากร่างเล็กเข้าหาตัวเองอย่างแรง แต่เพราะเศษกระเบื้องที่แตกกระจายอยู่ด้านล่างทำให้ฝ่าเท้าขาวเหยียบมันเข้าเต็มเปา
“โอ๊ยย !”
“ตายแล้ว ! รีบไปเอากล่องยามาเร็ว” ป้าอุ่นรีบตะโกนบอกสาวใช้อีกคนให้ไปนำกล่องปฐมพยาบาลมาให้เธอ
เหมือนฝันเจ็บจนน้ำตาคลอ ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มแน่นเพื่อสะกดกลั้นหลายอารมณ์ที่กำลังตีรวน ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำสีใสตวัดมองร่างสูงอย่างตัดพ้อ แต่อคินณ์กลับไร้ท่าทีเห็นใจ มือหนากำรอบต้นแขนเรียวไว้แน่นจนเหมือนฝันเจ็บไปถึงกระดูก ไม่ว่าเธอจะพยายามรั้งแขนตัวเองกลับมาเท่าไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยและไม่สนใจด้วยว่าเธอจะเจ็บช้ำกับการกระทำนี้มากแค่ไหน
“กล่องยาได้แล้วค่ะ”
“คุณหนูปล่อยคุณฝันก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวป้าจะทำแผลให้เอง”
ตาคมเหลือบมองฝ่าเท้าขาวที่มีเลือดซึมออกมาจนเปื้อนพื้นหินอ่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะผลักร่างเล็กให้ออกห่างทำเอาเหมือนฝันเกือบล้มหน้าคะมำถ้าไม่ได้ป้าอุ่นเข้ามาประคองไว้ก่อน
“สำออยฉิบหาย”
เหมือนฝันไม่กล้าเงยหน้าสบตาคนใจร้าย ถ้าหากเป็นเวลาอื่นเธอคงเท้าสะเอวและทวงศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยอ่อนและกลัวคนตรงหน้าจากใจจริง
“ค่อย ๆ เดินนะคะ” ป้าอุ่นพยุงเธอไปนั่งเก้าอี้แต่ไม่ทันจะได้หย่อนก้นเสียงเข้มก็ขัดขึ้นมาก่อน
“เสียอารมณ์เป็นบ้า” สิ้นเสียงอคินณ์ก็หยัดกายเต็มความสูงก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
“เจ็บหน่อยนะคะ”
“อ๊ะ” เหมือนฝันร้องเสียงหลงเมื่อแอลกอฮอล์สัมผัสบาดแผลและมันสร้างความเจ็บแสบไปถึงก้านสมอง ใช้เวลาหลายนาทีกว่าป้าอุ่นจะทำแผลให้เธอเสร็จ พร้อมกับสาวใช้คนอื่นที่ทำความสะอาดเศษกระเบื้องจนเสร็จเรียบร้อย
“แต่ก่อนคุณหนูไม่ได้เป็นอย่างนี้หรอกนะคะ แต่เพราะเรื่องของผู้ใหญ่ที่ปลูกฝังให้เด็กบิดเบี้ยว คุณหนูเลยกลายเป็นพวกอารมณ์ร้าย” ป้าอุ่นพูดถึงคุณหนูของตัวเองด้วยรอยยิ้มบางเบา หวังจะให้เหมือนฝันเข้าใจการกระทำของชายหนุ่ม
ร่างเล็กไม่คิดตอบรับ เธอทำเพียงยิ้มบางเบากลับไป เหมือนฝันไม่รู้หรอกว่าแต่ก่อนอคินณ์จะเป็นอย่างไร และตั้งแต่ที่ได้เจอกันเขาก็ทำตัวใจร้ายใส่เธอสารพัด ทั้งที่เหมือนฝันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปทำอะไรให้เขา
และเหมือนฝันรู้สึกได้เลยว่าการใช้ชีวิตต่อไปของเธอคงไม่ง่ายแล้ว...
...
“หน้าบึ้งมาเชียวนะมึง”
“นั่นดิ ไหนว่าวันนี้ไม่ออก”
ดินแดนกับธามไท สองเพื่อนสนิทที่เปิดโต๊ะนั่งควงสาวอยู่ก่อนแล้วทักทายคนมาใหม่ที่เดินหน้าบึ้งมาแต่ไกล
“หิวเหล้า” อคินณ์ตอบเสียงห้วนก่อนจะกระดกเหล้าที่มีคนชงเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว
“ดูท่าจะอารมณ์เสียจริง ๆ ว่ะ” ดินแดนส่ายหน้าให้กับท่าทางของเพื่อนสนิท ก่อนจะหันกลับมาสนใจดาวคณะที่อิงแอบอยู่ข้างกาย
“ไม่เรียกสาวมาสักคนเหรอ” ธามไทถามขึ้นบ้างเมื่อผ่านไปหลายนาทีอคินณ์ก็เอาแต่นั่งกระดกเหล้าไม่หยุด
“ไม่มีอารมณ์”
“คินณ์ขา”
“หึ เข้ามาหาขนาดนี้กูจะรอดูว่าจะมีอารมณ์ไหม” ธามไทหัวเราะในลำคอเมื่อ แอนนา หญิงสาวที่อคินณ์ควงอยู่บ่อย ๆ เข้ามานั่งเคียงข้าง และไม่ใช่แค่นั้นเพราะคนมาใหม่ยังเอาหน้าอกที่แทบทะลักเดรสตัวสั้นเบียดต้นแขนของเพื่อนเขาอยู่
“ดีใจจังที่ได้เจอคินณ์” แอนนาพูดเสียงหวานเอาใจ ทั้งยังออดอ้อนชายหนุ่มที่ไม่พูดอะไรสักคำ
“วันนี้ไอ้คินณ์มันอารมณ์ไม่ค่อยดี ช่วยมันหน่อยสิ” ธามไทบอกคนมาใหม่ก่อนจะกระดกเครื่องดื่มสีอำพันลงคอ
“หื้ม ถ้าอย่างนั้นเราไปหาอะไรสนุก ๆ ทำดีไหม” แอนนาไม่พูดเปล่า เล็บยาวที่ถูกตกแต่งตามสมัยกรีดแผงอกแกร่งอย่างยั่วยวน หญิงสาวเอนตัวเข้ามาใกล้จนร่างกายสัมผัสกันอย่างเย้ายวน
“เอาแล้วเว้ย” ดินแดนที่กำลังนัวเนียสาวข้างกายแต่เมื่อได้ยินประโยคสื่อความหมายอย่างโจ่งแจ้งก็นึกสนุกไม่น้อย
“เอาสิ”
ในเมื่อเจ้าตัวเสนอมาขนาดนี้แล้วอคินณ์ก็จะสนองกลับไปหน่อยแล้วกัน แก้วเหล้าถูกวางลงที่เดิมก่อนที่มือหนาจะโอบรอบเอวบางพร้อมกับบีบเคล้นมัน
ปากหยักประกบจูบหญิงสาวข้างกายอย่างดูดดื่มซึ่งแอนนาก็เปิดปากต้อนรับอย่างคุ้นเคย
จะว่าไปก็นานแล้วที่ไม่ได้ขึ้นเตียงกับอคินณ์ทำเอาแอนนาคิดถึงบทรักแสนร้อนแรงจนเนื้อเต้น
“อะ คินณ์ แอนอายนะ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่แอนนากลับจับมือร้อนจัดมาสัมผัสหน้าอกใหญ่ของตัวเองทั้งยังบังคับให้เขาบีบมันอีกตั้งหาก
“ไอ้สัตว์ แล้วบอกไม่มีอารมณ์” ธามไทส่ายหน้าเมื่อทั้งสองแทบจะเล่นหนังสดให้เขาได้ดูอยู่แล้ว ทั้งยังไม่มีท่าทีจะอายเลยสักนิด
“แม่ง เอาทำกูมีอารมณ์ตามไปด้วยเลยว่ะ” ดินแดนยกยิ้มมุมปากก่อนจะโน้มลงไปซุกไซ้ต้นคอสาวที่ควง
แต่ไม่ทันที่ความร้อนแรงของอคินณ์จะมากไปกว่านี้มือหนาก็ผลักร่างของคนที่คร่อมบนตักออก
“ทำมะ...”
“ฉันจะกลับแล้ว” อคินณ์บอกปัด ๆ ก่อนจะเดินออกไป จะให้บอกได้ไงว่าสีหน้าตัดพ้อและน้ำตาคลอเบ้าของยัยเด็กกาฝากมันเอาแต่กวนใจเขาอยู่ได้ !!
อคินณ์บึ่งรถกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ต่างจากทุกครั้งที่เขาจะกลับไปยังคอนโดมิเนียมส่วนตัว
ภายในบ้านเงียบสงัดเพราะกลุ่มแม่บ้าน สาวใช้ และคนสวนจะอยู่ที่บ้านหลังเล็กด้านหลัง ทำให้บ้านหลังใหญ่มีเพียงหญิงสาวที่อคินณ์เรียกว่ากาฝากนอนหลับอยู่ด้านบน และเมื่อคิดว่าตอนนี้ไม่มีบิดาคอยคุ้มกะลาหัวเธอ มุมปากก็จุดยิ้มร้าย...
เหมือนฝันตื่นขึ้นกลางดึกเพราะรู้สึกปวดฝ่าเท้าบริเวณที่ถูกเศษกระเบื้องบาด ยังดีที่ป้าอุ่นเตรียมยาแก้ปวดเอาไว้ให้ก่อนเข้านอนเธอจึงยังทนไหว
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เหมือนฝันไม่ได้เล่าให้คุณลุงฟังเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วง และเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อดโกรธอีกคนไม่ได้
ทั้งที่ปกติอคินณ์ไม่ค่อยมาที่นี่แท้ ๆ แต่พอคุณลุงไม่อยู่เขาก็กลับมาที่บ้านทันที ทั้งยังมีจุดประสงค์ชัดเจนว่ามาเพื่อกลั่นแกล้งเธออีกต่างหาก
“เฮ้อ...จะทำยังไงดีนะ” มือเล็กยกขึ้นก่ายหน้าผากอย่างเหนื่อยใจ