ก๊อกก๊อกๆ
"เชิญค่ะ"
"พี่แก้ม"
"หือ แค่ศิมาทานมื้อเช้าด้วยต้องยิ้มหน้าบานมาขนาดนี้เลย"
กวิสราเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าใครที่เข้ามาในห้องตรวจ
"ไม่ใช่เรื่องศิที่ทำให้นินยิ้มแบบนี้ค่ะ พี่แก้ม อุ๊ย คันปากต้องเล่า พี่รู้มั้ยตอนนี้พี่เกมส์กับคุณพายก้าวหน้าไปถึงขนาดสั่งอาหารเช้าไว้รอกันเลยนะคะ แถม มีเบอร์ติดต่อกันแล้วด้วย ที่สำคัญเมื่อเช้าคุณพายโทรตามพี่หมออีกต่างหาก พี่แก้ม สนิทขนาดไหนแล้วคะแบบนี้"
"จริงเหรอคะ แล้วนินรู้ได้ไงว่าคนที่โทรมาเป็นคุณพาย"
"จะไม่รู้ได้ไงคะก็ตอนคุณพายเธอโทรมาน่ะพี่เกมส์รับสายถึงจะไม่ได้เปิดลำโพงแต่เสียงมันก็พอจับใจความได้ แล้วนินนั่งข้างพี่เขา เธอเรียกแทนตัวว่าพายแถมพี่หมอยังแทนตัวเองว่าพี่ทุกคำเลย ไหนจะสั่งอาหารเช้าสองอย่าง นินก็เลยแซวว่าพี่หมอหิวมากเหรอสั่งไปสองถุง พี่เขาบอกมีคนสั่ง แล้วชาเขียวนะ สรุปคือสั่งมาเผื่อคุณพายนั่นแหละค่ะ"
ชญานินเล่าด้วยอารมณ์ตื่นเต้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเหตุการณ์ที่พบเจอจะ ๆคาตา กวิสรามองน้องแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้
"ถ้าถึงขนาดนี้พี่เกมส์คงจริงจังแล้วล่ะ แต่นิสัยพี่เขาชอบทำตัวเหมือนไม่คิดอะไร แล้วยิ่งคุณพายเธอเป็นคนดังด้วยพี่เกมส์คงต้องคิดเยอะกว่า รู้แบบนี้พี่ก็ดีใจนะอย่างน้อยพี่สาวพี่ก็คิดจะเปิดประตูใจรับใครเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง เราคงต้องคอยลุ้นว่าคุณพายเธอจะยังไง"
"นั่นสิคะ แต่เท่าที่นินเคยอ่านประวัติหรือความชอบส่วนตัว เธอก็ไม่เคยแอนตี้ความรักเพศเดียวกัน แถมเพื่อนสนิทสองคนยังแต่งงานกับผู้หญิงด้วยกันอีก งานนี้เราน่าจะลุ้นขึ้นนะคะพี่แก้ม พี่หมอน่ะดูอบอุ่นเป็นผู้ใหญ่ ใครอยู่ใกล้ก็เหมือนมีคนดูแล อืม คุณพายเธอเป็นลูกคนสุดท้องด้วย คนทั้งบ้านก็คงโอ๋เอาใจพอสมควร เธออาจจะติดความเอาแต่ใจหรือขี้อ้อนนิด ๆ ก็ได้ พี่เกมส์ชอบคนขี้อ้อนไม่ใช่เหรอคะ"
กวิสราพยักหน้ายิ้ม
"คุณพายเธอคงจะมีอะไรในตัวที่ดึงดูดพี่หมอบ้างแหละค่ะ ไม่งั้นคงไม่เดินหน้าขนาดนี้ นินก็รู้ว่าพี่เขาชอบคนยากจะตาย"
"ขั้วบวกขั้วลบมาเจอกัน คิก ๆ ก็เลยสปาร์ค นี่พี่แก้ม สมมุติว่าสองคนนี้สมหวังจนได้แต่งงานกันนะ เหตุการณ์ที่พี่หมอโฉบรับช่อดอกไม้ตอนนั้นมีใครถ่ายคลิปเอาไว้ทันมั้ย น่าเอาไว้เปิดงานแต่งพี่เขามาก ๆ เลยค่ะ ใครจะรู้ว่าจากเหตุบังเอิญสองคนนี้จะมาสนิทกันได้แบบวันนี้"
กวิสราหัวเราะเบา ๆ กับสิ่งที่น้องพูด
"มีนะ ก็ตากล้องที่ตามเก็บภาพในคืนนั้นแหละ เขาถ่ายได้ พี่กับปัณก็ยังเปิดดูอยู่ แล้วนินลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าหนึ่งในนั้นคนที่รับช่อดอกไม้ได้อีกคนคือน้องศิ"
คำทักของรุ่นพี่ก็ทำเอาคนฟังอึ้งใบหน้าเหวอจนพี่ต้องกลั้นขำ มัวแต่เชียร์คนอื่นคงลืมเรื่องตัวเอง
"เมื่อไหร่จะชัดเจนกันสักที ลูกพี่จะขวบแล้วนะ"
ชญานินมองหน้าคนแซวที่ยังคงยิ้มด้วยสายตาล้อกันอยู่
"ก็นินยังไม่มั่นใจนี่คะ ว่าศิเขาคิดยังไง อีกอย่าง พี่ก็รู้นินไม่เคยรู้สึกอะไรกับผู้หญิงด้วยกันมาก่อน มันก็เลยแบบ อืม จะว่ายังสับสนตัวเองอยู่ก็ได้ค่ะ"
"เอาเถอะ ถ้ายังไม่มั่นใจก็เป็นเพื่อนไปแบบนี้แหละค่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าหวงเขาเกินเพื่อนค่อยมาบอกพี่"
ชญานินยิ้มขำกับคำพูดนั้น
"ขอบคุณค่ะ งั้นนินไปทำงานดีกว่า"
กวิสราพยักหน้ายิ้มให้ เพราะอีกไม่กี่นาทีก็ถึงเวลาทำงานของพวกเธอแล้ว
พิชญากรมองมือถือตัวเองแล้วก็ต้องแอบถอนหายใจเล็ก ๆ เมื่อตอนนี้มีแอฟหนึ่งแจ้งเตือนเพื่อนใหม่เด้งขึ้นมา บ้าจัง เผลอโทรหาพี่เขาจนได้
"หิวเหรอคะหน้ายุ่งเชียว"
"พี่หมอ?"
"คะ?"
กนิษฐาวางของลงที่โต๊ะแล้วมองคนที่เรียกค้างไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะส่ายหน้าเล็กน้อย
"เปล่าค่ะ นั่นถุงอะไรคะ"
นิ้วชี้ไปที่ถุงกระดาษใบหนึ่ง
"อ้อ เสื้อกีฬาที่น้องเขาฝากมาให้เซ็นต์น่ะ พอดีพ่อเขายุ่งพี่ก็เลยอาสาถือขึ้นมาให้ พายจะเซ็นต์เลยก็ได้ เดี๋ยวตอนเย็นเขามาเอา"
พิชญากรจึงหยิบถุงไปเปิดดูภายในก็เห็นเป็นเสื้อกีฬาสองตัวสภาพค่อนข้างใหม่
"น้องเขาเป็นนักกีฬาโรงเรียนเหรอคะ"
"พี่ก็ไม่รู้อะไรมากนะเคยได้ยินแต่พ่อเขาพูดว่าไผ่ชอบเล่นกีฬาน่ะ"
"มีเสื้อบาสกับเสื้อบอลค่ะ"
กนิษฐามองเสื้อในมือของพิชญากรมือก็จัดการแกะข้าวต้มกับโจ๊กใส่ชามเตรียมไว้ให้ เสร็จแล้วก็เดินไปหยิบแก้วมาเทน้ำเปล่ารอคนที่แจกลายเซ็นต์ พิชญากรปรายตามองชามสองใบ
"มีโจ๊กด้วย น่ากินจังค่ะ เออ พี่หมอสั่งของพวกนั้นมาใหม่เหรอคะ"
พิชญากรชี้ไปบนชั้นที่ตอนนี้มีของมาเพิ่มจากเมื่อวานจนสังเกตุได้
"ค่ะ สั่งมาเผื่อคุณอยากจะทำไปให้ทีมงานได้ดื่มกันด้วยน่ะ"
"ขอบคุณนะคะ ไม่เห็นต้องลำบากเลยแค่นี้ก็เกรงใจแล้ว"
"ไม่ลำบากหรอกค่ะ ของมันไม่เน่าเสียง่าย ๆ"
สายตาหวานช้อนขึ้นมองคนพูด
"ใจดีจังนะคะ"
กนิษฐาหลุดยิ้ม ไม่รู้โดนชมหรือโดนเหน็บ
"กับบางคนเท่านั้นแหละค่ะ"
จึก อีกแล้วนะชอบทำให้ใจเต้นเรื่อยเลย ริมฝีปากสวยเผลอกดเม้มเข้าหากัน ก่อนที่จะทำทีพับเสื้อเข้าเก็บใส่ถุงให้เรียบร้อย แต่ทุกอาการมันอยู่ในสายตาคนเป็นพี่ตลอด คุณหมออมยิ้มอย่างพอใจ
"ทานได้แล้วค่ะ เย็นมากจะไม่อร่อย"
ชามข้าวต้มที่ยังมีไอควันลอยให้เห็นจาง ๆ ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า แต่สายตาของน้องกลับจ้องไปที่ชามอีกใบที่มีหมูสับก้อนกลมหลายก้อนปนอยู่ในโจ๊ก และตอนนี้กนิษฐากำลังจะเทเครื่องปรุงลงใส่
"พี่หมอ อยากกินอันนั้น"
"หืม โจ๊กนี่เหรอคะ"
คุณหมอเลิกคิ้วถาม ก่อนจะหลุดยิ้มด้วยความเอ็นดูเมื่อได้ยินคำตอบ
"เปล่า อยากกินหมูสับค่ะ ขอชิมหน่อย"
กนิษฐาจึงยกชามโจ๊กไปใกล้ เรียกรอยยิ้มเหมือนเด็กได้ของถูกใจ
"ระวังค่ะมันยังร้อนอยู่"
เมื่ออีกคนตักหมูสับก้อนกลมขึ้นมาจะใส่ปากคนพี่เลยต้องรีบเตือน พิชญากรชะงักก่อนจะยิ้มแหยแล้วค่อย ๆ เป่าสักพัก
"อร่อยมั้ย"
"อร่อยค่ะ นุ่มแล้วก็เด้งเหมือนกับโจ๊กเจ้าดังเลย"
ใบหน้าสวยพยักหน้าชมออกมาให้ได้ยิน กนิษฐาระบายยิ้มบาง
"เปลี่ยนใจมั้ย จะกินโจ๊กหรือกินข้าวต้ม"
คำถามพาให้คนสวยมองอาหารเช้าสองอย่างด้วยสายตาลังเล ก็มันน่ากินทั้งสองอย่างนี่นากลิ่นหอมยั่วน้ำย่อย ข้าวต้มปลาก็น่ากินเหมือนจะเป็นเนื้อปลากระพงซะด้วย คุณหมอกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหวจริง ๆ
"งั้นทานด้วยกันค่ะ"
คำตัดสินของพี่ก็ทำให้น้องแย้มยิ้มออกมาทันที
"คุณปรุงข้าวต้มพี่จะปรุงโจ๊ก แล้วทานเผ็ดหรือเปล่าคะ"
"ไม่เผ็ดมากค่ะ"
"แล้วขิงล่ะ ใส่มั้ย"
พิชญากรพยักหน้า มือก็จัดการปรุงข้าวต้มของตัวเองไปด้วย ไม่นานอาหารสองอย่างก็ถูกเลื่อนมาวางตรงหน้าให้ทั้งคู่ได้ลงมือ
"มื้อนี้เท่าไหร่คะพายจะจ่ายเอง"
กนิษฐามองคนถามพลางยิ้มเล็ก ๆ
"ไม่เป็นไรหรอกแค่ร้อยเดียวเอง มีน้ำเต้าหู้ด้วยนะ"
"ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะเมื่อวานพี่หมอก็จ่ายไปแล้ว เพราะฉะนั้นเปลี่ยนกันค่ะ"
สีหน้าจริงจังของดาราสาวทำให้คุณหมออดยิ้มไม่ได้
"โอเคค่ะ มื้อเช้าคุณจ่าย"
นั่นแหล่ะรอยยิ้มแสดงความพอใจถึงผุดขึ้นบนใบหน้าสวย
"พี่หมอทำงานที่นี่นานแล้วเหรอคะ"
"ก็ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ พอใช้ทุนเสร็จก็มาทำงานที่นี่เลย ถึงปีนี้ก็แปดปีแล้วค่ะ"
"ที่นี่เขาคัดหน้าตาแพทย์พยาบาลหรือเปล่าคะ"
หึ ๆ
"ทำไมคะ ก็รับสมัครตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถปกตินั่นแหละค่ะ ไม่เกี่ยวกับหน้าตาหรอก"
กนิษฐาตอบทั้งยิ้มขำกับสิ่งที่น้องถามมา
"ก็เห็นมีแต่คนหน้าตาดีเยอะ เลยนึกว่าคัดหน้าตาเข้ามาทำงาน"
กนิษฐายิ้มแล้วส่ายหน้าเล็ก ๆ
เสียงฝีเท้าที่ดังเป็นจังหวะใกล้เข้ามาบ่งบอกว่ามีคนกำลังตรงมาทางนี้ ไม่นาน
"สวัสดีครับสาว ๆ"
นนทวัชร์เอ่ยทักทายออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาได้ยินเสียงคุยกันแว่ว ๆ อยู่ก่อนแล้ว จะว่าตั้งใจมาขัดก็ไม่เชิงหรอก แค่มาดูให้แน่ใจเท่านั้น
"สวัสดีค่ะคุณหมอ"
พิชญากรทักกลับพร้อมยิ้มให้คุณหมอหนุ่ม กนิษฐาเพียงแค่ยิ้มรับออกไปเท่านั้น
"ถ้าคุณพายมาถ่ายละครที่นี่ทุกวันหมอเกมส์คงเจริญอาหารนะครับเนี่ย"
นนทวัชร์เอ่ยขึ้นมายิ้ม ๆ เมื่อมองเห็นชามสองใบที่อาหารพร่องไปจนเกือบหมดแล้ว
"ทำไมคะ หรือปกติพี่หมอทานข้าวไม่ได้"
"ปกติผมไม่ค่อยเห็นหมอเขาทานข้าวเช้ามากกว่าครับ นอกจากโกโก้แก้วนึงกับพวกขนมปังง่าย ๆ สักชิ้น"
สายตาหวานหันมามองคนเป็นพี่ทันที คิ้วสวยขมวดเล็กน้อย
"ทานแค่นั้นมีแรงตรวจคนไข้เหรอคะ"
นนทวัชร์ถึงกับต้องกลั้นยิ้มเอาไว้ ก่อนทำทีเดินไปหยิบแก้วชงกาแฟ แต่หูก็คอยเงี่ยฟังไปด้วย
"พี่ไม่ได้อดอาหารนี่คะ ก็ทานให้ได้พลังงานเพียงพอนั่นแหละ"
พิชญากรส่ายหน้าช้า ๆ
"แค่นั้นจะไปพออะไรคะ ขนาดพายเป็นนักแสดงที่ต้องคุมน้ำหนักยังต้องทานเยอะกว่านั้นเลย อาหารที่นี่ก็อร่อยดีนี่คะทำไมถึงไม่ชอบทานข้าวเช้าล่ะ"
กนิษฐาปรายตาไปมองตัววางเพลิงเล็กน้อยก็ทันได้เห็นรอยยิ้มขำของหมอหนุ่ม
"คนโสดก็แบบนี้แหละครับคุณพาย ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่หรอก เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่าว่าแต่หมอเกมส์เลย แต่พอมีครอบครัวโดนบังคับด้วย อีกอย่างพอมีครอบครัวเราก็รู้สึกรักตัวกลัวตายมากขึ้น เพราะอยากจะอยู่กับคนที่เรารักนาน ๆ"
นี่ผมช่วยแล้วนะหมอ ไม่ได้มาวางเพลิงอย่างเดียว นนทวัชร์พูดออกไปทั้งยังยิ้มไม่หุบ แต่เหมือนคำพูดเขาจะมีเอฟเฟคสะท้อนนิดหน่อย
"พี่หมอไม่รักตัวเองเหรอคะ"
"ก็รัก หมอนนท์ก็พูดเกินจริงพี่ไม่ได้อดจนขาดสารอาหารสักหน่อย นี่ไงคะก็ทานจนหมด"
"แล้ววันอื่นพี่จะทานอะไรมากกว่าขนมปังไม่กี่แคลอรี่นั่นหรือเปล่า"
กนิษฐาหลุดยิ้มกับคำถาม
"เป็นห่วงพี่เหรอคะ"
อื้อหือ นี่คือวิธีจีบสาวของหมอเกมส์ใช่มั้ยนี่ นนทวัชร์อมยิ้ม ลืมไปหรือเปล่าว่าเขายืนหัวโด่คนกาแฟอยู่ตรงนี้
"ปะ เปล่าซักหน่อย ห่วงคนไข้พี่หมอหรอก เป็นหมอไม่รักษาดูแลสุขภาพตัวเองดี ๆ แล้วคนไข้จะพึ่งพาได้ยังไงละคะ"
ใบหน้าสวยกำลังร้อนผ่าวขึ้นมากับคำพูดและรอยยิ้มของคนตรงหน้า
"แล้วไม่คิดว่าหมอก็ต้องการคนดูแลบ้างหรือไงคะ"
โอ้ บระเจ้า เหมือนกำลังดูฉากรักในละครที่พระเอกกำลังจีบนางเอกเลย นนทวัชร์อยากจะถ่ายคลิปไปแจกน้อง ๆ ดูซะจริง ๆ หมอเกมส์นี่ก็ไม่ธรรมดาเห็นเงียบมานานหึ ๆ เล่นเอาคุณนางร้ายคนสวยอายม้วนไปเลย
"พี่ก็หาสิคะ จะมาบอกพายทำไม"
"ก็คุณทำให้พี่อยากทานอาหารเช้าอย่างที่หมอนนท์พูดนั่นแหละค่ะ"
พี่หมอน่ะ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ เห็นเธอเป็นวิตามินเสริมหรือไงที่เห็นหน้าแล้วจะนึกอยากอาหารน่ะ
"อะแฮ่ม งั้นก็ฝากดูแลอาหารการกินของหมอหน่อยนะคุณพาย ผมขอตัวไปเช็คน้ำตาลในเลือดก่อนนะครับ"
นนทวัชร์รีบบอกขอตัวก่อนที่เขาจะอดปากไม่ได้แซวให้นางร้ายคนสวยอายไปมากกว่านี้ หมอเกมส์น่ะร้าย
สองสาวมองตามหลังหมอหนุ่มออกไปด้วยความรู้สึกต่างกัน กนิษฐานั้นหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่คนเป็นน้องยังคงไม่รู้จะวางหน้ายังไง
"ดื่มค่ะเพื่อสุขภาพ น้ำเต้าหู้มีประโยชน์นะ"
แก้วอีกใบที่ถูกยกมาวางให้ตรงหน้า พิชญากรมองคนที่ยังมีรอยยิ้มส่งมาให้ นี่กำลังโดนพี่เขาเอาคืนหรือเปล่า ก็เผลอไปดุพี่เขาเรื่องดูแลสุขภาพแบบนั้น
"วันนี้ไม่ดื่มโกโก้แล้วเหรอคะ"
"เอาไว้ตอนบ่ายค่ะ เช้านี้อิ่มแล้ว"
พิชญากรพยักหน้าเพราะตัวเองก็อิ่มเหมือนกัน
"ปกติพี่หมอพักกลางวันกี่โมง"
"ถ้าไม่ติดเคสคนไข้ฉุกเฉินก็ประมาณเที่ยงครึ่งหรือเที่ยงสี่สิบค่ะ จะมาทานมื้อเที่ยงกับพี่เหรอคะ"
คำถามพร้อมรอยยิ้มเย้าถูกส่งออกไปให้คนฟัง ยู่จมูกใส่อย่างนึกหมั่นไส้
"ถามเฉย ๆ ค่ะ ถ้าว่างเดี๋ยวจะมาชงเครื่องดื่มให้แทนค่าชาเขียวที่สั่งมาวันนี้นะคะ"
"งั้นก็ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ เย็นนี้จะกลับพร้อมพี่หรือเปล่า ถ้าจะอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันก็ส่งข้อความบอกเมนูอาหารมาแล้วกันเดี๋ยวพี่โทรสั่ง"
"พายยังไม่รู้เลยที่นี่มีอะไรขายบ้าง"
"ไว้พี่ส่งรายการร้านอาหารให้ดูก็ได้ค่ะ"
ริมฝีปากสวยระบายยิ้มออกมาพร้อมคำขอบคุณ ก่อนที่จะช่วยกันจัดการล้างถ้วยชามแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
พิชญากรกลับไปยังห้องประชุมที่ถูกใช้เป็นห้องพักกองของทีมงาน
"ไปทานอะไรมาคะ"
นริสนันท์เอ่ยถามน้องที่เดินมานั่งลงข้าง ๆ
"ข้าวต้มกับโจ๊กค่ะ ไม่ได้บ้านใกล้เหมือนพี่แนนที่ตื่นสายใช้เวลาเดินทางสิบนาทีก็ถึง"
คำตอบปนแซะเล็กน้อยทำให้นริสนันท์หลุดขำก่อนจะแกล้งมะเหงกใส่หน้าผากน้องไปทีหนึ่ง บ้านเธออยู่ในโซนนี้พอดีก็เลยโชคดีไปไม่ต้องรีบออกเดินทางมาแต่เช้าเหมือนหลาย ๆ คน
"ก็น้องสาวมีคนทานอาหารด้วยทั้งเช้าเย็นแล้วพี่เลยไม่ต้องห่วงรีบตื่นห่อข้าวมาทานเป็นเพื่อนไงคะ นาน ๆ จะได้นอนเต็มตื่นแบบนี้บ้าง"
"แบบนี้เขาเรียกว่าละเลยหน้าที่ ว่าที่พี่สะใภ้ที่ดีหรือเปล่าคะ ทิ้งน้องเพราะห่วงนอน"
นางเอกสาวหัวเราะเบา ๆ
"อืม อันนี้ยอมรับค่ะ"
สองสาวยังคงคุยเล่นกันไปรอทีมงานที่ไปจัดฉากเรียก
"นี่ ๆ ทุกคนได้เข้าไปดูเพจละครมั้ยคะ ตอนนี้กำลังมีคนพูดถึงมากเลยนะตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
เจ๊เชอรี่หัวหน้าทีมคอสตูมประจำกองพูดขึ้นมา
"เออใช่ ๆ หนูก็เห็นคนเข้าไปคอมเมนต์ถามเยอะเลยเจ๊ แล้วล่าสุดเหมือนจะมีหมอที่นี่ไปตอบคอมเมนต์แล้วนะคะ"
"พูดถึงคอมเมนต์อะไรกันคะพี่นุ้ย"
พิชญากรถามขึ้นบ้าง
"ก็ในเพจละครของเราค่ะ ตอนนี้มีคนแห่เข้ามาคอมเมนต์ถามกันใหญ่เลยว่าคนที่แสดงเป็นอาจารย์หมอที่คุยกับนางเอกเราในฉากน่ะเป็นใคร เมื่อวานพี่หวานแกโพสต์รูปลงอัพเดตว่าละครฉากแรกเริ่มถ่ายแล้ว ลองเข้าไปดูสิคะ คอมเมนต์หลายร้อยแล้วนะ นี่คุณหมอเธอจะรู้ตัวมั้ยว่าในโลกโซเชียลกำลังพูดถึงคุณหมอมากเลยตอนนี้"
พิชญากรกับนริสนันท์จึงคว้ามือถือขึ้นมากดเข้าไปในเพจละคร คอมเมนต์ถามตอบโต้มากมายหลายร้อย และส่วนมากจะเป็นทำนองคำแซวว่า
หมอสวยบอกต่อ หรือ อยากลาป่วยทันทีที่เห็นหน้าหมอ
เธอไล่ขึ้นไปอ่านคอมเมนต์แรก ๆ ที่เป็นต้นตอ
"คนที่แสดงเป็นอาจารย์หมอในฉากคู่กับนางเอก เป็นดาราใหม่เหรอคะพี่หวาน สวยจัง ชื่ออะไรเหรอคะ"
และจากนั้นก็มีคอมเมนต์เข้ามาถามแบบเดียวกันอีก ก่อนที่จะมีหนึ่งในทีมงานเข้าไปตอบ
"เป็นคุณหมอในโรงพยาบาลจริง ๆครับ โรงพยาบาลนี้เจ้าหน้าที่สวยหล่อเยอะมากครับผม เจริญหูเจริญตามากครับ อิอิ"
พิชญากรหลุดยิ้มออกมากับข้อความนี้เหมือนจะมีคนมากดถูกใจเกินร้อยไปแล้ว ก่อนจะไล่อ่านผ่านไปจนเจอคอมเมนต์หนึ่งที่รูปเจ้าของโปรไฟล์เป็นผู้ชายสวมเสื้อกาวน์
"Chaiwat_@ton: คุณหมอที่อยู่ในภาพคู่กับคุณแนน เป็นอาจารย์แพทย์ครับ ชื่อ ดร.พญ.กนิษฐา พัฒนหิรัญ แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและสมอง เป็นขวัญใจของเหล่านักศึกษาแพทย์อย่างพวกเราด้วยครับ"
ข้อความพร้อมสติกเกอร์รูปหัวใจต่อท้ายทำให้ยอดกดไลค์ร่วมสามร้อยกว่าไปแล้วตอนนี้
"คุณหมอเลยดังชั่วข้ามคืนอย่างพี่หวานพูดจริง ๆ ด้วย"
นริสนันท์พูดขึ้นมาพลางยิ้มขำไปด้วย
"นั่นสิคะ แถมเป็นขวัญใจของนักศึกษาแพทย์อีกต่างหาก"
"แล้วคนที่พร่ำเพ้อชื่นชมคุณหมอเป็นร้อยเขาจะรู้มั้ยนี่ว่านางร้ายแถวหน้าของเมืองไทย ได้เดทกับคุณหมอขวัญใจของพวกเขาน่ะฮึ"