“ชั้นบนน่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟขนาดใหญ่ ส่วนชั้นล่างเป็นซุปเปอร์เก็ตทั้งชั้นค่ะ” ดารินบอกความต้องการที่คิดเอาไว้คร่าวๆ
“ขนาดของร้านอาหาร คุณต้องการให้มีกี่ห้อง แล้วต้องการให้รูปแบบของห้างสรรพสินค้าออกมาสไตล์ไหน?”
“เรื่องนั้นยังไม่ได้คิดค่ะ ฉันมาที่นี่เพราะต้องการคำปรึกษา”
“สถานที่จริงที่ต้องการจะสร้างอยู่ไกลไหมครับ”
“ไม่ไกลค่ะ”
“ผมอยากจะไปดูสถานที่จริง คุณช่วยพาไปดูทีสิ” โจเซฟบอกก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ให้กับสาวตรงหน้า
“เอาไว้ตอนบ่ายนะคะ ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว” ดารินบอกพลางก้มดูเวลาที่นาฬิกาหรูบนข้อมือ
“งั้น...ออกไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ เราจะได้คุยเรื่องงานกันต่อเลย” โจเซฟรีบเอ่ยชวน
“ไม่ค่ะ ฉันมีนัดแล้ว?” ดารินเอ่ยปฏิเสธก่อนจะคว้ากระเป๋าถือแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“จริงเหรอ?” โจเซฟถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“จริงค่ะ ฉันไม่ถนัดหลอกลวงใคร ขอตัวก่อนนะคะ” ดารินตอบน้ำเสียงที่เหยียดนิดๆ
โจเซฟได้ฟังก็ถึงกับหน้าชา แต่ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะสานฝันให้เป็นจริง เอ๊ย! แต่ก็ยังไม่ละความพยายามที่สานความสัมพันธ์ ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลงยังไง “สรุปว่าตอนบ่ายเราจะไปดูสถานที่จริงกันไหม ผมจะได้ให้เลขาลงเวลาเอาไว้ครับ”
“ค่ะ ขอตัวนะคะ” ดารินตอบก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้องทำงานตรงที่เธอเดินเข้ามาเมื่อครู่
คลิก!
โจเซฟมองตามแผ่นหลังบาง ไล่ลงไปยังเอวที่เล็กคอดรับกับบั้นท้ายงอนๆ และขาที่แสนจะเรียวงาม ซึ่งเมื่อเช้าเขาเพิ่งจะจับมันแยกออกจากกัน...ในความฝันมาหยกๆ
“ยัยแม่มด” โจเซฟพยายามปรับอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิงให้สงบลง ขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดดารินถึงได้ส่งผลต่อความรู้สึกของตนถึงเพียงนี้!
เวลา13:02 น. หลังจากที่รับประทานมื้อเที่ยงเสร็จ โจเซฟก็ค่อยๆขับรถออกจากร้านอาหารชื่อดัง และกดต่อสายหายัยแม่มด
[สวัสดีค่ะ]
[ผมโจเซฟนะ ตอนนี้กำลังขับรถออกมาแล้ว คุณช่วยแอดไลน์และส่งโลเคชันมาให้ผมหน่อยสิ]
[อืม...ตอนนี้ฉันไม่ว่างค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้จะส่งโลเคชั่นไปให้นะคะ] ปลายสายตอบเสร็จก็กดวางไปดื้อๆ ตู๊ดๆๆ
โจเซฟถึงกับสตั้นไปสามวิ ที่ถูกสาวเจ้ากดตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี จึงสถบออกมาอย่างรู้สึกเดือดๆ
“โธ่โว้ย! ยัยเด็กบ้า”
ชั่วโมงต่อมา...ไซต์งานก่อสร้าง
“อ้าว! แอบตามมาเช็กกันหรือไงเพื่อน” คััลเลนเอ่ยแซวหลังเห็นเพื่อนรักเดินทำหน้าบูดบึ้งเข้ามาหา
“ใช่” คนที่เพิ่งจะเคยถูกสาวเทนัดเป็นครั้งแรกในชีวิต ตอนนี้รู้สึกอยากจะวิ่งไล่เตะเพื่อนรักระบายอารมณ์เป็นที่สุด
“แล้วลูกค้าล่ะ”
“เฮ้อ...แกต้องไม่เชื่อแน่ว่าเป็นใคร”
“น้องคนนั้นใช่ไหม”
“รู้ได้ไง”
“ก็พักหลังๆ มานี้ เรื่องที่เราคุยกันมีแต่เรื่องของยัยแม่มดแสนสวยไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ตามนั้น วันนี้เอาโฉนดที่ดินมาให้ดูบอกว่าจะหากจะสร้างเป็นห้างสรรพสินค้า สองชั้นต้องใช้งบเท่าไหร่ พอจะขอไปดูสถานที่จริง ก็ขอตัวกลับบอกว่ามีนัด เลยเลื่อนไปเจอกันที่สถานที่จริงตอนบ่าย ปรากฏว่า...”
“เขาเทแกสินะ หึๆ” คัลเลนชิงตอบพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างรู้สึกขำๆ
“ใช่! ปวดหัวจริงๆ” โจเซฟบอกพลางถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ
“เอาล่ะสิ สงสัยกรรมเก่าจะเริ่มทำงานแล้ว”
“กรรมอะไรวะ”
“ก็กรรมที่แกไปนัดเขาดินเนอร์ แล้วก็เสือกเทเขาโดยไม่บอกไม่กล่าวน่ะสิ แถมเขาโทรหาก็ไม่ยอมรับสายอีก”
“เฮ้อ...ฉันขอตัวไปพบจิตแพทย์ก่อนนะ” โจเซฟทำท่าจะเดินหนี
“ฮ่าๆๆ” คัลเลนหัวเราะกับท่าทีของเพื่อนรัก ที่ช่วงนี้หลุดๆ ล้นๆ อย่างบอกไม่ถูก
“นี่ไงที่เขาบอกว่าบางเรื่องเราก็บอกกับคนใกล้ตัวไม่ได้ แต่บอกกับจิตแพทย์ได้” โจเซฟหันกลับไปต่อว่าด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“เฮ้! สาบานเลยว่าฉันจะเป็นผู้ฟังที่ดี” คัลเลนรีบเดินเข้าไปขวางเพื่อนรักทันที
“แกเป็นไม่ได้เคน ไม่ต้องพยายามเลย”
“โอเค! ฉันไม่ล้อนายแล้ว ไปตรวจงานต่อเถอะ”
“ให้จริง” โจเซฟกลอกตาก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม
“แล้วพรุ่งนี้ต้องออกไปดูสถานที่จริงไหม?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้น...ให้ฉันไปแทนไหม?” คัลเลนรีบเสนอตัว
“เสือก!” โจเซฟหันไปมองเพื่อนรักด้วยสายตาขวางๆ
“อ้าว! แบบนี้หมายความไงวะ ทำท่าเหมือนอยากจะวิ่งหนี แต่อยู่ๆ ก็เกิดลังเลขึ้นมา” คัลเลนแกล้งหยอกเย้า
“ใครบอกแกว่าฉันอยากจะวิ่งหนี?” คนที่เริ่มเปลี่ยนท่าทีและความคิดที่มีต่อแม่เสือสาว เอ่ยกลับลำทันที
“แกไงเจฟ แกทำท่าเหมือนไม่ชอบเพราะคิดเขาเป็นเด็กเสี่ย” คัลเลนเอ่ยย้ำความคิดเดิมของอีกฝ่าย
“ตอนนี้ฉันก็ยังคิดแบบนั้น”
“งั้นก็ให้คนตามสืบสิ”
“ไม่”
“แกกลัวใช่ไหม กลัวว่ามันจะเป็นเหมือนที่แกคิดเอาไว้” คัลเลนดักทาง
“...” โจเซฟไม่ตอบ เพราะมันคือเรื่องจริงที่ตนไม่มีกล้าพอจะค้นหา
“เชื่อเถอะแบบนี้ไม่ดีเลย ทรมานตัวเองเปล่าๆ”