เหลือเวลาไม่มากแล้วจะทำอะไรก็รีบ!
เพราะคำพูดของซินเซียทำให้ฉันนั่งถอนหายใจแล้วร้อยรอบวันนี้เป็นวันเสาร์ไม่มีเรียนเพื่อนออกไปหาแฟนรวมถึงบรรดาเฮียด้วยทุกคนมีแฟนกันหมด
“เสี่ยวไป๋ ซินเซียก็เอาไปด้วยชีวิตสาวโสดแบบฉันมันเหงาจังเลยหรือจะไปไหว้แม่ลักษมีดีเผื่อจะประทานพี่ไนต์ใส่พานมาให้”
ฉันโพสต์รูปลงในโซเชียลก่อนจะเลื่อนไปดูของคนอื่นจนกระทั่งเจอบทความหนึ่งที่น่าสนใจในเฟซบุ๊กเลยกดเข้าไปดู
“จิตวิทยาจีบผู้ชาย ไหนดูซิ”
เพียงกดเข้ามาในเว็บไซต์รอยยิ้มของฉันพลันเหือดแห้งขึ้นมาทันทีเพราะแต่ละข้อที่กล่าวมามันสวนทางกับสิ่งที่ทำลงไปมากอย่างข้อแรกอย่าออกตัวแรงให้ค่อยพูดคุยอย่าพึ่งแตะตัว…ฉันยิ่งกว่าแรงอีกนะเอะอะแตะมือแตะศอก!!
“ไม่เห็นจะได้เรื่อง..เลิกอ่านๆ”ฉันบ่นพึมพำอย่างอารมณ์ไม่ดีก่อนจะวางมือถือแล้วพลิกตัวนอนหงายบนเตียงอย่างเอาแต่ใจ
ใครๆ ก็ไม่โสดซินเซียมีแฟนพวกเฮียมีแฟนหมดเว้นเฮียติณณ์กับเฮียซันก่อนสองคนนั้นถึงไม่มีก็โดนป้าๆ หาเมียให้อยู่แล้วเหลือแต่คนสวยแบบฉันที่ต้องเหี่ยวเฉา
จ๊อกกก ~
“ข้าวก็หิวจะกินคนเดียวก็เหงา ลองชวนเจ๊เมษาดีกว่า” ไม่รู้จะว่างไหมเพราะวันหยุดแบบนี้คนขยันแบบเจ๊ก็คงจะช่วยงานที่บ้านต่างจากฉันที่นอนสบายไปวันๆ
[ว่าไง?]
“เจ๊กินข้าวกันไปไหม? หรือทำงานที่บ้าน”เมื่อเจ๊เมษารับสายฉันก็เอ่ยชวนเสียงหวานด้วยความเคยชินเวลาจะอ้อนเอาอะไร
[พอดีเจ๊อยู่ร้านน่ะวันนี้เข้ามาเช็กสินค้า]
“ซีไปรอได้นะ..” แต่ปลายสายกลับเงียบไปก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน
[เอ่อ..โอเคได้/แล้วฉันล่ะเมษาเธอเอาฉันไปไว้ที่ไหนอุตส่าห์มานั่งรอแต่เช้า] ยังไม่ทันได้ดีใจเสียงที่แทรกเข้ามาในสายก็ทำฉันชะงัก ลืมไปได้ยังไงว่าพี่เพทายกำลังง้อพี่เมษาอยู่
โอ๊ย แม้จะเหงาแต่ก็ไม่อยากไปเป็น กขค คนอื่นนะ
“เจ๊ วันหลังก็ได้ค่ะ”
[แฮร่ ขอโทษนะซีรอบหน้าเจ๊เลี้ยง]
“ได้ค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้หนุ่มตามเฝ้าไม่ห่างเลยนะคะ”
[ตามเหมือนหมาน่ะสิ/ เฮ้ย เธอแอบนินทาฉันเหรอ”
“ฮ่าฮ่า งั้นแค่นี้นะคะไม่ขัดเวลาคนสวทกันแล้ว”
“สวีทอะไรไม่ใช่”
ติ๊ด!
ฉันยื่นมือถือออกห่างก่อนจะมองหน้าจอที่สายถูกตัดไปทั้งที่เจ๊เมษายังพูดไม่จบก็คงจะมีคนเดียวแหละที่ทำแบบนี้
“เซ็ง ไปกินข้าวคนเดียวก็ได้”
ช่วงนี้จิตใจว้าวุ่นมากอาจเพราะอาการเหงากำเริบไหนแม่บอกคนสวยจะไม่เหงาทำไมตัวฉันยังโดดเดี่ยวแบบนี้พูดแล้วก็ถอนหายใจอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า
ห้าง C
ร่างบางสวมเสื้อสีครีมแขนตุ๊กตากับกางเกงขายาวรัดรูปสีขาวก้าวเดินเข้ามาภายในห้างหรูแถวมหาลัยแอลใบหน้าสวยเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายคนที่คุ้นหน้าว่าเธอเป็นดาวมหาลัยก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายกันพรึบพรับ
ออร่าดาราสาวท่านหนึ่งของไซซีไม่ใช่เล่น!
“กินอะไรดีนะ”
ร่างบางกวาดตามองหาร้านอาหารที่จะกินเพราะไม่รู้จะกินอะไรเธอไม่แปลกนะเพราะหัวข้อนี้คือปัญหาโลกแตกของจริงแต่ละวันตื่นมาและหิวประโยคเดิมๆ จะวนเข้ามาในหัวตลอด
ไม่รู้จะกินอะไรดี!!
“โอ๊ะ พี่ไนต์”
ริมฝีปากอวบอิ่มฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นร่างสูงแสนคุ้นตายืนอยู่หน้าร้านอาหารจีนขาเรียวสวยกำลังจะเดินเข้าไปหาเหมือนอย่างเคยแต่จำต้องหยุดชะงักไว้เมื่อคิดได้ว่าเธอไม่ควรเข้าหาเขาโดยตรง
ด้านไนต์วันนี้เขามีนัดกับคุณหญิงเพตรามารดาบังเกิดเกล้าไม่รู้อารมณ์ถึงชวนเขาออกมาทางอาหารกลางวัน นานทีท่านจะออกมาจากบ้านเขาเลยจำใจตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวมาทานกลางวัน
นัยน์ตาคมกริบสีดำก้มมองดูเวลาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาระหว่างนั้นเหมือนเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูคล้ายไซซีแต่บางทีอาจจะไม่ใช่
“มาทำอะไรที่นี่”
ไวเท่าความคิดเขาเดินตรงเข้าไปใกล้ร่างบางก่อนจะกระชากแขนเธอให้หันมาเผชิญหน้ากัน แม้เห็นแค่ข้างหลังเขาก็รู้แล้วว่าใคร
“อุ๊ย รู้ได้ยังไงว่าเป็นซี”
ไซซีที่ตอนแรกจะแอบมองเงียบๆ เป็นต้องสะดุ้งตกใจเมื่อโดนมือหนากระชากแขนและเอ่ยเสียงเข้มเหมือนกับว่าเธอทำผิดร้ายแรงมากก็แค่แอบดูเองยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ
“ซีหิว เลยมาหาอะไรกิน”
เธอยิ้มแห้งก่อนจะตอบออกไปแต่เหมือนคำตอบของเธอจะทำให้เขาโมโห
“กินข้าวคนเดียว? อย่ามาโกหกหน่อยเลยแอบตามพี่มาใช่ไหม!!”
“ไม่ใช่นะ ซีหิวจริงๆ” เธอปฏิเสธแต่เขากลับไม่สนใจออกแรงบีบแขนเธอมากขึ้นกว่าเดิมปกติไม่เห็นรุนแรงแบบนี้เลยนี่
“เจ็บนะ ปล่อยแขนซีเดี๋ยวนี้ทำไมต้องรุนแรง” ในเมื่อเขาไม่มีเหตุผลแล้วยังมาทำเธอเจ็บอีกจะไม่ให้เธอขึ้นเสียงใส่ยังไงไหว
“เจ็บก็จำ อย่ามาล้ำเส้นอีก!”ไนต์สะบัดแขนเธอออกอย่างแรง
“ล้ำเส้นอะไรซีมากินข้าวของซีเองไม่เกี่ยวกับพี่!”
“หึ อย่ามาโกโหหน่อยเลย เธอแอบตามมาใช่ไหม!”ไซซีเบิกตากว้างเธอไม่ใช่โรคจิตที่จะว่างมาตามสอดส่องเขานะแค่บังเอิญเอง
“พี่มั่นหน้าไปไหมซีชอบพี่แต่ไม่ได้ชอบมาก!”เอาสิ เธอออกตัวขนาดนี้เขาจะไปยังไงต่อ
ร่างสูงชะงักเมื่อเธอเอ่ยบอกว่าไม่ได้ชอบมากเขายกยิ้มร้ายก่อนจะโน้มหน้าลงไปใกล้ร่างบางจนแอบเห็นว่าใบหน้าสวยขึ้นสีแดงเขาจึงแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ
“ไหนบอกไม่ชอบมากไง เธอนี่มันโกหกไม่เก่งเลยจริงๆ” ไนต์ผละตัวออกมาก่อนจะยกมือเขกหัวเธอทำให้เจ้าตัวกัดริมฝีปากถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ
“ไนต์ทำอะไรลูก”
เสียงหญิงวัยกลางคนทำให้ทั้งคู่รีบผละตัวออกจากกันทันทีราวกับโดนของร้อน ไซซีหันไปมองคนที่เรียกชื่อร่างสูงก่อนจะฉีกยิ้มแห้งและยกมือไหว้ตามมารยาทแม้จะไม่รู้ว่าผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเป็นใครก็ตาม
“แม่มาถึงนานหรือยังครับ” ร่างสูงถามย้อนก่อนจะเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่
“พึ่งมาถึงจ้ะ แล้วนี่” เพตรามองไปยังเด็กสาวที่มีใบหน้าสะสวย ตอนเธอเดินเข้ามาก็ทันได้เห็นว่าทั้งคู่ใกล้ชิดและดูสนิทสนมกันมาก
“แฟนไนตเหรอลูก”
“ไม่ใช่ครับ/หนูจีบพี่ไนต์อยู่ค่ะ” ไนต์หันขวับไปมองไซซีทันทีเขาไม่คิดว่าเธอจะใจกล้าพูดต่อหน้าแม่เขา
“หนูน่ะเหรอ” ไซซีพยักหน้ารัวพลางอมยิ้มมองร่างสูงด้วยแววตาเปล่งประกายวาววับจนหญิงวัยกลางคนยกมือขึ้นมาป้องปากหัวเราะเบาๆ
“ถ้าเอาชนะใจคนปากแข็งได้แม่ยกให้”
“จริงเหรอคะ”
“แม่!”
ไนต์เอ่ยเสียงเข้มเมื่อได้ยินผู้เป็นแม่เอ่ยให้ท้ายไซซีทั้งที่พึ่งจะเคยเจอกันเองทำไมรู้สึกว่าสองคนนี้ดูเข้ากันแปลกๆ
“แม่รีบไปเถอะไนต์มีงานต้องทำต่อ”คิดได้ดังนั้นร่างสูงก็เอ่ยขัดขึ้นมาทันทีขืนอยู่นานยิ่งเข้าทางไซซีหมด
“หนูไปทานด้วยกันไหม”
“เอ่อไม่ดีกว่าค่ะ”
แม้จะเป็นคนทะเล้น ขี้เล่น และใจกล้าแต่มารยาทกับผู้ใหญ่ก็มีแม้แม่พี่ไนต์จะแทนตัวเองว่าแม่และเอ่ยชวนแต่เธอก็เกรงใจอีกอย่างก็ให้ความเป็นส่วนตัวกับครอบครัวเขาด้วย
“ไปด้วยกันเถอะนะหนู”
ไนต์มองแม่ของเขาคะยั้นคะยอให้ไซซีไปด้วยโดยไหนจะท่าทางเอ็นดูนั่นอีกตั้งแต่เด็กจนโตภาพจำของเขาที่มีต่อแม่คือผู้หญิงที่ไม่มีปากเสียงยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อความรักจนย้ายมาอยู่ไทยแม่ก็ยังสงบเงียบอยู่แต่ในคฤหาสน์ไม่ยอมเข้าสังคมจนวันนี้ไม่รู้คิดอะไรถึงนัดเขามาทานข้าวนอกบ้านและได้เจอกับไซซีแม่ก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้น
เขาชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะหันไปมองไซซีและเอ่ยปากชวนเธอออกมา
“ไปด้วยกันเถอะซี”
ร่างสูงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลงทำให้ร่างบางมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาหัวใจเต้นแรงจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ก่อนจะพยักหน้าตกลงเรียกรอยยิ้มจากหญิงวัยกลางที่มองทั้งคู่อยู่