“นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร”
“อ้าวคราม”
เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนครามจะทรุดตัวลงนั่งข้างไซซี วันนี้ช่วงเย็นเธอมีเรียนเชื่อมซึ่งนักศึกษาของสาขาโยธาปีหนึ่งบางส่วนก็มาใช้งานเชื่อมที่ช็อปเครื่องกลเหมือนกันครามเลยเข้ามาทักทาย
ครามกับเธอรู้จักกันตั้งแต่เทอมแรกเพราะเป็นตัวแทนดาวเดือนของคณะจนประกวดจบทั้งคู่ก็ต้องทำงานร่วมกันบ่อยเลยเป็นเพื่อนที่สนิทกันแน่นอนบางคนก็จับจิ้นซึ่งพวกเรามองว่ามันตลกไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งต่อกัน
“อ่านข่าวอยู่น่ะ”
ว่าพลางยื่นหน้าจอมือถือไปตรงหน้าของคราม ในนั้นมีข่าวจากเพจเม้าท์มอยเซเลบของมหาลัยที่พูดถึงประเด็นร้อนระหว่างเธอและพี่ไนต์
“ถึงว่าตาเยิ้มเชียว คบกับเขาแล้วเหรอ”
“ไม่อะ ฮ่าฮ่า”
“ก็นึกว่าคบกันแล้ว”
“ถ้าคบฉันสาบานเลยจะโพสต์รูปพี่ไนต์ลงไอจีเจ็ดวันติด”
“เหอะ จะมีวันนั้นไหม”
“ปากหมามาก!”
“ก็จริง”
ร่างบางทำปากคว่ำอย่างไม่พอใจทำทุกคนถึงคิดว่าเธอจะไม่สมหวังไม่คิดจะอวยพรกันหน่อยเหรอเสียใจนะ!
“ไม่คุยกับนายแล้วไปหาของกินดีกว่าป้าบัวยังไม่เก็บร้านคงจะมีลูกชิ้นเหลือ”ร่างบางลุกขึ้นยืนก่อนจะปัดกางเกงเพราะที่พวกเธอนั่งคือแถวบันได
“ไปด้วยหิวเหมือนกัน”และครามก็ลุกตามทันที
“ตามติดฉันเป็นเงาแบบนี้ไม่ใช่เกิดพิศวาสกันหรอกนะ”ไซซีเอ่ยติดตลกก่อนจะหุบปากฉับเมื่ออีกฝ่ายนิ่ง
“....”
“เอ่อล้อเล่น ไปดิกินลูกชิ้นกันเดี๋ยวหมดก่อน”สาวสวยดาวมหาลัยเบี่ยงประเด็นก่อนจะเดินนำเพื่อนไปยังร้านขายลูกชิ้นของคณะซึ่งอยู่ไม่กลจากช็อป
เห็นการเรียนดูสบายเพราะเมื่ออาจารย์สอนเสร็จพวกเธอก็ต้องลงมือทำเองในเซคชั่นหนึ่งมีจำนวนนักศึกษาเยอะมากก็ต้องสลับกันใช้อุปกรณ์แม้ที่มหาลัยจะมีเครื่องไม้เครื่องมือครบแต่ก็ยังไม่พอต่อจำนวนนิสิตนักศึกษาอยู่ดี
“ป้าบัวสวัสดีค่ะ วันนี้ปูอัดเหลือไหมคะ?” เมื่อเดินมาถึงร้านลูกชิ้นเจ้าประจำฉันก็เอ่ยทักทายและเปิดฝาหม้อนึ่งลูกชิ้นดูตามความเคยชิ้น
“เหลือค่ะลูกหยิบเลย” ป้าบัวเอ่ยอย่างใจดีฉันเลยหันมาถามครามว่าจะเอาอะไร
“นายอะกินไร”
“เอาเหมือนเธอ”
“โอเค”
เมื่อเลือกลูกชิ้นได้ก็จ่ายเงินก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะเพราะขี้เกียจกินใส่ถุงนั่งกินเสร็จค่อยกลับไปที่ช็อประหว่างกัดปูอัดอยู่สายตาดันเห็นพี่ไนต์ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างตึก
หลังจากนั้นสายตาของฉันก็เอาแต่มองเขาไม่หยุดจนกระทั่งยัยดาน่าดาเน่าเดินเข้ามาในรัศมีสายตายัยคนนี้ไม่เข็ดเลยเธออุตส่าห์ออกตัวแล้วนะ
“ครามฝากลูกชิ้นแป๊บนะเดี๋ยวมา”
“เฮ จะไปไหนซี”
ฉันไม่สนใจเสียงของครามนอกจากรีบตรงดิ่งไปยังสองคนนั้นยัยดาน่ากำลังยิ้มและพูดอะไรบ้างอย่างกับพี่ไนต์ท่าทางน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
“พี่ไนต์มีเรียนเหรอคะ” เสียงหวานดัดจริตของดาน่าทำฉันระคายหูมากอยากจะบอกว่ายัยโง่ชุดที่เขาใส่ก็บ่งบอกแล้วไหมยังจะถาม!
“....”
“เอ๋ เมื่อเช้าเห็นพี่ไนต์มาส่งไซซีด้วยคงจะสนิทกันน่าดูนะคะ ดาน่าก็อยากสนิทกับไซซีเหมือนกันติดตรงที่…”พอพี่ไนต์ไม่ตอบยัยดัดจริตก็ยังจะถามต่อ
“ตรงที่ฉันไม่อยากสนิทกับเธอไง”เมื่อเดินมาถึงเสียงของดาน่าก็ดังชัดแจ๋วเลยร้อยวันพันปีจิกกันฉันตลอดไหงวันนี้สตออยากทำความรู้จักฉันขึ้นมา
“อุ๊ย!ไซซี”ท่าทางตกใจปนหวาดกลัวของดาน่าทำให้ร่างสูงขมวดคิ้ว เขายืนสูบบุหรี่อยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามารบกวนพื้นที่ความสงบ
ตอนแรกเขาคิดจะเดินหนีแล้วแต่ไซซีกลับโผล่มาพร้อมสอดแขนเข้ามากอดต้นแขนเขาไว้แน่นเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของ
“ใช่ ฉันเอง!ทำท่าตกใจทำไมอะ แอบมาคุยกับของคนอื่นยังจะมีน่าแอ๊บตกใจอีก” ท่าทางราวจงอางหวงไข่ทำเขายกมุมปากไซซีปากจัดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“แรงเกินไปนะ แล้วพี่ไนต์ไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่อย่ามาโมเม ที่สนิทเพราะเธอเป็นน้องเพื่อนพี่เขาต่างหาก”ดาน่ามองอย่างไม่พอใจก่อนจะเอ่ยประโยคแทงใจดำแต่คนอย่างไซซีหรือจะสน
“แล้วไง เธอล่ะเป็นอะไรคนแปลกหน้า เอ๊ะ!หรือเป็นคนหน้าแปลก?” ร่างบางเอ่ยอย่างยั่วยุทำให้ดาน่ากัดฟันกรอด ยกนิ้วชี้หน้าสาวสวยดาวมหาลัยที่เป็นหนามยอกอกอย่างไม่อายชายหนุ่มที่ตัวเองหมายปอง
“ยัยไซซี!”
“ไม่สนิทอย่ามาเรียกชื่อแบบจิกหัวนะยัยดาเน่า”
“พี่ไนต์คะ..”
ดาน่ากัดฟันพยายามระงับอารมณ์ก่อนจะช้อนตามองชายหนุ่มตรงหน้าแต่เขากลับเมินหน้าหนีทำให้เธอได้แต่ฟึดฟัดอย่างไม่พอใจ
“อย่ามาเรียกชื่อพี่ไนต์ของฉัน”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
เมื่อทำอะไรไม่ได้ดาน่าก็รีบหนีไปด้วยความอับอายนอกจากจะไม่ได้ทำความรู้จักหนุ่มฮอตแล้วยังโดนศัตรูอย่างไซซีด่าอีกเธอรับไม่ได้และไม่กล้าสู้หน้าเขา
“ไม่รับฝากยะ!”
ไซซียกยิ้มร้ายก่อนจะนอนเอนหัวไปซบไหล่ของชายหนุ่มแต่เขากลับเบี่ยงตัวหลบทำให้เธอที่กอดแขนเขาอยู่เงยหน้าขึ้นไปมองอย่างไม่พอใจ
“ทีเมื่อกี้ทำเฉยเลยนะ ไม่เห็นจะปฏิเสธแบบนี้”
“แล้วยังไง”
ร่างสูงก้มมองเธอในชุดวอร์มใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางทรงผมรวบขึ้นปล่อยน่าม้าลงมาก็ดูน่ารักดี ….สวยก็ชมแต่ไม่ได้คิดอะไร
“เอ๋ มองนานขนาดนี้ตกหลุมรักซีเหรอ”
ไซซีหรี่ตามองก่อนจะเอ่ยเสียงใสทีเล่นทีจริงแต่ก็แอบคาดหวังแหละแม้คิดไว้แล้วว่าเขาจะต้องปฏิเสธด้วยใบหน้าเรียบเฉยน้ำเสียงนิ่งเย็นชาก็ตามแต่ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยแบบไม่รักษาน้ำใจขนาดนี้
“หึ เห็นเธอเป็นไม้กันหมาต่างหาก”
“แรงนะ”
“แล้วไงเธอทำของเธอเองพี่ไม่ได้ขอ”
“รู้แล้วค่ะย้ำอยู่ได้”
ร่างบางหน้าบึ้งยกแขนขึ้นมากอดอกนัยน์ตากลมสวยมีเสน่ห์จ้องมองเขายิ่งเห็นเขานิ่งยิ่งหงุดหงิดจนกระทั่งมีเสียงเอ่ยแทรกขึ้นมา
“ซี จะกลับหรือยัง?”
ไนต์ปรายตามองตามเสียงเรียกที่กำลังเดินมาหาไซซีด้วยความสงบนัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นใครเขาจำได้ว่ามันเคยเดินกับเธอในวันแรกที่เธอกล้าเมินหน้าหนี
“คราม ขอโทษทีจะกลับตอนนี้แหละ”
“งั้นไปเลยไหมเหมือนเราสองคนจะออกมานานแล้ว”
“พี่ไนต์มาทำอะไร? ดูดบุหรี่เหรอพี่”
ระหว่างนั้นครามเลยเอ่ยทักทายรุ่นพี่ที่เขาพอจะรู้จักแต่ไนต์ไม่ตอบก่อนจะใช้ปลายเท้าขยี้บุหรี่บนพื้นและเดินออกจากบริเวณนั้นไปทำให้ไซซียิ้มแห้ง
“ขอโทษนะ พี่เขาคงรีบนายไม่ได้โกรธพี่ไนต์ใช่ไหม”แม้จะแอบหมั่นไส้เขาแต่เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนมองเขาไม่ดี
“ไม่ฉันจะโกรธสุดที่รักของเธอได้ยังไง”
“เออพูดถูกใจมาก ปะกลับกันเถอะ”
“อืม”
หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาที่ช็อปเพื่อทำงานเพราะได้คิวใช้อุปกรณ์พอดิบพอดีเมื่อมาถึงก็โดนซินเซียบ่นที่หายไปไม่บอกก่อนจะลากแขนไซซีให้ไปทำงานด้วยกันส่วนครามก็แยกตัวไปหาเพื่อนสาขาตัวเอง
“เหม่ออะไรยัยซี ทำไมไม่ใส่แว่นป้องกันเดี๋ยวสะเก็ดไฟก็กระเด็นเข้าตาหรอกแม้จะมีผ้ากันสะเก็ดแล้วก็ตาม”ซินเซียเท้าเอวเอ่ยเสียงดุทำให้ไซซียิ้มแห้งและรีบทำตามทันที
“เปล่าๆ ใส่ตอนนี้แหละ” เธอกุลีกุจอหยิบแว่นมาใส่ทันทีเดี๋ยวโดนดุอีก
“แล้วหายไปนานมากเว่อร์ฉันนั่งรอตั้งนาน”
“ขอโทษ ไปเจอพี่ไนต์พอดี”
“ตลอดแหละแกน่ะ”
“อย่าบ่นเยอะได้ไหมเล่า”
“วอแวมากกับพี่ไนต์เนี่ยจับเขามอมเหล้าแล้วลากเข้าห้องไปเลยไหมจะได้จบๆ เผื่อได้สมใจแล้วจะหายอยาก”
“พูดจาอะไรน่าเกลียด ถึงว่าเฮียโซ่ชอบบ่นว่าแกพูดไม่น่ารักตั้งแต่มีแฟน”
“หรือแกไม่คิด” เพื่อนยกยิ้มร้าย เห็นไหมซินเซียไม่เคยใสแผนการนางชั้นสูงมาก
“ก็เอ่อ มีคิดแหละ” ไซซีตอบอ่อมแอ่ม
“เอาดีๆ”
“เออ อยากได้ชอบเขาจะเอาจบไหม!”
“ก็แค่เนี่ย เอาหูมานี่เดี๋ยวบอก”
ไซซีเอียงหูเข้าไปหาเพื่อนสาวก่อนแผนการบางอย่างจะไหลเข้าสู่โซนประสาทพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของเธอ