วันนี้เธอตื่นนอนมาด้วยอารมณ์ที่สดใสและดูมีความสุข เธอเดินลงมาทานอาหารเช้าก่อนทุกคนในบ้าน ป้าขวัญที่เห็นเธอลงมาจากชั้นบนก็ตกใจที่เธอยอมลงมาทานข้าวได้แล้วยังดูสดใสร่าเริงมากขึ้น
“นี่คุณพ่อยังไม่ลงมาหรอคะป้าขวัญ”
“ค่ะ”
“ทำไมป้าขวัญ มองเมย์แบบนั่นละคะ แปลกใจหรอที่เมย์ลงมาทานข้าวเช้าได้ วันนี้เมย์อารมณ์ดีไงคะเลยอยากลงมาทานข้าวเช้าพร้อมคุณพ่อ”
ป้าขวัญยิ้มออกมาได้ แต่พอหันไปเห็นใบหน้าของเมย์ษญาที่มองไปอีกทางพร้อมหุบรอยยิ้มนั้นก็หันไปมองตามเธอ
“ตอนนี้เมย์เริ่มอารมณ์ไม่ดีอีกแล้วละคะ”
เธอมองอัทธกานต์ที่เดินมานั่งลงที่โต๊ะทานข้าวแต่เขาทำเหมือนเธอเป็นแค่ธาตุอากาศ
“ใครให้นายมานั่งทานข้าวตรงนี้”
“...”
เขาไม่ตอบแต่หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านแล้วนั่งกินกาแฟไม่สนใจเธอ
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ใครให้นายมาร่วมนั่งโต๊ะกับพวกฉัน...นี่ไอ้หมาอิท แกไม่ได้ยินที่ฉันพูดใช่มั้ย ฉันถามว่าใคร....”
“คุณอาอนุญาตให้ผมมาทานข้าวที่นี่”
เขาหันไปหาเธอแล้วก็หันกลับมาอ่านหนังสือต่อ
“แต่ฉันไม่อยากร่วมนั่งโต๊ะกับนาย ลุกออกไปฉันไม่อยากนั่งโต๊ะร่วมกับคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้า หรือเป็นลูกหลานของคนที่หวังจะรวยทางลัดอย่างพวกนาย”
“คุณเมย์”
เขาหุบหนังสือพิมพ์พูดชื่อเธอเสียงดังแล้วยืนขึ้นด้วยความโมโห
“ทำไมแกจะทำไมฉัน”
ป้าขวัญมองทั้ง 2 คนที่เริ่มจะดูบานปลาย
“คุณเมย์คะ”
ป้าขวัญจับแขนเธอให้เธอใจเย็นลง แล้วพ่อเธอกับอรอุมาว่าที่แม่เลี้ยงก็เดินมาคู่กัน เมย์ษญาหันไปมองทั้ง 2คนที่เดินมา ก็นึกโมโหในใจแต่ก็เก็บอารมณ์ไว้
“อิท เกิดอะไรขึ้นจ่ะ”
อรอุมามองไปที่อัทธกานต์เพื่อถามเขาที่เห็นสีหน้าดูไม่ดีนัก
“ไม่มีอะไรนี่คะ หลานชายของคุณคงไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับเมย์เพราะรู้สึกเจียมตัวเองนะคะ”
เธอพูดแทรกเขาออกไปแต่สายตาก็หันไปมองทางอรอุมา
“เมย์”
พ่อเรียกเชื่อลูกสาวเพื่อให้เธอหันมาหา
“คุณพ่อ...เมย์อยากทานข้าวกับคุณพ่อแค่ 2 คนไม่ได้หรอคะ เมย์เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเมย์ก็อยากได้มีเวลาอยู่กับคุณพ่อ 2 คน”
เธอเน้นคำว่า 2 คนแล้วหันไปทางอรอุมา จนอัทธกานต์รู้สึกได้ว่าเธอพูดเพื่อประชดน้าสาวของเขา
“เอ่อ... พ่อว่า.”
“ไม่เป็นรไรครับคุณอา เดี่ยวผมพาน้าอรออกไปทานข้าวข้างนอกก็ได้ คุณอาจะได้มีเวลาอยู่กับคุณเมย์ เพราะถึงพวกเราอยู่คุณเมย์คงจะทานอาหารไม่อร่อย”
“555 นายนี่เก่งนะ รู้ตัวก็ดีแล้วละรีบไปซิจะยืนอยู่ทำไมละ”
เมย์ษญามองหน้าเขาอย่างท้าทาย
“อร”
พ่อหันไปหาภรรยาเขารู้สึกหนักใจมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ อรออกไปทานข้าวข้างนอกกับตาอิทก็ได้ แล้วเดี๋ยวเราค่อยเจอกันที่บริษัทนะคะ”
อรอุมามองหน้าสามีแล้วยื่นมือไปจับตัวเขาเพราะเธอรู้ดีว่าเขาคงหนักใจมาก ซึ่งเขาก็มองเธอด้วยความเห็นใจ
“แล้วเจอกันที่บริษัทนะ อาฝากน้าอรด้วยนะอิท”
“ครับคุณอา ไปครับน้าอร”
เขาตอบรับแล้วพาน้าสาวเดินออกไป แต่ก็ไม่วายหันกลับมามองสายตาของเธอที่ดูร้ายการเหมือนนางมารร้าย
“คุณพ่อคะ มานั่งตรงนี้เถอะคะ”
เธอเดินไปจับแขนพ่อไว้แล้วพาเขามานั่งที่หัวโต๊ะ
“เมย์ไม่ได้ทานข้าวเช้ากับคุณพ่อมานานแล้วนะคะ เวลาคุณพ่อไปหาเมย์ที่นู้นคุณพ่อก็อยู่กับเมย์ แค่ 2-3 วันเอง เมย์อะคิดถึงคุณพ่อม๊ากมาก”
เธอยิ้มให้พ่อเธอแล้วก็จับแขนพ่อมองตาปริบๆ
“พ่อต้องทำงาน เมย์ก็รู้พ่อทิ้งงานไปนานไม่ได้ แต่พ่อก็คิดถึงเมย์ตลอดเลยนะ”
เขายิ้มให้เธอแล้วก็ตอบเธอออกไป
“หรอคะ คุณพ่อน่าจะไม่อยากทิ้งอย่างอื่นไปนานมากกว่านะ...”
เธอจ้องไปในแววตาของพ่อตัวเองอย่างหาคำตอบ
“เมย์ คุณอรเขาไม่ใช่...”
“เมย์ไม่อยากพูดถึงผู้หญิงคนนั้นตอนนี้ค่ะ เมย์กลัวจะกินอะไรไม่ลง ทานเถอะคะคุณพ่อ...”
เธอก้มลงทานอาหารโดยไม่ได้สนใจพ่อตัวเองว่าตอนนี้เขารู้สึกหนักใจขนาดไหนที่ลูกสาวกับแม่เลี้ยงอย่างอรอุมาดูจะเข้ากันไม่ได้เลย
“วันนี้เมย์เข้าบริษัทไปกับคุณพ่อด้วยนะคะ เมย์เหงาไม่รู้จะไปไหน”
เธอหันมาบอกพ่อตัวเองแล้วก้มลงไปทานข้าวต่อ
“เมย์ก็เรียนจบแล้ว อยากมาทำงานมั้ยพ่อจะได้ดูตำแหน่งที่เมย์อยากทำให้”
“ไม่อะคะ เมย์จบแฟชั่นมานะคะคุณพ่อ เมย์ไม่ได้จบบัญชีหรือบริหารมาซะหน่อย แล้วเมย์ก็ไม่อยากนั่งทำเอกสารด้วยเห็นแล้วปวดหัว”
เขามองเธอแล้วรู้สึกหนักใจที่ลูกสาวคนเดียวไม่ได้มีใจอยากสานธุรกิจของครอบครัวเลย เขาคิดถึงปัญหาที่จะตามมาแล้วก็กลุ้มใจ
.....
บริษัท เมซาญา ไทยแลนด์
ธุรกิจนำเข้าส่งออกทุกอย่างที่เป็นของคนไทยผลิตเพื่อนำออกไปขายต่างประเทศ และ ของต่างประเทศมาขายในไทยเพื่อแลกเปลี่ยนกัน เป็นบริษัทรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
“คุณพ่อไปทำงานเถอะคะ เดี่ยวเมย์เดินเล่นรอบบริษัทเอง จะได้ไม่รบกวนคุณพ่อด้วย แล้วตอนเที่ยงเมย์รอทานข้าวพร้อมคุณพ่อนะคะ”
พ่อยิ้มให้เธอแล้วพยักหน้ารับแล้วเขาก็เดินเข้าห้องทำงานไป
“คุณเป็นเลขาคนใหม่ของท่านประธานหรอ”
เมย์ษญาเดินมาหาเลขาหน้าห้องของพ่อ
“ค่ะ ดิฉันนันทาพร หรือเรียกว่านันก็ได้นะคะ นันเป็นเลขาของท่านประธานค่ะ” เธอลุกขึ้นตอบเมย์ษญาด้วยท่าทางนอบน้อม
“เธอมาทำงานที่นี่กี่ปีแล้ว”
“นันมาเป็นเลขาท่านได้ 3 ปีแล้วคะ”
เธอเริ่มทำสีหน้าไม่พอใจ
“แล้วคุณอรอุมาเขาไปไหน.?”
นันทาพรเลขาของพ่อเธอมองหน้าด้วยความลำบากใจ
“เอ่อออ คือ คุณอรอุมาเธอเป็นผู้ช่วยประธานบริษัทนะคะ”
“ผู้ช่วยประธานบริษัท.?”
เธอทวนคำตอบแล้วทำหน้าไม่พอใจ รีบเดินออกจากตรงนั้นเพื่อตรงไปที่ห้องผู้ช่วยบริษัททันที
…..
ห้องทำงาน
ผู้ช่วยประธาน: อรอุมา อโนชีวิน
“สวัสดีค่ะ ผู้ช่วยประธานบริษัทคนใหม่ คุณอรอุมา อโนชีวิน”
เมย์ษญาเปิดประตูเข้ามาแล้วตะโกนพูดชื่อเธอออกมาจนสะดุ้ง
“คุณเมย์....”
เธอมองเมย์ษญาด้วยความแปลกใจที่เธอเข้ามาที่นี่ได้ยังไง
“เป็นยังไงคะได้นั่งในที่ที่แม่ฉันเคยนั่ง ได้อยู่ในห้องที่แม่ฉันเคยอยู่ แล้วยังได้สามีของแม่ฉันไปครองได้อีก คุณนี่เก่งนะได้เลื่อนจากเลขาหน้าห้องมาเป็นผู้ช่วยท่านประธานได้เร็วดีจริงๆ .”
เมย์ษญามองหน้าอรอุมาว่าที่แม่เลี้ยงที่เธอรู้สึกเกลียด
“ทำงานกับพ่อฉันมาตั้งหลายปีคงจะคิดเรื่องนี้มานานแล้วซินะ”
“คุณเมย์คะ อรไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณพ่อของคุณเลยนะคะ อรรัก....”
“หยุด อย่ามาพูดคำนี้กับฉัน เพราะฉันไม่มีวันเชื่อว่าเธอจะรักพ่อฉันจริง เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการอะไร แต่ดูนี่...”
เมย์ษญาผายมือไปรอบๆ ห้อง เธอมองไปตามมือแล้วก็ก้มหน้าลง
“นี่คือสิ่งที่เธอได้มันมาทั้งหมด แล้วเธอยังบอกอีกหรอว่าเธอไม่ต้องการอะไร ฉันอยากจะรู้นักว่าก่อนหน้าที่ฉันไม่อยู่เธอคงจะไม่ได้เป็นแค่เลขา.... แต่คงเลียทั้งขาทั้งตัวคุณพ่อเลยมากกว่า”
“มันจะมากไปแล้วนะคุณเมย์”
อัทธกานต์เปิดประตูเข้ามาแล้วพูดตะโกนแทรกเธอด้วยความไม่พอใจ เขารู้ว่าเมย์ษญามาที่บริษัท แล้วได้ยินคนในบริษัทซุบซิบว่าเมย์ษญาเข้ามาในห้องของผู้ช่วยท่านประธานเขาจึงรีบมาทันที
“น้าอร ไม่ต้องไปคิดมากกับคำพูดของคนที่หวงพ่อเหมือนเด็กไม่รู้จักโตหรอกครับ”
เขาเดินมาหาน้าสาวที่ตอนนี้ยืนร้องไห้อยู่ด้วยความเสียใจที่เธอกำลังเข้าใจผิด
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ แล้วฉันก็เรียนจบแล้วด้วย”
“หรอครับ ผมนึกว่าคุณยังดูเป็นเด็กอยู่เลยนะ เพราะเห็นนมก็ยังไม่ขึ้นเลย แล้วยังทำตัวเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโตอีก”
เธอรีบเอามือปิดหน้าอกตัวเอง
“ไอ้ ไอ้ ไอ้บ้าาา ถ้าแม่ฉันยังอยู่พวกแกไม่มีทางขึ้นมาอยู่จุดนี้ได้หรอก พวกแกอย่านึกนะว่าคุณพ่อเป็นคนให้พวกแกขึ้นมาชูคอบนนี้ได้ แล้วฉันจะทำอะไรพวกแกไม่ได้”
“ผมมาอยู่จุดนี้ได้ด้วยความสามารถของผมเอง น้าอรก็ทำงานกับพ่อคุณมาเป็น 10 ปี ก็ไม่ผิดที่พ่อคุณจะไว้ใจ เชื่อใจน้าอรจนได้มายืนตรงจุดนี้ คุณอย่าใช้ความอคติของคุณมาตัดสินว่าผมและหน้าอรจะเป็นอย่างที่คุณคิด เพราะมันไม่ใช่”
เขาพูดกระแทกใส่หน้าเธอ เธอเดินเข้ามาใกล้าเขาแล้วพูดใส่หน้าเขา
“ฉันไม่ได้อคติ เพราะฉันวัดจากสิ่งที่ฉันเห็น พวกแกมายืนจุดนี้ได้ยังไงฉันไม่สน เพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนทำให้พวกแกลงไปอยู่จุดเดิมเอง”
“ผมจะคอยดู...”
เขามองเธออย่างท้าทาย ทั้ง 2 คนจ้องหน้ากันด้วยความรู้สึกที่เกลียดกันอยากเอาชนะกัน
อรอุมามองทั้งคู่ด้วยสายตาแห่งความหนักใจ แล้วกังวลใจเรื่องของท่านประธานขึ้นมาว่าจะทำยังไงต่อไปยิ่งถ้าเขารู้ว่าเมย์ษญายังเป็นแบบนี้ เขาคงเครียดมากจนทำให้เธอเป็นห่วงอาการของเขาว่าจะเป็นหนักขึ้น ยิ่งใกล้เวลามากขึ้นเท่าไหร่เธอยิ่งกังวลใจ