เมยเมย์ษญาประชดด้วยการไม่ออกมาจากห้อง ไม่กินข้าว เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยอมเปิดปนะตูให้ใคร แม้แต่ป้าขวัญแม่บ้านคนสนิทที่เคยเลี้ยงดูเธอมากับแม่ของเธอตั้งแต่เล็ก ทุกคนพยายามเคาะประตูเรียกเพื่อให้เธอเปิดก็ไม่ยอม และดื้อว่าถ้าใครเอากุญแจไขเข้ามาเธอก็จะกระโดดระเบียงหนีไปเลย ป้าขวัญกลัวว่าเธอจะทำจริงเลยไม่กล้าไขเข้าไปในห้อง
“คุณเมย์คะ เปิดประตูให้ป้าเถอะค่ะ ไม่ทานอะไรแบบนี้ทั้งวันแล้วนะคะ เดี่ยวก็หิวเป็นลมไปหรอกค่ะ ออกมาทานอะไรซักหน่อยนะคะคุณเมย์”
ป้าขวัญเรียกเธออยู่หน้าห้อง
“ไม่ เมย์ไม่กินปล่อยให้เมย์ตายไปเลย”
เธอตะโกนออกมาจากในห้อง
“คุณเมย์ อย่าพูดแบบนั้นซิคะ ถ้าคุณเมย์เป็นอะไรไปคุณท่านจะทำยังไงละคะ ออกมาทานข้าวนะคะคุณเมย์”
“เมย์ตายไปซะคุณพ่อคงจะดีใจที่ไม่มีใครมาขวางทางรัก ปล่อยเมย์เถอะค่ะคุณพ่อจะได้มีความสุข”
เธอพูดเสียงประชดออกมา
“ป้าขวัญครับ”
อัทธกานต์เดินมาเห็นป้าชวัญที่ยืนเคาะประตูอยู่นานแล้วก็เดินเข้ามาหา
“ปล่อยคุณเมย์เธอไปเถอะครับ เดี๋ยวเธอหิวเธอก็ลงไปกินเอง”
“แต่นี้ตั้งแต่เช้าคุณเมย์ยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะคะ”
ป้าขวัญสีหน้าดูเป็นห่วงเมย์ษญามาก
“เธอก็คงทานได้แค่น้ำที่อยู้ในห้องประทังความหิวไปก่อน ไม่พ้นคืนนี้หรอกครับป้า ยังไงเธอก็คงทนหิวไม่ได้นาน”
ป้าขวัญมองเข้าไปที่ประตูห้องของเมย์ษญา
“ไปเถอะครับป้าขวัญ”
ป้าขวัญมองหน้าเขาแล้วก็พยักหน้าให้แล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น เขามองไปที่ประตูห้องของเมย์ษญา
“ทำตัวเป็นเด็กประชดพ่อตัวเอง อยากจะดูเหมือนกันจะอดข้าวได้นานแค่ไหน”
เขาพูดแล้วก็ส่ายหน้าในความดื้อรั้นของเธอ แล้วเขาก็เดินลงบันไดไป
“ทำไมเสียงเงียบไป”
เมย์ษญาเดินไปที่ประตูก็รู้สึกว่าเหมือนไม่มีคนอยู่นอกห้องแล้ว
“ป้าขวัญนะป้าขวัญ หายไปไหนเนี้ย เมย์ยังไม่หายโกรธนะ คอยดูนะเมย์จะอดข้าวให้ตายไปเลย โอ้ยย”
แต่เสียงท้องร้องทำให้เธอแสบท้องจนทำให้เธอต้องร้องออกมา
“ท้องบ้านี่ จะมาร้องทำไมเนี่ยะ ห้ามร้องนะโอ้ยย.”
เธอเริ่มปวดท้องหิวข้าวมากขึ้นเพราะวันนี้ตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำ เธอเดินเอามือกุมท้องตัวเองไปนั่งที่เตียง หันไปมองรูปหัวเตียงที่มีเธอในวัยมัธยมถักเปีย 2 ข้างถ่ายรูปคู่กับพ่อแม่ เธอนึกถึงเรื่องเมื่อตอนที่แม่เธอยังอยู่
.....
อดีต
“เมย์ เปิดประตูให้แม่หน่อย”
“ไม่ค่ะ คุณเมย์ไม่ต้องมายุ่งกับเมย์เลย”
เมย์ษญาในวัย 15 ปี ตะโกนบอกแม่ด้วยความโกรธ
“เมย์ นี่ลูกยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ ออกมากินข้าวก่อนแล้วเมย์จะประชดแม่แล้วกลับไปขังตัวเองในห้องอีกครั้งก็ได้ แต่ออกมากินข้าวก่อนนะ”
ผู้เป็นแม่อ้อนวอนลูกสาวที่งอนผู้เป็นพ่อเพราะไม่ยอมให้ไปซัมเมอร์กับเพื่อนที่ต่างประเทศ
“ถ้าหนูออกมากินข้าว แม่จะช่วยพูดกับคุณพ่อให้ ออกมานะเมย์”
“จริงหรอคะ คุณแม่จะช่วยพูดให้คุณพ่ออนุญาตให้เมย์ไปซัมเมอร์กับเพื่อนที่อังกฤษจริงๆ นะคะ”
“จ่ะ แต่หนูต้องลงไปทานข้าวกับแม่ก่อน”
เมย์ษญายิ้มให้ผู้เป็นแม่ด้วยความดีใจ เธอยอมลงไปทานข้าวแล้วผู้เป็นแม่ก็ขอให้พ่ออนุญาตให้เธอไปซัมเมอร์กับเพื่อนได้จริงๆ
“เย้ๆ คุณพ่อคุณแม่ใจดีที่สุดเลย เมย์รักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ”
ทั้ง 3 คนก็หัวเราะชอบใจในความตื่นเต้นดีใจของเมย์ษญา
.....
ปัจจุบัน
“เมย์คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ ถ้าคุณแม่ยังอยู่คุณพ่อคงไม่ทำแบบนี้กับเมย์”
เธอร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงแม่ที่จากไปเธอไปแล้ว
เมย์ษญานั่งร้องให้ด้วยความเสียใจที่พ่อไม่สนใจเธอ เพราะตั้งแต่มีเรื่องเมื่อวานพ่อก็ยังไม่มาง้อเธอเลย เธอคิดว่าพ่อคงไม่รักเธอแล้วเขาคงรักเมียใหม่และหลานชายของเมียใหม่ไปแล้ว เมย์ษญาคิดแล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจอีกครั้ง จนเผลอหลับไปถึงช่วงค่ำๆ เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะความหิวยืนขึ้นมองดูนาฬิกา
“4 ทุ่มแล้วป่านนี้ทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว”
เธอพูดกับตัวเองแล้วเดินไปที่ประตูเปิดออกช้าๆ แล้วยื่นหน้าออกไปดูนิดนึงว่าข้างนอกมีใครอยู่มั้ย ไม่มีใครอยู่เธอจึงเดินออกมาแล้วปิดประตูช้าๆ ย่องลงมาข้างล่างระมัดระวังไม่ให้ใครเห็น
เมย์ษญาเดินไปที่ตู้เย็นที่อยู่โซนเคาว์เตอร์บาร์ เธอเดินเข้าไปด้านใน เปิดตู้เย็นด้านในที่มีผลไม้ ของหวาน นม ขนม มากมาย เมย์ษญาหยิบออกมาเต็มมือแล้วกินอย่างรวดเร็วด้วยความหิว เธอหยิบองุ่นกินหลายเม็ด กัดแอปเปิ้ลเข้าปากทีละคำจนเกือบหมดลูก แต่ก็ต้องชะงักที่หันไปเห็นมีคนยืนมองเธออยู่
“คุณพ่อ”
เธอหันไปมองผู้เป็นพ่อตาค้างทั้งที่ปากยังคาบแอปเปิ้ลอยู่ แล้วมือก็ยังถือองุ่นเป็นพวง
“กินแค่นี้มันจะไปอิ่มอะไร พ่อต้มมาม่าให้เอามั้ย”
เธอพูดกับลูกสาวที่ตอนนี้ยังยืนอึ้งๆ อยู่
เขาไม่ได้รอฟังเธอตอบเดินไปหยิบซองมาม่ามาแล้วฉีกใส่ชามหยิบผักและลูกชิ้นในตู้เย็นออกมาใส่ให้ด้วย แล้วตั้งหม้อขึ้นมาเพื่อเอาน้ำใส่รอจนเดือดแล้วเขาก็หยิบมาม่าแล้วของที่อยู่ในชามทั้งหมดใส่ลงไป สายตาเธอคอยจ้องมองพ่อตลอดเวลาที่กำลังตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำมาม่าให่เธอ เขาหยิบทัพพีมาคนมาม่าที่ต้มอยู่ในหม้อ
“พ่อยังจำได้ว่าสมัยก่อนตอนที่เมย์งอนพ่อ เมย์ก็ชอบอดข้าวประชดแบบนี้ ถ้าเมย์ยังไม่หายงอนพ่อกับแม่ก็จะแอบลงมาหาอะไรกินเองตอนกลางคืน จนแม่มาเห็นต้องต้มมาม่าง่ายๆ ให้เมย์กิน แล้วก็ต้องใส่ลูกชิ้นกับผักกะหล่ำให้เมย์ด้วย”
พ่อคนจนเข้าที่แล้วก็ตักใส่ชาม แต่สายตาตอนนี้ของเมย์ษญากำลังจ้องมาที่เขา ผู้เป็นพ่อเอาชามมาม่ามาวางตรงหน้าเธอ
“พ่อไม่เคยลืมว่าหนูชอบกินมาม่าใส่ลูกชิ้นแล้วก็ใส่กะหล่ำนะ พ่ออาจจะทำอร่อยสู้แม่ไม่ได้ เมย์จะกินได้มั้ยลูก”
พ่อมองเข้าไปในแววตาของลูกสาวที่ต้องการจะสื่อว่าเขารักเธอมากแค่ไหน
เมย์ษญาก้มตักมาม่าขึ้นมากินโดยไม่พูดอะไร ผู้เป็นพ่อมองเธอด้วยสายตาแห่งความรัก
“เมย์...พ่อไม่เคยลืมแม่ของหนู แม่ของหนูยังอยู่ในใจของพ่อเสมอ แล้วเมย์ก็เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ พ่อรักหนูมากกว่าใครๆ ในโลกนี้ทั้งหมดแล้ว รู้มั้ยลูก”
เขาพูดกับเธอที่กำลังก้มกินมาม่าอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นมามองพ่อตัวเองด้วยน้ำตาที่ซึมออกมา
“ต่อให้ใครมาแทนที่คุณแม่ของเมย์ คุณพ่อก็ห้ามรักเธอมากเท่ากับรักคุณแม่นะคะ แล้วคุณพ่อก็ต้องห้ามรักใครมากกว่าเมย์ด้วย”
เธอพูดออกมาด้วยน้ำตา เขามองหน้าลูกสาวที่ตาแดงๆ แล้วพยักหน้ารับปากเธอ
“เจ็บมั้ยลูก”
เขาจับแก้มของเมย์ษญาที่เขาตบเธอไปเมื่อวานนี้
“เมย์ไม่เจ็บแล้วคะเพราะคุณพ่อทำมาม่าอร่อยมาก”
เธอยิ้มออกมาให้พ่อตัวเองเพราะไม่อยากให้เขาคิดมากที่ทำเธอเจ็บ เขายิ้มออกมารู้สึกโล่งอกท่ลูกสาวที่น่ารักของเขาหายโกรธ
ทั้ง 2 คนนั้งคุยกันสนุกสนานเพราะเธอเล่าเรื่องตอนอยู่ต่างประเทศให้พ่อเธอฟังมากมาย ภาพของทั้ง2คนตอนนี้อยู่ในสายตาของอัทธกานต์ตั้งแต่แรกที่เห็นเธอเปิดตู้เย็นหาอะไรกินจนถึงตอนนี้ ที่เขาได้เห็นความผูกพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ เขามองภาพนี้ไปก็ยิ้มไปมันทำให้เขาละสายตาจากรอยยิ้มของยัยเด็กดื้อนี่ไม่ได้เลย มันดูน่ารักแล้วดูไม่มีพิษภัยต่างจากตอนกรี๊ดกราดแล้วดูเป็นนางมารร้ายจริงๆ เมย์ษญาประชดด้วยการไม่ออกมาจากห้อง ไม่กินข้าว เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยอมเปิดปนะตูให้ใคร แม้แต่ป้าขวัญแม่บ้านคนสนิทที่เคยเลี้ยงดูเธอมากับแม่ของเธอตั้งแต่เล็ก ทุกคนพยายามเคาะประตูเรียกเพื่อให้เธอเปิดก็ไม่ยอม และดื้อว่าถ้าใครเอากุญแจไขเข้ามาเธอก็จะกระโดดระเบียงหนีไปเลย ป้าขวัญกลัวว่าเธอจะทำจริงเลยไม่กล้าไขเข้าไปในห้อง
“คุณเมย์คะ เปิดประตูให้ป้าเถอะค่ะ ไม่ทานอะไรแบบนี้ทั้งวันแล้วนะคะ เดี่ยวก็หิวเป็นลมไปหรอกค่ะ ออกมาทานอะไรซักหน่อยนะคะคุณเมย์”
ป้าขวัญเรียกเธออยู่หน้าห้อง
“ไม่ เมย์ไม่กินปล่อยให้เมย์ตายไปเลย”
เธอตะโกนออกมาจากในห้อง
“คุณเมย์ อย่าพูดแบบนั้นซิคะ ถ้าคุณเมย์เป็นอะไรไปคุณท่านจะทำยังไงละคะ ออกมาทานข้าวนะคะคุณเมย์”
“เมย์ตายไปซะคุณพ่อคงจะดีใจที่ไม่มีใครมาขวางทางรัก ปล่อยเมย์เถอะค่ะคุณพ่อจะได้มีความสุข”
เธอพูดเสียงประชดออกมา
“ป้าขวัญครับ”
อัทธกานต์เดินมาเห็นป้าชวัญที่ยืนเคาะประตูอยู่นานแล้วก็เดินเข้ามาหา
“ปล่อยคุณเมย์เธอไปเถอะครับ เดี๋ยวเธอหิวเธอก็ลงไปกินเอง”
“แต่นี้ตั้งแต่เช้าคุณเมย์ยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะคะ”
ป้าขวัญสีหน้าดูเป็นห่วงเมย์ษญามาก
“เธอก็คงทานได้แค่น้ำที่อยู้ในห้องประทังความหิวไปก่อน ไม่พ้นคืนนี้หรอกครับป้า ยังไงเธอก็คงทนหิวไม่ได้นาน”
ป้าขวัญมองเข้าไปที่ประตูห้องของเมย์ษญา
“ไปเถอะครับป้าขวัญ”
ป้าขวัญมองหน้าเขาแล้วก็พยักหน้าให้แล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น เขามองไปที่ประตูห้องของเมย์ษญา
“ทำตัวเป็นเด็กประชดพ่อตัวเอง อยากจะดูเหมือนกันจะอดข้าวได้นานแค่ไหน”
เขาพูดแล้วก็ส่ายหน้าในความดื้อรั้นของเธอ แล้วเขาก็เดินลงบันไดไป
“ทำไมเสียงเงียบไป”
เมย์ษญาเดินไปที่ประตูก็รู้สึกว่าเหมือนไม่มีคนอยู่นอกห้องแล้ว
“ป้าขวัญนะป้าขวัญ หายไปไหนเนี้ย เมย์ยังไม่หายโกรธนะ คอยดูนะเมย์จะอดข้าวให้ตายไปเลย โอ้ยย”
แต่เสียงท้องร้องทำให้เธอแสบท้องจนทำให้เธอต้องร้องออกมา
“ท้องบ้านี่ จะมาร้องทำไมเนี่ยะ ห้ามร้องนะโอ้ยย.”
เธอเริ่มปวดท้องหิวข้าวมากขึ้นเพราะวันนี้ตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำ เธอเดินเอามือกุมท้องตัวเองไปนั่งที่เตียง หันไปมองรูปหัวเตียงที่มีเธอในวัยมัธยมถักเปีย 2 ข้างถ่ายรูปคู่กับพ่อแม่ เธอนึกถึงเรื่องเมื่อตอนที่แม่เธอยังอยู่
.....
อดีต
“เมย์ เปิดประตูให้แม่หน่อย”
“ไม่ค่ะ คุณเมย์ไม่ต้องมายุ่งกับเมย์เลย”
เมย์ษญาในวัย 15 ปี ตะโกนบอกแม่ด้วยความโกรธ
“เมย์ นี่ลูกยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ ออกมากินข้าวก่อนแล้วเมย์จะประชดแม่แล้วกลับไปขังตัวเองในห้องอีกครั้งก็ได้ แต่ออกมากินข้าวก่อนนะ”
ผู้เป็นแม่อ้อนวอนลูกสาวที่งอนผู้เป็นพ่อเพราะไม่ยอมให้ไปซัมเมอร์กับเพื่อนที่ต่างประเทศ
“ถ้าหนูออกมากินข้าว แม่จะช่วยพูดกับคุณพ่อให้ ออกมานะเมย์”
“จริงหรอคะ คุณแม่จะช่วยพูดให้คุณพ่ออนุญาตให้เมย์ไปซัมเมอร์กับเพื่อนที่อังกฤษจริงๆ นะคะ”
“จ่ะ แต่หนูต้องลงไปทานข้าวกับแม่ก่อน”
เมย์ษญายิ้มให้ผู้เป็นแม่ด้วยความดีใจ เธอยอมลงไปทานข้าวแล้วผู้เป็นแม่ก็ขอให้พ่ออนุญาตให้เธอไปซัมเมอร์กับเพื่อนได้จริงๆ
“เย้ๆ คุณพ่อคุณแม่ใจดีที่สุดเลย เมย์รักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ”
ทั้ง 3 คนก็หัวเราะชอบใจในความตื่นเต้นดีใจของเมย์ษญา
.....
ปัจจุบัน
“เมย์คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ ถ้าคุณแม่ยังอยู่คุณพ่อคงไม่ทำแบบนี้กับเมย์”
เธอร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงแม่ที่จากไปเธอไปแล้ว
เมย์ษญานั่งร้องให้ด้วยความเสียใจที่พ่อไม่สนใจเธอ เพราะตั้งแต่มีเรื่องเมื่อวานพ่อก็ยังไม่มาง้อเธอเลย เธอคิดว่าพ่อคงไม่รักเธอแล้วเขาคงรักเมียใหม่และหลานชายของเมียใหม่ไปแล้ว เมย์ษญาคิดแล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจอีกครั้ง จนเผลอหลับไปถึงช่วงค่ำๆ เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะความหิวยืนขึ้นมองดูนาฬิกา
“4 ทุ่มแล้วป่านนี้ทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว”
เธอพูดกับตัวเองแล้วเดินไปที่ประตูเปิดออกช้าๆ แล้วยื่นหน้าออกไปดูนิดนึงว่าข้างนอกมีใครอยู่มั้ย ไม่มีใครอยู่เธอจึงเดินออกมาแล้วปิดประตูช้าๆ ย่องลงมาข้างล่างระมัดระวังไม่ให้ใครเห็น
เมย์ษญาเดินไปที่ตู้เย็นที่อยู่โซนเคาว์เตอร์บาร์ เธอเดินเข้าไปด้านใน เปิดตู้เย็นด้านในที่มีผลไม้ ของหวาน นม ขนม มากมาย เมย์ษญาหยิบออกมาเต็มมือแล้วกินอย่างรวดเร็วด้วยความหิว เธอหยิบองุ่นกินหลายเม็ด กัดแอปเปิ้ลเข้าปากทีละคำจนเกือบหมดลูก แต่ก็ต้องชะงักที่หันไปเห็นมีคนยืนมองเธออยู่
“คุณพ่อ”
เธอหันไปมองผู้เป็นพ่อตาค้างทั้งที่ปากยังคาบแอปเปิ้ลอยู่ แล้วมือก็ยังถือองุ่นเป็นพวง
“กินแค่นี้มันจะไปอิ่มอะไร พ่อต้มมาม่าให้เอามั้ย”
เธอพูดกับลูกสาวที่ตอนนี้ยังยืนอึ้งๆ อยู่
เขาไม่ได้รอฟังเธอตอบเดินไปหยิบซองมาม่ามาแล้วฉีกใส่ชามหยิบผักและลูกชิ้นในตู้เย็นออกมาใส่ให้ด้วย แล้วตั้งหม้อขึ้นมาเพื่อเอาน้ำใส่รอจนเดือดแล้วเขาก็หยิบมาม่าแล้วของที่อยู่ในชามทั้งหมดใส่ลงไป สายตาเธอคอยจ้องมองพ่อตลอดเวลาที่กำลังตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำมาม่าให่เธอ เขาหยิบทัพพีมาคนมาม่าที่ต้มอยู่ในหม้อ
“พ่อยังจำได้ว่าสมัยก่อนตอนที่เมย์งอนพ่อ เมย์ก็ชอบอดข้าวประชดแบบนี้ ถ้าเมย์ยังไม่หายงอนพ่อกับแม่ก็จะแอบลงมาหาอะไรกินเองตอนกลางคืน จนแม่มาเห็นต้องต้มมาม่าง่ายๆ ให้เมย์กิน แล้วก็ต้องใส่ลูกชิ้นกับผักกะหล่ำให้เมย์ด้วย”
พ่อคนจนเข้าที่แล้วก็ตักใส่ชาม แต่สายตาตอนนี้ของเมย์ษญากำลังจ้องมาที่เขา ผู้เป็นพ่อเอาชามมาม่ามาวางตรงหน้าเธอ
“พ่อไม่เคยลืมว่าหนูชอบกินมาม่าใส่ลูกชิ้นแล้วก็ใส่กะหล่ำนะ พ่ออาจจะทำอร่อยสู้แม่ไม่ได้ เมย์จะกินได้มั้ยลูก”
พ่อมองเข้าไปในแววตาของลูกสาวที่ต้องการจะสื่อว่าเขารักเธอมากแค่ไหน
เมย์ษญาก้มตักมาม่าขึ้นมากินโดยไม่พูดอะไร ผู้เป็นพ่อมองเธอด้วยสายตาแห่งความรัก
“เมย์...พ่อไม่เคยลืมแม่ของหนู แม่ของหนูยังอยู่ในใจของพ่อเสมอ แล้วเมย์ก็เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ พ่อรักหนูมากกว่าใครๆ ในโลกนี้ทั้งหมดแล้ว รู้มั้ยลูก”
เขาพูดกับเธอที่กำลังก้มกินมาม่าอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นมามองพ่อตัวเองด้วยน้ำตาที่ซึมออกมา
“ต่อให้ใครมาแทนที่คุณแม่ของเมย์ คุณพ่อก็ห้ามรักเธอมากเท่ากับรักคุณแม่นะคะ แล้วคุณพ่อก็ต้องห้ามรักใครมากกว่าเมย์ด้วย”
เธอพูดออกมาด้วยน้ำตา เขามองหน้าลูกสาวที่ตาแดงๆ แล้วพยักหน้ารับปากเธอ
“เจ็บมั้ยลูก”
เขาจับแก้มของเมย์ษญาที่เขาตบเธอไปเมื่อวานนี้
“เมย์ไม่เจ็บแล้วคะเพราะคุณพ่อทำมาม่าอร่อยมาก”
เธอยิ้มออกมาให้พ่อตัวเองเพราะไม่อยากให้เขาคิดมากที่ทำเธอเจ็บ เขายิ้มออกมารู้สึกโล่งอกท่ลูกสาวที่น่ารักของเขาหายโกรธ
ทั้ง 2 คนนั้งคุยกันสนุกสนานเพราะเธอเล่าเรื่องตอนอยู่ต่างประเทศให้พ่อเธอฟังมากมาย ภาพของทั้ง2คนตอนนี้อยู่ในสายตาของอัทธกานต์ตั้งแต่แรกที่เห็นเธอเปิดตู้เย็นหาอะไรกินจนถึงตอนนี้ ที่เขาได้เห็นความผูกพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ เขามองภาพนี้ไปก็ยิ้มไปมันทำให้เขาละสายตาจากรอยยิ้มของยัยเด็กดื้อนี่ไม่ได้เลย มันดูน่ารักแล้วดูไม่มีพิษภัยต่างจากตอนกรี๊ดกราดแล้วดูเป็นนางมารร้ายจริงๆ