พันดาวได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับเพื่อน เพราะเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน แดนเหนือจะเอายังไงกันแน่ จะนั่งทำตัวเป็นหุ่นไม่พูดไม่จา ไม่บอกไม่กล่าวให้รู้ว่ามาทำไม มาด้วยเหตุผลอะไรแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน
“มึงอยากรู้มากใช่ไหมหนึ่ง”
“เออสิ” กลทีป์กระซิบตอบกลับไป
“ก็ถามสิ”
“เรื่องอะไร กูไม่ใช่เจ้าของบ้าน” กลทีป์รีบตอบในทันทีและรีบยุยงให้พันดาวรีบถาม “มึงนั่นแหละ เป็นเจ้าของบ้าน แขกมาหาก็ถามไปเลย มาธุระอะไร”
แค่อ้าปาก เธอก็ถูกสายตาเขากำราบเสียจนน้ำเสียงที่จะเปล่งออกหลุดหายเข้าไปในลำคอแล้ว จะให้ถามออกไปได้ยังไงกันล่ะ!
กลทีป์กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง เขาเพียงแค่กระซิบกับพันดาวเล็กน้อย แดนเหนือก็มองมาราวกับจะตัดคอทิ้งแบบนั้นล่ะ นี่มันคนไม่สนใจกันจริง ๆ เหรอ ที่มองมานี่...เหมือนจะประกาศเป็นเจ้าของพันดาวเลยนะ
“เออ...กูเพิ่งนึกขึ้นมาได้ มีธุระต้องไปทำต่อ ไม่ว่างอยู่ทานข้าวเช้ากับมึงแล้วนะดาว”
“ไหนมึงบอกว่ามีข่าวดีมากอยากให้กูยินดีด้วยไงหนึ่ง” พันดาวเอ่ยเสียงหวานพลางขบกัดฟันพร้อมกับเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างคนเสแสร้งที่รู้เท่าทันคนเป็นเพื่อนรัก
พันดาวไม่ยอมให้กลทีป์หนีไปจากสถานการณ์ชวนอึดอัดจนหายใจไม่ออกนี่คนเดียวง่าย ๆ เกิดเธอเผลอพูดจากผิดหูแดนเหนือไปสักนิด แล้วเขามีโทสะขึ้นมา หักคอเธอโยนไว้ในห้องล่ะ กว่าเพื่อนจะรู้ว่าเธอไปสบายแล้ว เธอคงจะขึ้นอืดอยู่ในห้องไปแล้วนะสิ
“ก็เลยจะเลี้ยงข้าวฉลองกันไม่ใช่...เหรอ” ถ้าเป็นคนคิดได้ ก็คงรู้แหละว่าเธอ...ไล่ทางอ้อม แต่กับคนตรงหน้า ดูเหมือนว่าคำพูดของเธอจะไม่เข้าหูเลยสักนิด แดนเหนือยังคงนั่งนิ่งเฉยราวกับรูปปั้นอยู่เลย
มันเกิดอะไรขึ้น...ดวงอาทิตย์ก็ไม่ได้ขึ้นเปลี่ยนทิศ ฟ้าก็ไม่ได้ร่วงหล่นลงมาต่ำ ทำไมคนที่เคยผลักไสไล่ส่งให้เธอไปอยู่ห่างไกล...ไม่แม้แต่ปรายสายตามามอง เป็นคนที่แม้จะยืนอยู่ตรงหน้าแดนเหนือก็ยังทำเหมือนว่ามองไม่เห็นด้วยซ้ำไปแต่ตอนเนี้เขากลับเดินเข้ามานั่งอยู่ในบ้านของเธอ!
“เออ...ใช่ แต่ว่าเขา...มาธุระกับมึงไม่ใช่หรือไง แกเป็นเจ้าของบ้านนะดาว จะทิ้งแขก” กลทีป์เน้นคำว่าแขก “ไปโดยไม่บอกกล่าวเล่าเรื่อง ถามว่ามาหาด้วยเรื่องอะไรได้เหรอ”
ไอ้หนึ่ง! มึง...มึงจะเทกูอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย มึงจะปล่อยให้กูอยู่กับพี่เหนือที่เหมือนจะโกรธจนหักคอกูจิ้มน้ำพริกคนเดียวได้เหรอไอ้เพื่อนรัก แต่พันดาวได้แต่ถลึงตาใส่เพื่อนที่ไม่ยอมรับมุก
“ไอ้หนึ่ง!” เธอกัดฟันเรียกเพื่อนเสียงเขียว
“มึงคิดว่าเขามาถึงบ้านขนาดนี้ เขาจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ หรือไงวะดาว”
“ก็เขาไม่พูด จะให้กูไปนั่งทางในไปถามหรือไง...ไม่ทราบว่าคุณเหนือมาหาฉันด้วยเรื่องอะไรคะ ช่วยบอกให้ฉันรู้หน่อยเถอะค่ะ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว เผลอปล้ำคุณเข้าให้ เพราะยังตัดใจจากคุณไม่ได้” พันดาวกระซิบพูดกับเพื่อน แต่คนที่นั่งเป็นหุ่นอยู่คงจะได้ยินแหละ ถึงได้หลุดเสียงบางอย่างออกมา
“มึงก็ถามปกติอย่างที่คุยกับกูกับเพื่อนเปล่าวะ ไหนบอกว่าเข้มแข็งพอที่จะทำได้แล้วไง หรือผ่านไปแค่วันสองวันจะกลับคำพูดของตัวเองเสียแล้ว” กลทีป์เลิกคิ้วขึ้น
“มึงก็รู้ กูรักพี่เหนือมากี่ปี...รักมากแค่ไหน แค่พูดว่าจะตัดใจก็เจ็บแทบตายแล้ว เวลาผ่านไปแค่หนึ่งคืน มึงคิดว่ากูจะสามารถตัดใจจากคนที่รักได้เร็วขนาดนั้นหรือไง...แล้วตอนนี้เขามานั่งอยู่ตรงหน้า มึงรู้ไหม กูตัวสั่นใจสั่น พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ถลาเข้าไปกอดเขาขนาดไหน” เธออยากมีความกล้าเอ่ยถามว่าเขามาทำไมอยู่นะ แต่...สุดท้ายพันดาวก็ได้แต่ขบกัดฟันบนกลีบปากเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นมึงก็คิดว่าเขาเป็นตอไม้...เป็นก้อนหินก็ได้ไหมล่ะ มึงจะได้ถามโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก”
หะ! เอาอย่างนั้นเหรอ แต่ก็ดีเหมือนกัน ตอไม้...ก้อนหิน มันไม่มีความรู้สึกนี่น่า
ก้อนหิน...พันดาวท่องไว้ในใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามพร้อมกับหลับตาไปด้วย เพราะคิดว่าถ้าหากตัวเองลืมตาอยู่คงจะไม่กล้าถามแดนเหนือแน่นอน
“คุณ...ถ้าคุณไม่พูด ฉันก็ไม่รู้นะคะ คุณมาหาฉันเพราะเรื่องอะไร ฉันคงไม่สามารถตอบในสิ่งที่ฉันไม่รู้ได้”
เฮ้อ! พันดาวรู้สึกเหมือนกับว่าการถามแดนเหนือแค่นี้ทำให้เธอเหมือนกับไปวิ่งมาสักสิบกิโลเมตรก็ไม่ปาน ถามจบเธอก็รีบเบือนหน้าและถอนหายใจเฮือกใหญ่ โล่งราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก ทีนี้เธอก็รอฟังว่าเขาจะตอบกลับมายังไง แต่มันเป็นอะไรที่ทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก!
“ทำไมไม่พูดเหมือนเดิม”
พูดเหมือนเดิม?
พันดาวได้แต่งุนงงและขมวดคิ้วเข้าหากัน มองคนตรงหน้าเธอราวกับพบสิ่งแปลกประหลาดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปเลิกคิ้วถามกลทีป์
“กูพูดอะไรผิดไปเหรอหนึ่ง”
กลทีป์ส่ายศีรษะบอกว่าไม่รู้เช่นกัน ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ “มึง...เมื่อก่อนมึงเรียกเขาว่าพี่เหนือและแทนตัวเองว่าหนูดาวทุกคำไม่ใช่หรือไง”
ในสายตากลทีป์ที่มองมาและยังขมุบขมิบปากถามออกมา...
‘มึงไปหว่านเสน่ห์อะไรใส่เขาหรือเปล่าวะดาว’
หะ! เธอเนี่ยนะ ไปหว่านเสน่ห์ใส่แดนเหนือ…มึงดูยังไงกันไอ้หนึ่ง สายตาที่เขามองเธอ ดูจะหงุดหงิดเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองมากกว่าไหม มองมาราวกับจะแช่แข็งเธอแบบนั้นน่ะ...
“หือ...เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ เขาถึงกับทำเป็นปากหนักไม่ยอมบอกว่ามาธุระเรื่องอะไรกับฉัน ประสาทหรือเปล่า” พันดาวพึมพำอย่างคนอารมณ์เสีย ก่อนหน้านั้นเวลาที่เธอเรียกเขาว่า
“พี่เหนือ” ปกติแล้วจะต้องพบเจอกับสายตาที่เย็นชา บางครั้งรู้สึกเหมือนกับไอเย็นแผ่มาปกคลุมร่างจนอึดอัดหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ แต่ในวันนี้เขากลับไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงของเธอ เอาตามตรง...เธอทำตัวไม่ถูกนะ
“เรื่องมากเสียจริง” พันดาวพันดาวพึมพำก่อนจะเอ่ยพูดอย่างที่กลทีป์คิดว่าใช่ออกไป
“พี่เหนือมีธุระสำคัญอะไรกับหนูดาวเหรอคะ ถึงได้มาหากันตั้งแต่เช้าแบบนี้” รีบบอกแล้วรีบกลับไปเถอะ ตอนนี้เธอรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของเขาไม่ไหวแล้ว...อยากจะเป็นลมมาก
“คุณย่าให้มารับไปพบ” แดนเหนือพูดน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดียวกับใบหน้าที่เรียบเฉย หากคนที่ได้ฟังอย่างกลทีป์และพันดาวกลับอ้าปากค้าง
เรื่องแค่นี้! เรื่องแค่นี้อะนะที่เขามานั่งกดดันเธอและเพื่อนจนแทบไม่กล้าจะหายใจ โอ้ย! อยากจะบ้าตาย ว่าแต่...คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธออยู่ตอนนี้ ใช่แดนเหนือตัวจริงหรือเปล่าวะ ทำไมถึงได้พลิกกลับหน้ามือหลังมือแบบนี้