บทที่ 4/4 รอยลิปสติกกับคาลาไมน์

910 คำ
“พี่เก้าไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกค่ะคุณท่าน ลุลีเป็นคนบอกให้เธอค้างที่นี่เอง หนูเกลเพิ่งย้ายมาก็เลยกลัวเพราะแปลกที่ แต่ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ก็คงจะดีขึ้นค่ะ” ‘ย่ะ แม่คนใจดี รอให้แม่แพรดาวตีท้ายครัวหล่อนก่อนเถอะ แล้วหล่อนจะดีไม่ออก’ “คุณท่านอย่าคิดมากสิคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่มี...จริงๆ” ท้ายประโยคนั้นจำต้องกลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ รู้สึกผิดที่ต้องโป้ปดหญิงชรา ก็จะไม่มีได้อย่างไรในเมื่อแพรดาวอยู่ข้างล่าง ป่านนี้คงนอนคิดแผนการเพื่อแย่งสามีของเธออยู่ ‘อือๆ ไม่มีก็ไม่มี แล้วนี่ทำอะไรอยู่’ “กำลังจะเข้านอนแล้วค่ะ แล้วที่สวนเป็นยังไงบ้างคะ” ‘เรื่อยๆ เหมือนทุกวันนั่นแหละ ไม่ต้องกังวลนะ อยู่ที่โน่นให้สบาย แล้วรีบมีหลานให้ฉันไวๆ นะลุลี’ มาลุลีได้แต่เออออ แต่สองหูไม่ได้ยินอะไรแล้ว แม้แต่เสียงตัดสายของคุณท่านก็ตาม นี่เธอ...ลืมเรื่องสำคัญไปได้อย่างไร! “ได้ป้องกันหรือเปล่า” “หือ?” โกมินทร์ยังไม่เข้าใจคำถาม “ก็เรื่องนั้นน่ะ ได้ป้องกันไหม ถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง!” มาลุลีร้องถามอย่างเหลืออด ทำไมเธอลืมนะ ลืมได้อย่างไร ไม่น่าเลยจริงๆ โกมินทร์หน้าตึงเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนว่าการมีลูกกับเขานั้นน่ารังเกียจเสียเต็มประดา “ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ฉัน...เพลินไปหน่อยน่ะ” คำตอบของสามีทำเอาภรรยาคนดีแทบคลั่ง เขาสนุกนักใช่ไหมกับการทำให้เธอเป็นบ้า ไม่รักไม่ว่า อยากตักตวงจากร่างเธอ เธอก็ไม่ขัดข้อง แต่ทำไม ทำไมต้องหาเรื่องเอาเด็กมาทิ้งไว้ในท้องเธอด้วย ทำไม!? พรวด! มาลุลีลุกขึ้นปุบปับ เปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อคลุมสักตัว เธอต้องไปร้านขายยาเดี๋ยวนี้ “จะไปไหน” “............ ” “ฉันถามว่าจะไปไหน!” เมื่อถามแล้วอีกฝ่ายไม่ตอบ โกมินทร์เลยต้องลุกมาถาม มือข้างหนึ่งคว้าเอาไหล่บางของภรรยา ทว่าหล่อนกลับสะบัดออกสุดแรง “ปล่อยนะ! จะบ้าหรือไง รักก็รักไม่ได้ ยังจะมาฝากเด็กไว้ในท้องอีก เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว!” “เธอนั่นแหละบ้าหรือเปล่า นี่มันมืดค่ำมากแล้วนะ อีกอย่าง...เธอรู้หรือว่าร้านขายยาอยู่ไหน” “ไม่รู้ แต่คงหาไม่ยากหรอก คุณเก้าก็เถอะ ทำไมเป็นคนแบบนี้ ไหนว่าไม่อยากให้มีเรื่องยุ่งยาก แล้วทำไมถึงได้...” เธอพูดไม่ออก มือขวากำหมัดแน่นหนึบ นี่มันกี่โมงแล้วนะ เธอควรกินยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงหรือเปล่า ให้ตายเถอะ สมองเบลอไปหมดแล้ว “ฉันลืมจริงๆ” เขาแก้ต่าง “ลืมเหรอ คนโกหก!” เธอด่าเข้าให้ มันใช่ครั้งเดียวหรือไงที่เขาตักตวงจากร่างนี้ ไม่ใช่เลย ถ้าไม่อยากมีพันธะต่อกันมากขนาดนั้น เขาก็ต้องนึกให้ออกสิ “เลิกด่าฉันเถอะ ขอร้องล่ะ” “จะด่า จะทำไม อันโน้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ ผลประโยชน์ของตัวเองพูดกรอกหูลุลีอยู่ปาวๆ แต่พอถึงผลประโยชน์ของลุลีกลับไม่เอาไม่ฟัง ถ้าลุลีท้องขึ้นมาจะทำยังไง ต้องอุ้มท้องกับคนที่ไม่ได้รักน่ะ มันทรมานแค่ไหนไม่รู้เหรอ!” โกมินทร์เริ่มโกรธจริงจัง คำก็ไม่รักสองคำก็ไม่รัก จะอะไรกันนักกันหนากับคำนี้! “ให้ท้องก่อนแล้วค่อยมาว่ามาด่าฉันก็แล้วกัน” “โธ่เอ๊ย ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ!” “ฉันก็เป็นอย่างนี้แหละ จะทำไมล่ะลุลี” เขาย้อน “ขี้โกหก เห็นแก่ตัว โอ๊ย...เยอะ!” “นั่นแหละสามีของเธอ” มาลุลีโกรธตัวเองนัก ใช่...นี่แหละความจริง เขาคือสามีของเธอ สามีที่ไม่มีวันหย่าขาดจากกันได้ จนกว่าจะถึงเวลา “คิดผิดจริงๆ ที่ตกลงแต่งงาน น่าจะคิดถึงตัวเองมากกว่าบุญคุณ” บอกตัวเองอย่างสมเพช และโกมินทร์ก็ได้ยิน “ใช่...เธอคิดผิดแล้วล่ะ คิดว่าการแต่งงานกับฉันมันง่ายนักเหรอ ถ้าเธอกล้าเอาห่วงมาคล้องคอฉัน เธอก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ต้องเจอ มานี่!” หมับ! แขนเรียวถูกดึงแรงๆ แต่มาลุลีขืนตัวไว้ โกมินทร์เลยผลักหล่อนลงที่โซฟา ก่อนจะขึ้นมาทาบทับ มาลุลีตาเบิกโต อีกแล้วหรือ ไม่นะ ยายังไม่ได้กิน จะทำแบบนั้นอีกแล้วใช่ไหม! “อย่านะ! ลุลีไม่ยอม คราวนี้จะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเลย” “เอาเลย กรี๊ดสิ กรี๊ดดังๆ ตอนที่ฉันเข้าไปอยู่ตัวเธอ กรี๊ดให้สุดเสียงแล้วมาคิดหาคำตอบให้แพรดาวกัน ว่าเธอกรี๊ดทำไม” “โธ่เว้ย!!” มาลุลีร้องออกมาดังๆ ห้ามเขาก็ไม่ได้ แค่จะร้องกรี๊ดๆ ยังไม่ได้ เกิดเป็นเมียของโกมินทร์นี่ช่างลำบากเสียจริง “ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าการมีลูกกับฉันมันน่ารังเกียจตรงไหน เด็กคนเดียวถ้าเธอไม่อยากเลี้ยงละก็ ยกให้ฉันก็ได้ตอนเราหย่ากัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม