ก้อนขมๆ วิ่งมาจุกในลำคอของมาลุลี เขาพูดเรื่องหย่าขึ้นมาได้อย่างไรในตอนที่ทาบทับเธอไว้ทั้งร่างอย่างนี้ เขาพูดออกมาราวกับเรื่องธรรมดาที่ไม่มีผลอะไรต่อใจของเขา ใช่สินะ เขาไม่ได้รักเธอนี่นา คงมีแค่หัวใจของเธอที่ต้องเจ็บปวดทรมาน
“ง่ายดีนะคะ เลี้ยงลูกเมียคนโน้นทีคนนี้ที พอหย่ากับลุลีก็คงจะมีเมียใหม่แล้วมีลูกอีกเป็นโขยง มองหน้าลูกนี่คงจำไม่ได้ว่าลูกใครเป็นลูกใคร”
“เมื่อไหร่จะหยุดเสียงแวดๆ นี่นะ ฉันรำคาญจริงๆ”
“รำคาญก็อย่ามาเข้าใกล้ รำคาญก็ปล่อยซะที ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย ฉันจะเปลี่ยนเสียงแวดๆ นี่ให้เป็นเสียงครางให้ได้เลย ทำไมชอบท้าทายผู้ชายอย่างฉันนักนะ หรือว่าเธอชอบใช่ไหม ชอบให้ฉันทำรุนแรง ชอบให้ใช้กำลัง เธอชอบหรือลุลี”
“ชอบกะผีน่ะสิ ปล่อยนะคุณเก้า ปล่อย! อื้อ...”
ปากบอกให้ปล่อยแต่เขากลับฉกจุมพิตลงมา ขยับเคลื่อนริมฝีปากประทับตราเข้ากับริมฝีปากของเธอ เรียวลิ้นอุ่นร้อนชำแรกแทรกลึกรวดเร็ว กระหวัดคว้านในโพรงปากนุ่มอุ่นอย่างตะกละตะกราม ข้อมือทั้งสองของเธอถูกจับรวบไว้เหนือศีรษะด้วยมือซ้ายของเขา ส่วนมือขวาอันแข็งแรงปัดป่ายที่เบื้องล่างและกำลังดึงกางเกงผ้านุ่มนิ่มออกจากเอวของเธอ
“อย่าดิ้น...อย่า!”
คำสั่งนั้นไม่เป็นผลต่อมาลุลี ยิ่งเขาสั่งเธอยิ่งดิ้นแรง ดิ้นไปดิ้นมาก็...
ตุ้บ!
“อ๊า!!”
โกมินทร์ร้องดังเมื่อแผ่นหลังกระทบพื้นอย่างแรง ศีรษะเขาก็ด้วย เขากับมาลุลีตกลงจากโซฟาพร้อมกันโดยที่เขาอยู่ล่าง ร่างหล่อนเกยทับอยู่เบื้องบน หล่อนลุกหนี แต่เขาไวกว่า คว้าข้อเท้าหล่อนไว้แล้วดึงเข้าหาตัว
“โอ๊ย! เจ็บนะ!” เธอส่งเสียงร้อง กางเกงชุดนอนไม่ได้หนามากมาย จะดึงจะลากอะไรนักหนา
“เธอจะหนีทำไมล่ะ ห้ามหนี ไม่รู้หรือไงว่าไฟในตัวฉันมันลุกโชนไปหมดแล้ว และมันคงไม่มีวันสงบจนกว่าฉันจะได้เข้าไปอยู่ในตัวของเธอ”
หวืด!
ร่างบอบบางถูกหิ้วไปโยนไว้บนโซฟา แรงกระทำนั้นมากจนแผ่นหลังของมาลุลีกระแทกพนักพิงแรงๆ
พรืด!!
กระดุมเสื้อนอนหลุดออกจากรังพร้อมกันถึงสี่เม็ด ด้วยมือของสามี เผยพุ่มทรวงอวบหยุ่นใต้บรานุ่มนิ่มที่ไร้โครงเหล็กดันทรง เขาดันสองขาหล่อนให้ตั้งชันแล้วดึงกางเกงนอนของหล่อนออกอีกหน ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าไปที่ระหว่างขา ปากของมาลุลีที่เตรียมจะร้องห้ามก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงครวญคราง สองมือที่คอยแต่จะผลักไสเขา ก็กดศีรษะเขาให้เขาหาหว่างขาของตัวเอง
มาลุลีเหมือนถูกมนตร์แห่งชิวหาสะกดไว้มิได้ดิ้นรนหลีกลี้ ได้แต่แอ่นหยัดกายาให้สามีชิดเชยชื่นชม แรงกระสันรัญจวนคลี่คลุมไปทั่วร่าง ดั่งยาพิษฤทธิ์ร้ายที่กำลังมุ่งหมายเอาชีวิต หยาดเหงื่อผุดซึมพอๆ กับหยาดธาราแห่งราคะที่ผุดซึมออกมายามที่ปลายชิวหาพลิกพลิ้วยั่วเย้า เขารู้เสมอว่าควรแตะต้องเธอที่ส่วนใดเธอถึงจะยอมศิโรราบ เธอพ่ายแพ้เสมอเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับอะไรสักอย่างที่นุ่มเด้งไม่ต่างจากเตียง แล้วเขาก็เคลื่อนกายขึ้นมา เพื่อมองเธออย่างผู้ชนะ
กางเกงนอนของเขาถูกดึงทิ้ง เสื้อนอนก็ปลิวหาย เหลือเพียงกายแกร่งกำยำที่มีมัดกล้ามเป็นลอนสวย เขาดูเหมือนคนไม่มีกล้ามเนื้อยามอยู่ใต้สูทชุดทำงาน ทว่าอย่าให้เขาถอดมันออกเชียวนะ มันทำให้เธอตาค้างได้เลย
หมับ!
มือของเธอถูกจับวางที่หน้าอกเขา เขาพามันปัดป่ายไปทั่วแผ่นอกหนา สัมผัสและลูบไล้ ต่ำลง...ต่ำลง...ต่ำ...จนตอนนี้หยุดอยู่ใต้แอ่งสะดือ เธอกลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ เจ้าสิ่งนั้นที่เคยไปอยู่ในตัวเธอ กำลังตั้งลำกล้าแกร่ง เขาพามือเธอไปวางบนนั้น สอนเธอให้สาวรูดเจ้าแท่งอวบใหญ่อุ่นร้อนนั่นช้าๆ
“อย่างนั้น...ลุลี...อา...”
เธอหลับตาลงเสียเมื่อเสียงครางของเขาชวนให้ร่างเธอสั่นระริก มันเชื่อมถึงกันได้อย่างไร ทำไมได้ยินแล้วรู้สึกเช่นนี้ เหมือนมียาปลุกสวาทพร่างพรมลงมา เหมือนว่าใจกลางร่างเธอกำลังเต้นอยู่ตุบๆ เรียกร้องให้เขาเอาเจ้าสิ่งนั้นเข้ามาในร่างของเธอที
“อ๊ะ!!”
โกมินทร์ยิ้มร้ายที่มุมปาก เมื่อใช้จังหวะทีเผลอพาตัวตนแห่งชายบุกแทรกเข้าในร่างภรรยา หล่อนร้องเสียงหลง คงรู้สึกคับแน่นไม่ต่างจากเขา กี่คราวแล้วหนอที่ได้ชื่นชมร่างนี้ ได้รู้สึกถึงความคับแน่นและฝืดตึง รสรักของมาลุลีช่างไม่เหมือนสตรีคนใด หล่อนไร้เดียงสา ทว่าไม่อ่อนโยน หล่อนพร้อมให้เขาชักจูงไปตามเส้นทางสวาท ที่มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บางครั้งหล่อนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด แต่บางครั้ง หล่อนก็ครวญครางด้วยความซ่านสยิว หล่อน...ช่างเกิดมาเพื่อเขาโดยแท้
“เจ็บหรือ...”
“อือ...”
“หยุดดีไหม” เขาแสร้งถาม มือข้างหนึ่งบีบขยำพุ่มทรวงอวบงาม สะโพกก็โยกเข้าโยกออกร่างหล่อนเป็นจังหวะช้าๆ
“ไม่...อย่า...อย่าหยุด!”
แล้วแรงกระแทกกระทั้นก็ทวีความเร็วขึ้นในตอนนั้น มาลุลียังนึกโกรธตัวเอง ทำไมร่างกายถึงไม่ยอมเชื่อฟัง ก็บอกให้ผลักไส ให้ดิ้นหนี แต่ทำได้เพียงเสนอร่างนี้ให้เขาเชยชม เขาเก่งฉกาจในการล่อลวงให้เธอคล้อยตาม เธอไม่สนแล้วว่าโกรธเคืองเขาอยู่ ไม่สนสักนิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าทารกเข้ามาอยู่ในท้องของตัวเอง นาทีนี้เธอต้องการเพียงแรงกระแทกกระทั้น ที่ส่งตรงจากร่างของสามี