3.

1100 คำ
            “ ไอ้จ่อย! ไอ้จ่อยโว้ย! อยู่ไหนเนี่ยเรียกจนคอจะแตกแล้วยังไม่โผล่หน้ามาอีก ” เสียงโหวกเหวกของเจ้าของเรือนไทยหลังใหญ่ที่สุดของบ้านดงตาล ‘ กำนันแสน ’  ในชุดสีกากียืนท้าวเอวที่หน้าระเบียงอย่างหงุดหงิด เมื่อเรียกหาไอ้จ่อยเด็กหนุ่มในอุปการะในตอนเช้าของหลายวันต่อมา             “ เรียกจนคอจะแตกก็หยุดตะโกนสิจ๊ะพ่อ หัดเกรงใจคนจะหลับจะนอนมั้ง ”             ไอ้จ่อยที่กำนันตะโกนหาจนคอแห้งยังไม่มีทีท่าจะโผล่หัวมา มีแต่ลูกสาวคนเดียวของตนที่ยืนหน้าง้ำหน้าประตูห้องนอน             “ คนอย่างข้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร เพราะมันไม่ใช่เวลานอน แหกขี้ตาดูมั้งสิว่ามันสายโด่งขนาดไหนแล้วแม่กุ้งนาง ” กำนันแสนหันหลังมาที่ต้นเสียงแล้วต้องตวัดหางตาอย่างเคือง เมื่อลูกสาวยืนผมยุ่งอ้าปากหาวอย่างไม่คิดจะรักษาความเป็นผู้หญิง             “ ก็คนมันนอนดึกมันก็ต้องตื่นสายเป็นธรรมดา พ่อก็..จะอะไรกันนักกันหนา ” หญิงสาวเดินกระเง้ากระหงอดไปนั่งที่โซฟา คนเป็นพ่อเดินมานั่งด้านฝั่งตรงข้ามอดเหน็บแนมหญิงสาวไม่ได้             “ เป็นสาวเป็นนางนอนตื่นสายจนตะวันแยงก้น รู้ไปถึงไหนก็อายไปถึงนั้น ”                   “ ถึงว่าสิตอนฉันตื่นถึงรู้สึกแสบๆ ..คันๆ ตู..!ยังไงชอบกล ” หญิงสาวแกล้งเอามือตบสะโพกตนเองเว้นช่องไฟไว้ให้คนเป็นพ่อคิดเอาเอง             กาแฟที่กำลังซดคล่องๆ คอเกือบสำลักพรืด คนเป็นพ่อถึงกับกระแทกถ้วยในมือลงบนโต๊ะ ถลึงตาใส่บุตรสาวอย่างปรามๆ แต่ฝ่ายหญิงสาวกลับทำหน้าทะเล้นหัวเราะคิก             “ กุ้งนาง! จะพูดจาหรือทำอะไรหัดรักษากิริยาให้สมกับเป็นผู้หญิงไว้บ้าง ”             “ ก็ใครเป็นคนเริ่มก่อน ว่าแต่พ่อจะไปไหนแต่เช้า แต่งซะเต็มยศ ” หญิงสาวเฉไฉรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นว่าบิดาหน้าตึงขึ้นมา             “ วันนี้มีประชุมอำเภอ ว่าแต่..ไอ้จ่อยทำไม ? ยังไม่โผล่หัวมาอีก อุตส่าห์สั่งไว้แล้วว่าจะไปแต่เช้า ไอ้นี่! ชักเอาใหญ่แล้ว ”             “ มันคงตื่นสายล่ะมั้ง เมื่อคืนกว่าบอลจะเลิกก็เกือบสว่างแล้วจ๊ะ ”             “ เจริญกันจริงๆ ทั้งลูกพี่ลูกน้อง บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้ารู้ว่ามีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะเจอดีแน่ ” กำนันแสนชี้หน้าหญิงสาวอย่างคาดโทษ ท่าทางจริงจังจนคนเป็นลูกก็รู้สึกหวาดๆ ขึ้นมา             “ ข้าล่ะเกลียดหนัก ไอ้การพนัน มีแต่จะพากันลงเหว ” คนเป็นพ่อบอกเสียงเข้ม             “ ไม่หรอกจ๊ะพ่อ รับรองได้ ฉันกับไอ้จ่อยก็ดูๆๆ ให้สนุกไปอย่างนั้น ใครจะกล้าไปแทง มันผิดกฎหมาย ” กุ้งนางบอกน้ำเสียงจริงจัง             “ เป็นอย่างนั้นได้ก็ดี ไม่เฉพาะแต่บอลนะ รวมทั้งการพนันทุกชนิด ถ้ารู้ว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดนแพ่นกบาลแน่ ” กำนันยกนิ้วขึ้นชี้หน้าบุตรสาว พลางนึก  ‘ ลำพังแค่แก่นกะโหลก กระโดกกระเดกก็พอทน ถ้ายังขืนอุตริหัดเป็นเซียนพนันอีกอย่าง มีหวังข้าคงกลุ้มใจตายแน่ นังกุ้งนางเอ๋ย ’             “ จ้า! พ่อกำนัน อย่าขู่กันนักเลย ลูกบ้านกลัวจนตัวสั่นแล้ว ” หญิงสาวแกล้งทำเสียงเล็กเสียงน้อยจนคนเป็นพ่อหมั่นไส้ค้อนให้วงหนึ่ง             “ หัดเอาเวลามาสนใจงานบ้านงานครัวเสียมั้ง เวลาออกเรือนไปจะได้ไม่มีใครตำหนิได้ ? ” เพราะรู้ว่าลูกสาวของตนไม่เอาไหนในเรื่องงานบ้านงานครัว แม้แต่ทอดไข่ดาวยังไหม้ !             “ เอาน่า..พ่ออย่าบ่นนักเลย ถึงเวลาแล้วมันก็เป็นเองแหละ ยังไงฉันก็เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อนะ ”             คนเป็นพ่อถึงกับถอนหายใจอย่างยอมแพ้ เมื่อบุตรสาวโผเข้ากอดเอียงศีรษะซบลงที่ไหล่ พอเจอไม้นี้ทีไรจากที่ตั้งใจจะว่ากล่าวสั่งสอนเป็นต้องใจอ่อนเออออตามน้ำไปทุกที จะโทษใครไม่ได้นอกจากตนเอง เพราะตั้งแต่ที่เมียจากไปตนเองก็ครองตัวเป็นโสดเลี้ยงลูกคนเดียวในแบบของตน พอรู้สึกได้อีกที กุ้งนางก็โตขึ้นมาพร้อมกันความแก่น แสบ ซน เพราะคนเป็นพ่อก็ไม่รู้วิธีที่จะสอนลูกสาวให้เป็นกุลสตรีกับเขาเหมือนกัน             “ เราก็เป็นอย่างนี้ทุกที ว่าแต่วันนี้ไม่ไปทำงานหรือไง สายป่านนี้แล้ว ” กำนันแสนลูบศีรษะเล็กๆ อย่างเอ็นดูไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเท่าไรแต่ในความรู้สึกของคนเป็นพ่อ ลูกก็ยังเป็นเด็กเล็กๆ ในสายตาอยู่วันยังค่ำ             “ วันนี้เป็นเวรหยุด ฉันกะว่าจะลากยาวเสียหน่อย ก็ต้องมาตื่นเพราะเสียงพ่อเนี่ยแหละ ” กุ้งนางผงกศีรษะถอยออกจากอกแสนแกล้งทำเง้างอนใส่             “ อ้อ! เป็นความผิดของข้าสินะ ไงถึงเป็นงั้นไปได้ ว่าแต่วันหยุดแบบนี้หวังว่าคงจะอยู่บ้าน ไม่ออกไปก่อเรื่องที่ไหนอีก ” คนเป็นพ่อสั่งความอย่างรู้ทัน ไม่สนใจกิริยาของลูกสาว             “ รับรองน่า วันนี้ฉันอยู่บ้านจะนอนให้ท้องขึ้นไปเลยจ๊ะ ” คนเป็นลูกส่งยิ้มรับปากอย่างแข็งขันแต่ในใจกลับคิดไม่ตรงกับปาก             “ ขอให้มันจริงเถอะ แต่..เอ้ ไอ้จ่อยทำไมยังไม่โผล่หัวมาอีก “              กำนันยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้ว เมื่อยกกาแฟขึ้นซดจนหมดถ้วย แต่เจ้าสารถีตัวดียังไม่โผล่ เมื่อเห็นเมี้ยนยกข้าวขึ้นตั้งโต๊ะแสนจึงถามพร้อมกับสั่งความ             “ อ้าว!เมี้ยน มาก็ดีแล้วไปดูหลานชายตัวดีของแกสิว่า มันแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จหรือยัง วันนี้ข้าต้องเข้าประชุมที่อำเภอแต่เช้า ”             “ ตายจริง! ฉันนึกว่ามันจะเสร็จแล้วนะเนี่ย อุตส่าห์ไปปลุกตั้งแต่เช้า จะลงไปดูเดี๋ยวนี่แหละ ” เมี้ยนหันหลังเดินลงบันไดได้ไม่ถึงก้าว จ่อยก็วิ่งกระหืดกระหอบมา              “ ไม่ต้องแล้วป้า ฉันมาแล้ว จะไปกันหรือยังจ๊ะลุงฉันพร้อมแล้ว ”             คนที่บอกว่าพร้อมผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง รองเท้าผ้าใบที่ใส่แบบไม่ต้องซักกำลังถูกสวมได้เพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างพ่อก็หนีบไว้ที่ซอกคอ กระดุมเสื้อยังติดไม่ครบแถวเสียด้วยซ้ำ          
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม