2.

1589 คำ
            “ หวานจ้า! มีอะไรให้พี่ช่วยอีกหรือป่าวจ๊ะ ” จ่อยยกมือขึ้นปาดเหงื่อเมื่อแบกลังผลไม้เป็นลังที่สามวางไว้ข้างแผง แต่ยังไม่วายถามสาวน้อยวัยกระเตาะลูกสาวเจ้าของแผงผลไม้เสียงหวาน             “ หมดแล้วล่ะ ขอบใจพี่มากเลยนะ ฉันล่ะเกรงใจพี่จ่อยจริงๆ มาตลาดที่ไรก็ช่วยยก ช่วยแบกผลไม้ให้ทุกที่เลย ” น้ำหวานบอกอย่างเกรงใจพร้อมกับหลบตาอย่างเขินอายเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งสายตาหวานเชื่อมให้             “ ไม่เป็นไร สำหรับหวานแล้วพี่จ่อยเต็มใจบริการ คราวหน้าพี่มาช่วยอีกนะ แม่หวานคงไม่ว่าอะไรหรอกนะ ” จ่อยตอบเสียงหวานพลางยกชายเสื้อตัวเองเช็ดเหงื่อ             “ ไม่ว่าหรอกจ๊ะ เอานี่! กินน้ำเย็นๆ ให้หายเหนื่อยเสียก่อน ดูสิเหงื่อท่วมเชียว ” น้ำหวานส่งถุงน้ำแข็งสีสวย จ่อยก็รีบรับมาดูดอย่างชื่นใจ มือหนาสัมผัสมือนุ่มของน้ำหวานอย่างจงใจ             “ น้ำมันช่างหวาน และเย็นชื่นใจ สมกลับเป็นน้ำของน้ำหวานจริงๆ เลยเชียว ” จ่อยหยอดคำหวานจนสาวน้อยแก้มแดง บิดมือไปมาอย่างกระดากอาย             จ่อยเห็นแก้มแดงๆ ของอีกฝ่ายแล้วอยากจะรู้ว่ามันจะหอมสักขนาดไหน ยิ่งเห็นปากอิ่มของหญิงสาว พาจินตนารสชาติคงหวานไม่น้อยกว่าน้ำในถุงเป็นแน่ คิดแล้วก็ยกถุงน้ำขึ้นดูดหลับตาพริ้ม เหมือนตัวเองกำลังได้ดูดปากเจ้าของน้ำหวานถุงนี้             “ ไอ้จ่อย! มาสาระแนอะไรอยู่ที่นี่ ? ” น้ำหวานชื่นใจสำลักพรืดออกมา เมื่อได้ยินเสียงแหวๆ คุ้นๆ เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นเมี้ยนยืนท้าวเอวทำหน้าถมึงทึง แถมมือเหี่ยวๆ ของแกยังบิดที่ใบหูของจ่อยจนหน้าหัน             “ โอ๊ย! เจ็บๆๆ จ๊ะป้า ” เมื่อเห็นหน้าเจ้าของมือที่บังอาจมาดึงหูตัวเอง จ่อยก็แกล้งร้องเสียงดังเกินจริง             “ แค่นี้ทำเป็นสำออยไอ้ตัวดี! แทนที่เอ็งจะไปช่วยข้ากับคุณหนูถือของ กลับมาจีบแม่ค้าเสียนี่  ” เมี้ยนมองหน้าจ่อยสลับกับน้ำหวาน             “ พี่จ่อยเข้ามีน้ำใจมาช่วยฉันยกผลไม้นะจ้ะป้า ” น้ำหวานออกหน้าเมื่อเห็นพี่จ่อยของเธอกำลังถูกตำหนิ             “ เอ็งก็เหมือนกัน พึ่งจะเป็นสาวไม่กี่วัน ปล่อยให้ผู้ชายยืนจีบอยู่ได้ แล้วแม่เอ็งไปไหน ? ” แต่คนปากไวหันไปเล่นงานสาวน้อยอีกคนทันที             “ แม่ไม่อยู่...ออกไปธุระจ๊ะ ” น้ำหวานตอบไม่เต็มเสียง             “ ถึงว่าสิ ไอ้จ่อยถึงมาป้วนเปี้ยนแถวร้านเอง ปล่อยให้ข้าหิ้วของจนแขนจะหัก เอา! เอ็งเอาของพวกนี้ไปเก็บไว้ที่รถ ” เมี้ยนยื่นถุงที่พะรุงพะรังในมือให้หลานชาย             “ ป้าซื้อของเสร็จแล้วเหรอ ? ” จ่อยทำหน้าแหยรับของในมือเมี้ยนชะโงกหน้า หันซ้ายขวามองหาคุณหนูของเมี้ยน             “ แล้วพี่กุ้งนางไปไหนแล้ว ไม่ได้มากับป้าหรอกเหรอ ? ”             “ คุณหนูเดินไปซื้อไข่ที่ร้านตาแฉะ เอ็งรีบเอาของไปเก็บแล้วตามไปช่วยคุณหนูถือของอย่างด่วนเลย ”             “ ได้จ๊ะ งั้นพี่จ่อยไปก่อนนะน้องหวานจ้า ” จ่อยหันไปบอกน้ำหวาน นึกเคืองคนเป็นป้าที่ขัดจังหวะทำให้อดได้ชื่นใจแฟนสาว กะจะขอค่าแบกลังเป็นแก้มแดงๆ สักฟอดนานๆ จะมีโอกาสเหมาะ‘ อดเลยที่นี่ ป้านะป้า! จ่อยคิดอย่างเซ็งๆ แต่ไม่ได้เอ่ยออกมา             “ จ้า! วันหลังพี่จ่อยมาช่วยน้ำหวานยกของอีกนะจ๊ะ สวัสดีนะจ๊ะป้าเมี้ยน ” น้ำหวานยกมือไหว้เมี้ยนก่อนจะโบกมือให้จ่อย               สถานการณ์ในตลาดอีกด้าน ดูคล้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งกำลังจะถูกจิ๊กโก๋ในตลาดรุมรังแก เมื่อคุณหนูของเมี้ยนถูกเป้และพรรคพวกตามดักหน้าดักหลัง             เป้แสยะยิ้มที่มุมปากอย่างย่ามใจเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะจนมุม ขอเอาคืนบ้างล่ะ หลังจากที่ต้องเจ็บตัวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเพราะกุ้งนาง วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสเหมาะเพราะหญิงสาวมาคนเดียว เป้จะขอกู้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย             ร่างผอมเก้งก้างเอามือล้วงกระเป๋าก้าวขาช้าๆ เข้าหาหญิงสาวอย่างเป็นต่อ โดยไม่แคร์สายตาที่มองอย่างตำหนิของใครต่อใครเพราะหลายๆ คนต่างก็ไม่อยากเดือดร้อนหากต้องเข้ามายุ่งเรื่องของตน             แม้จะเรียกความสนใจของผู้คนที่ผ่านไปมาในตลาด แต่ก็แค่หยุดยืนมองดูอยู่ห่างๆ โดยไม่มีใครคิดจะเข้าไปข้องเกี่ยว ยกเว้นบุรุษร่างสูงใหญ่ที่นั่งในร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม             “ ปลัดจะทำอะไรหรือครับ ? ” คนอาวุโสกว่าถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มขยับตัว             “ ลุงพร้าวไม่เห็นหรือไง เล่นหมาหมู่กับผู้หญิงคนเดียว ” ธนาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมองไปฝั่งตรงข้ามที่สาวน้อยกำลังถูกพวกจิ๊กโก๋คุกคาม             “ ผมว่า…ปลัดใจเย็นๆ นั่งลงดูอะไรดีๆ ก่อนดีกว่าครับ ” คนสูงวัยเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น เขามั่นใจว่าอีกไม่กี่นาทีเหตุการณ์ก็พลิกผัน เพราะรู้จักกลุ่มจิ๊กโก๋และหญิงสาวคนนั้นเป็นอย่างดี             พร้าวยกกาแฟขึ้นซดทำปากกระหยุกๆ ก่อนจะกลืนลงท้อง พลางเลื่อนกาแฟเย็นที่แปะไล้พึ่งยกมาวางให้ธนา ปลัดหนุ่มยังไม่ทันได้ดูดกาแฟเสียด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงเอะอะจากฝั่งตรงข้าม             คนที่ขอกู้ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายด้วยการยกพวกรุมรังแกผู้หญิงคนเดียว ร้องจ๊ากเหมือนลิงถูกกินสมองเพราะไข่หลายฟองลอยมากระทบหน้าจังๆ จนเลอะเทอะไปทั้งตัว             “ นังกุ้งนาง! เอ็งทำหน้าหล่อๆ ของข้าเลอะไปหมดแล้ว! ” เป้ลูบเปลือกไข่ที่หน้าตน             “ แค่นี่ก็กลัว ? แน่จริงก็เข้ามาสิ ” กุ้งนางท้าเหย็งหัวเราะร่าเมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่าย             “ อย่าท้านะโว้ย! เฮ้ย! พวกเอ็งจับน้องกุ้งนางไว้ วันนี้ล่ะข้าจะขอจูบล้างอายสักทีหนึ่ง ” ศักดิ์กับแดงพยักหน้าแล้วตรงปรี่หมายจะฉุดยึดหญิงสาว แต่….ทั้งสามยังไม่ทันได้แตะหญิงสาวแม้แต่ปลายเล็บก็ต้องส่งเสียงร้องดังไปถึงฝั่งตรงข้าม             “ โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย!  ”             เสียงของทั้งสามดังขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีหมาหมู่ ทั้งส้มทั้งมังคุดที่หิ้วอยู่ในมือถูกใช้เป็นอาวุธที่เหมาะมือจนทั้งสามต้องล่าถอยไม่เป็นขบวน จนคนที่ทำตัวเป็นพระเอกเมื่อครู่ต้องนั่งดูพิษสงของหญิงสาวตาไม่กระพริบ             “ เป็นไงครับปลัด จริงอย่างที่พูดไหม ? ” พร้าวถาม             “ ไม่น่าเชื่อ แม่นยังกับจับวาง แล้วจะทำยังไงต่อ ของทุ่นแรงหมดแล้วนี่ ” ปลัดหนุ่มถามพร้าว ขณะที่ตายังมองไปที่หญิงสาว เมื่อมังคุดลูกสุดท้ายในมือถูกปาออกไป             “ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วย ” พร้าวพยักหน้าให้ธนามองตาม เมื่อมองเห็นเจ้าจ่อยวิ่งตรงปรี่ไปยังจุดเกิดเหตุ               “ เจ็บนะโว้ย! นังตัวแสบ ” เป้เบี่ยงตัวหลบมังคุดลูกสุดท้ายแต่ก็ไม่พ้นเพราะมันซ้ำตรงมุมปากที่แผลเดิม             “ ดี! สมน้ำหน้า อยากปากดีนัก ” กุ้งนางยืนท้าวเอว หายใจถี่เข้าปอด เมื่อในมือเหลือแต่ถุงเปล่า             “ เกิดอะไรขึ้น ? พี่กุ้งนาง ” จ่อยรีบวิ่งเข้ามาขวางเมื่อเห็นลูกพี่กำลังมีเรื่องกับอริเก่ากลางตลาด             “ ไม่มีอะไร ไอ้พวกนี่มันหิว แต่ข้าจัดเต็มให้แล้ว คงจะอิ่มแปร่กันแล้วมั้ง ” จ่อยมองสภาพแต่ละคนแล้วหัวเราะ โดยเฉพาะเป้ที่ยืนกุมปากเจ่อๆ ของตนเอง อยากจะสมน้ำหน้า แต่เมื่อเห็นว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนจึงสะกิดลูกพี่สาวเตรียมเผ่น             “ ฉันว่าพวกเรารีบไปกันดีกว่าดูท่าจะมีเรื่อง เฮ้ย! หมดเรื่องแล้ว ”             จ่อยหันมาจะคว้าของในมือของหญิงสาวที่ป้าเมี้ยนสั่งนักหนาให้มาช่วยหิ้ว แต่คงไม่ต้องแล้ว เพราะว่าเหลือแต่ถุงเปล่าส่วนของนะ ลงไปแตกกระจายเลอะเทอะตามพื้นหมดแล้ว เมื่อเหลือบตาไปเห็นรองเท้าผ้าใบที่แสนคุ้นตากระเด็นไปอยู่ที่พื้นข้างหนึ่ง จ่อยก็พอเดาเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ทันที จึงรีบคว้ารองเท้าข้างนั้นส่งให้กุ้งนาง             “ เดี๋ยวสิ เล่นหนีกับแบบนี้ ไม่แน่จริงนี่ ” เป้ที่ยังไม่เข็ดโดดเข้าขวางหญิงสาว             “ เอ็งจะเอายังไงอีก ไอ้เป้ เจอเบอร์สามสิบสี่ไปไม่ซะใจ อยากลองเบอร์ใหญ่กว่าใช่ไหม ? ”             จ่อยปรี่เข้าไปผลักอกเป้ ยกขาวางพาดกับเก้าอี้ใกล้ๆ เมื่อเป้เหลือบตามองต่ำลงถึงกับถอย เพราะรองเท้าของจ่อยมันใหญ่กว่าจริงๆ ซ้ำร้ายยังมีสายตาของชาวบ้านที่มองอย่างตำหนิ             “ เออ! ฝากไว้ก่อนเถอะวันนี้ข้าจะยกให้สักวัน ” คนที่เสียหน้าแต่ยังอยากรักษาฟอร์มตะโกนไล่หลัง เมื่อทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันไป กลุ่มไทยมุงก็สลายตามไปด้วย รวมทั้งคนที่เกือบได้เป็นพระเอกก็ไม่วายมองตามร่างบางไปจนลับตา  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม