ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...น้องผิง
ติ๊ด!
“ครับ”
(ไม่ต้องเฝ้า)
“พี่มาดื่ม”
(ไปดื่มร้านอื่น อย่ามาดื่มร้านเดียวกัน)
“น้องผิง พี่มาดื่มกับเพื่อน”
(ดื่มกับเพื่อนแล้วนั่งจ้องผิงกับแฟนผิงทำไมคะ?)
“...” ผมได้แต่กำมือตัวเองแน่นเพราะคำถามของเธอ
(ผิงโตแล้วนะพี่เมฆ)
“...อื้ม พี่รู้ แต่แม่เป็นห่วงพี่บังเอิญเห็นน้องผิงที่นี่พี่ก็แค่มองดูเพราะห่วงแทนแม่”
(หึ! ผิงรู้ค่ะว่าแม่เป็นห่วง แต่แม่ไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่นก็ไม่ควรยุ่งนะ)
...คนอื่น
หึ! หึ ๆๆ
“โอเค ถ้างั้นก็เที่ยวต่อเถอะเดี๋ยวพี่ก็กลับ”
(ดีค่ะ)
ติ๊ด!
“...”
“เป็นไร”
“...เปล่า”
“หึ ๆๆ กูรู้ว่าเรื่องอะไร”
“ช่างเถอะ” ผมวางโทรศัพท์ลง ตัดบทแล้วดื่มต่อเงียบ ๆ
มองตรงไปข้างหน้าไอ้เมฆ มองตรงไปอย่าหันไปมองทางเดิมเด็ดขาด
“ไอ้เมฆ”
“อืม”
“มึงจะทำแบบนี้อีกนานแค่ไหน”
“...”คำถามนี้ดังออกมาจากปากเพื่อนสนิท คำถามที่ทำให้ผมกำมือที่ถือแก้วแน่น
“เขามีแฟน”
“...อืม”
“เขามีมาหลายคนแล้ว”
“...พอ”
“กูรู้ว่ามึงไม่อยากฟัง แต่มึงต้องฟัง”
“...” ผมพยายามที่จะนิ่ง นิ่งให้ได้มากที่สุดทั้งที่ใจแทบกระอักตั้งแต่คำว่า เขามีแฟน
“ไอ้เมฆ ต่อให้เขาเลิกกับคนนี้หรือคนไหนมึงก็เป็นแค่พี่ชาย”
“...”
“ขอโทษที่กูต้องพูดคำที่มึงไม่อยากได้ยิน แต่ถ้าไม่พูดเมื่อไหร่มึงจะหลุดออกมาวะ”
“กูรู้”
“ถ้ามึงรู้แล้วทำไมมึงไม่เดินออกมาสักทีวะ”
“...เพราะเป็นกูไง”
“อ่าส์~ กูแม่งไม่เข้าใจมึงเลย มึงเก่งทุกอย่างแต่ทำไมเรื่องนี้มึงถึงได้โง่ขนาดนี้วะ” ผมมองแก้วที่มีเหล้าสีอำพันอยู่ข้างในในขณะที่หูก็ฟังคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังดีของเพื่อนรัก มองเหล้าในมืออยู่อย่างนั้น
“มึงเคยรักใครไหม รักตั้งแต่เห็นวันแรกที่เห็นเขา”
“ถ้างั้นกูขอถามอะไรมึงสักอย่างหน่อย”
“อืม” ผมพยักหน้ารับช้า ๆ ทั้งที่ใจก็รู้ดีว่าคำถามต้องทำร้ายหัวใจของตัวผมเอง
“เขาเป็นความรักของมึง แล้วมึงล่ะไอ้เมฆ...มึงเป็นอะไรสำหรับเขา?”
“...” หึ! หึ ๆๆ ทั้งที่รู้ล่วงหน้าว่าคำถามจะทำให้เจ็บปวดแต่ก็ยังเจ็บปวดมากอยู่ดี ผมตั้งรับคำถามพวกนี้ไม่เคยไหวหรอก
“ว่าไง มึงตอบกูได้ไหมไอ้เมฆ มึงเป็นอะไรสำหรับ... / เงา” มันยังพูดไม่จบผมก็พูดแทรกออกมา มองแก้วแล้วตอบช้า ๆ ก่อนจะหันไปมองในจุดที่ผมไม่สมควรมอง
“...กูเป็นแค่เงา”
แค่เงา
ผมเป็นแค่เงาของคนคนหนึ่งมานานแล้ว เป็นเงาตามติดตัว แถมยังเป็นเงาตอนเที่ยงตรงที่ต้องก้มลงต่ำถึงจะพอมองเห็น แต่ก็น่าเสียดายที่เจ้าของเงา...ไม่เคยคิดจะก้มมองลงมาเลย