หลังจากที่จบเรื่องราวจากบ้านหนิง หนิงเหมยจูและครอบครัวจึงกลับมาที่บ้านโดยไม่สนใจเลยว่าหลังจากที่หมอมาตรวจแล้วหนิงฮวนจะเป็นยังไง ขอเพียงแค่หลังจากนี้บ้านหนิงจะไม่มายุ่งหรือมาวุ่นวายกับพวกเธออีกก็พอ
"แม่กับน้องนอนที่ห้องนี่นะคะ บ้านอาจจะคับแคบไปหน่อย รอบ้านใหม่สร้างเสร็จก็คงสบายขึ้น" หนิงเหมยจูเมื่อกลับมาถึงบ้านเธอหอบเอาของใช้ของตัวเองมาไว้ที่ห้องของสามี เพราะบ้านนี้มีเพียงแค่สองห้องเท่านั้น เธอตั้งใจว่าจะสร้างบ้านหลังใหญ่และหลังจากที่พาสามีไปหาหมอเธอคงต้องหาเงินเสียที
"ไม่เป็นการรบกวนลูกกับลูกเขยใช่ไหมเหมยจู" ฟู่เจียจิ่นยังคงมีความรู้สึกเกรงใจ แค่เห็นของมากมายในห้องนี้ก็รู้แล้วว่าลูกสาวกับลูกเขยนั้นแยกห้องกันนอน
"ไม่เลยครับแม่ยาย ไม่รบกวนเลย แม่ยายและฮุ่ยหมิน อยู่ให้สบายใจเถอะครับ เราครอบครัวเดียวกัน" ตงซีเฉินยิ้มให้
"จริงค่ะคุณยาย หนูจะได้มีคุณยายและคุณน้าเหมือนคนอื่นแล้ว คุณยายอยู่กับเสี่ยวลู่ที่นี่นะ" เสี่ยวลู่ตัวน้อยดีใจมากที่เธอมีครอบครัวใหญ่เหมือนคนอื่นเสียที เด็กน้อยปีนขึ้นไปนั่งบนตักของยายด้วยท่าทางน่าเอ็นดู จนฟู่เจียจิ่นต้องอุ้มขึ้นมานั่ง เพราะกลัวว่าหลานสาวตัวน้อยกลิ้งตกเก้าอี้ไปเสียก่อน เสี่ยวลู่ซุบซิบคุยบางอย่างกับยาย ฟู่เจียจิ่นได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย ที่แท้หลานสาวคนนี้น่ารักและรู้ความไม่น้อย ช่างน่าเอ็นดูนัก
"เหมยจู แม่ว่าแม่จะไปขอจัดสรรที่ดินตรงพื้นที่ข้างๆ บ้านลูกดีไหม เราสร้างตรงที่ใหม่ตรงนั้น พอสร้างเสร็จเราค่อยทุบบ้านหลังนี้ทิ้งแล้วทำเป็นพื้นที่เดียวกัน หากสร้างตรงนี้เลยแล้วเราจะไปพักกันที่ไหน ลูกกับลูกเขยว่ายังไง" ฟู่เจียจิ่นบอกกับลูกสาว หากสร้างบ้านใหม่จริงๆ พื้นที่ตรงนี้คงต้องทุบบ้านเดิมทิ้งก่อน
"หัวหน้าหมู่บ้านจะยอมเหรอแม่"
"ยอมสิ อย่าลืมว่าแม่ก็เป็นชาวบ้านและมีทะเบียนที่ขึ้นตรงกับหมู่บ้านแห่งนี้ ตอนนี้แม่หย่าขาดกับหนิงฮวนแล้ว แม่สามารถขอพื้นที่สร้างบ้านใหม่ได้"
"แต่ไม่ว่ายังไงเราต้องอยู่ด้วยกันนะคะแม่ หนูไม่ยอมให้แม่กับน้องต้องอยู่ไกลจากหนูอีกแล้ว นอกเสียจากฮุ่ยหมินจะสอบเข้ามหาลัยได้หนูจึงยอมให้น้องย้ายไปอยู่ที่อื่น"
"แม่ก็ยังอยู่ด้วยกันกับลูกนี่แหละ เพียงแค่จะไปขอที่ดินมาสร้างบ้าน ในเมื่อมันเป็นสิทธิ์ของเรา เราจะเสียสิทธิ์ทำไม ฮุ่ยหมินไปกับแม่ เสี่ยวลู่ไปกับยายไหมลูก" ฟู่เจียจิ่นถามหลานสาวตัวน้อยที่นั่งอยู่ในตัก ส่วนเรื่องที่ดินสร้างบ้านนั้นมันเป็นสิทธิ์ของเธอที่จะได้รับ เธอไม่ยอมที่จะเสียสิทธิ์ตรงนี้ไปหรอก เสี่ยวลู่พยักหน้าหงึกหงัก ตอนนี้ยายไปไหนเธอไปด้วยรวมถึงน้าฮุ่ยของเธอ
"น้าฮุ่ยอุ้มหนูหน่อย โอ๊ะ หนูลืมว่าน้าฮุ่ยยังบาดเจ็บ" เสี่ยวลู่อยากไปแต่ปวดขาไม่อยากเดิน
"น้าอุ้มได้ ไม่เจ็บหรอกตัวเสี่ยวลู่นิดเดียวเอง แต่ถามหน่อยว่าทำไมถึงเรียกน้าว่าน้าฮุ่ยทั้งๆ ที่น้าชื่อฮุ่ยหมิน" หนิงฮุ่ยหมินไม่เข้าใจ เขาจะถามตั้งแต่ที่หลานสาวเรียกเขาว่าน้าฮุ่ยเฉยๆ แล้วแทนที่จะเรียกน้าฮุ่ยหมิน
"ยาวหนูขี้เกียจเรียก คิกคิก" เสี่ยวลู่พูดจบก็หัวเราะคิกคิก ทำเอาทุกคนหัวเราะตามเพราะคำตอบของเด็กน้อย
จากนั้นฟู่เจียจิ่น หนิงฮุ่ยหมินจึงพาเสี่ยวลู่ไปบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อที่จะขอจัดสรรที่ดินสร้างบ้าน
เมื่อทุกคนไปแล้วหนิงเหมยจูจึงอุ้มสามีกลับเข้ามาในห้องเพราะตอนนี้ของในห้องกองเต็มไปหมดเลยเอารถเข็นเข้ามาไม่ได้
"เหมยจูน้องเอากล่องในตู้เสื้อผ้าให้พี่หน่อยได้ไหม" ตงซีเฉินยื่นกุญแจส่งให้ หนิงเหมยจูรับมาและเดินไปไขตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีเสื้อผ้านอกจากกล่องเหล็กใบน้อยที่มีอยู่กล่องเดียว จากนั้นจึงเอามายื่นให้สามีและเธอก็นั่งพับเสื้อผ้าของตัวเองต่อโดยไม่สนใจกล่องที่สามีกำลังถืออยู่
ตงซีเฉินมองภรรยาที่ยื่นกล่องมาให้ส่วนเธอกลับไปนั่งทำงานของตัวเองโดยไม่สนใจหรือคิดที่จะถาม ชายหนุ่มมองภรรยาไม่วางตาก่อนจะเรียกให้เธอเข้ามาหาใกล้ๆ "เหมยจูมานี่"
หนิงเหมยจูเงยหน้ามองสามีก่อนจะขยับเข้ามาใกล้อย่างที่เขาต้องการ "พี่มีอะไรหรือเปล่า"
"พี่ให้ ต่อไปนี้ทุกอย่างในบ้านพี่ยกให้น้องดูแลทั้งหมด ส่วนเงินในนี้เอาไปเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านเถอะ อาจจะไม่มากมายแต่นี่เป็นเงินเก็บของพี่ทั้งชีวิต พี่ยกให้เราดูแล"
หนิงเหมยจูรับกล่องมาเปิดดูก็เจอเงินอยู่ในกล่องจากนั้นจึงเอาออกมานับดู อาจจะน้อยสำหรับคนมีเงินแต่สำหรับชาวบ้านเงินนี้สามารถทำให้อยู่ได้หลายปีอย่างไม่ลำบาก เพราะเธอนับได้มันเกือบหนึ่งพันห้าร้อยหยวนเธอจึงมองหน้าสามีด้วยความสงสัย ทำไมถึงกล้าเอามาให้เธอดูแล
"เอาไว้เป็นค่าสร้างบ้านและค่าหมอของพี่รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ หากพี่มีโอกาสหายพี่จะหาเงินให้ได้มากกว่านี้ พี่ไม่ยอมให้ลูกและภรรยาพี่ลำบากหรอก ต่อให้จะต้องนั่งรถเข็นไปตลาดชีวิต พี่ก็ต้องทำให้ตัวเองมีประโยชน์และไม่เป็นภาระของทุกคน ถึงแม้พี่จะไม่รู้ว่าน้องรู้ได้ยังไงว่าพี่ฝืนและลากตัวเองไปดูแลน้องกับเสี่ยวลู่ แต่พี่เชื่ออย่างหนึ่งว่าเหมยจูคนนี้ไม่มีทางทิ้งพี่และลูกไปไหนแน่นอน พี่เชื่อแบบนั้น"
ตงซีเฉินนั่งพิงเตียง เขาใช้มือลูบหัวภรรยาด้วยความรู้สึกเป็นสุข ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่เอาเงินให้กับภรรยาทั้งหมดเพราะเขาไม่เคยเชื่อใจเธอเลย แต่หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอต่อไป
"ขอบคุณมากนะคะ" หนิงเหมยจูมองสามีด้วยรอยยิ้ม
วันต่อมาหนิงเหมยจูและตงซีเฉินเตรียมที่จะเดินทางเข้าอำเภอ เช้านี้เธอเดินทางด้วยเกวียนรับจ้างทั่วไป ขากลับค่อยเหมาเกวียนกลับมาก็แล้วกัน เมื่อวานเธอลืมบอกน้องชายให้ไปว่าจ้างเหมาเกวียนไว้ วันนี้หนิงฮุ่ยหมินจึงได้เข้าอำเภอไปกับพี่สาวด้วย อีกอย่างคือต้องการไปซื้อของใช้ส่วนตัวของเขาและแม่ ส่วนฟู่เจียจิ่นและเสี่ยวลู่ขอเป็นคนเฝ้าบ้านเองเพราะที่บ้านตอนนี้มีสินเดิมของเธออยู่
เมื่อเข้ามาถึงในอำเภอหนิงเหมยจูจึงบอกให้น้องชายไปซื้อของส่วนเธอนั้นจะพาสามีไปโรงพยาบาล สองพี่น้องจึงได้แยกกันไปคนละทาง การที่หนิงเหมยจูนั้นเข็นรถพาสามีเดินไปตามทางที่จะไปโรงพยาบาลนั้น มีชาวบ้านหลายคนมองด้วยความสนใจ ก่อนจะมีป้าคนหนึ่งกล้าที่จะเดินเข้ามาถาม
"เดี๋ยวก่อนทั้งสองคน ป้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม"
"ป้ามีอะไรหรือเปล่า" หนิงเหมยจูหยุดเดินและได้ถามกลับ พลางคิดในใจว่าเธอมาสร้างศัตรูถึงที่นี่เลยเหรอ
"คือป้าจะถามว่ารถเข็นคันนี้หนูซื้อมาจากไหน"
"ป้าอยากได้เหรอคะ" หนิงเหมยจูดูสีหน้าป้าคนนี้เหมือนสนใจในเก้าอี้ เธอจึงถามเพื่อจะได้รู้ว่าจะต้องขายยังไง
"ใช่ ลูกชายป้าประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ ป้าเคยสั่งเขาทำรถเข็นที่มีล้อแต่ไม่ได้ดูแข็งแรงและสะดวกน่าใช้แบบนี้" เธออยากได้จริงๆ ต่อให้แพงแค่ไหนเธอก็ยากซื้อไปให้กับลูกชายคนรอง เขาจะได้ไม่ต้องมีชีวิตที่หดหู่แบบนี้อีก
"ฉันตอบป้าไม่ได้ว่าซื้อที่ไหน แต่ถ้าป้าอยากจะได้ ฉันพอจะหาให้ได้ค่ะ แต่ราคามันออกจะแพงสักหน่อยนะคะ" หนิงเหมยจูไม่รู้ว่าที่นี่ขายยังไง ที่สำคัญไม่รู้ว่าที่ไหนขาย ในเมื่อรถเข็นคันนี้เธอเอามาจากยุคของเธอ ตงซีเฉินอยากช่วยภรรยาหาเงินเขาจึงใช้มือตัวเองเข็นล้อใหญ่ทั้งสองข้างเพื่อให้ป้าคนนี้เห็นว่ามันสะดวกสบายแค่ไหน เมื่อเธอเห็นตงซีเฉินเข็นรถด้วยตัวเองดวงตาเธอจึงเป็นประกายก่อนจะเสนอราคาให้อย่างสูงลิ่ว
"ห้าร้อยหยวน ป้าให้ห้าร้อยหยวนหนูหาให้ป้าได้ไหม"
*********************