สิ้นเสียงของหนิงเหมยจูกลุ่มสหายของตงซีเฉินไม่รอช้าเดินข้าไปทุบบ้านทันที โดยที่มีฟู่เจียจิ่น คอยบอกว่าส่วนไหนที่ยังเป็นโครงสร้างเดิมส่วนไหนที่ต่อเติมเพิ่มออกมา การทุบส่วนที่ต่อเติมยังดำเนินไปอย่างไม่รีบร้อน หนิงฮวนจุกอกแทบกระอักเลือดก่อนจะหันไปมองลูกสาวคนโตอย่างหนิงเหมยจูด้วยความแค้น
"นังเหมยจูแกกล้าอกตัญญูเหรอ แกทำแบบนี้แกจะให้ฉันตายใช่ไหม"
"คุณจะตายหรือไม่มันก็เรื่องของคุณ อยากตายเหรอ ฉันจะหยิบมีดให้เอาไหม ปาดคอทีเดียวจะได้ตายแบบหมดห่วง คุณคิดว่าคุณแค่ทำให้ร่างนี้และฮุ่ยหมินเกิดมาแล้วจะทวงบุญคุณได้อย่างนั้นเหรอ คุณทำอะไรเพื่อเราสองคนบ้าง เปล่าเลย สิ่งที่คุณรักมากที่สุดคือหวยซินภรรยาของคุณและลูกๆ ของเธอ ลูกของคุณมีเพียงแค่หนิงเพ่ยชิงและหนิงลู่หยางที่กำลังเรียนอยู่ในอำเภอด้วยความสบายใจ ชีวิตของคุณมีแค่สามคนนี้เท่านั้น ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณและฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งแต่คุณตบหน้าฉันแล้ว"
"ดังนั้นต่อให้คุณจะตายตอนนี้ฉันก็ไม่ขอเกี่ยวข้อง และอย่ามาหาความกตัญญูจากฉันเลย ฉันไม่มีให้ ฉันไม่สนใจว่าใครจะด่าฉันเลว ฉันร้าย หรือฉันอกตัญญูเพราะคนพวกนั้นไม่ได้ให้ข้าวฉันกิน แต่สิ่งที่ฉันสนใจคือแม่จะสบายดีไหม น้องชายจะได้เรียนหรือเปล่า สามีฉันร่างกายจะแข็งแรงเมื่อไหร่ ลูกสาวฉันจะมีความสุขกับอาหารที่ฉันทำให้ไหม นอกเหนือจากสี่คนนี้ก็อย่าฝันว่าฉันจะเห็นใจหรือมีเมตตาให้"
หนิงเหมยจูไม่ได้สนใจว่าใครจะว่ายังไงเธอขอเพียงสี่คนนี้เข้าใจเธอก็พอ เธอยอมเป็นคนเลวใจสายตาคนอื่น เธอยอมเป็นคนชั่วในสายตาทุกคน แม้ว่าจะร้ายกาจยังไง แต่เธอเลือกขอปกป้องเพียงคนในครอบครัวเธอเท่านั้น ส่วนผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของร่างนี้เธอไม่ได้มีความผูกพัน ยุคสมัยที่เธอจากมาพ่อลูกยังฆ่ากันตายเพราะทรัพย์สินหรือมรดกก็มีเยอะ อีกทั้งสิทธิของทุกคนก็เท่าเทียมกัน กตัญญูได้แต่ไม่ใช่กตัญญูจนโง่และยอมถูกทำร้ายเพราะคำว่ากตัญญู
"นังเหมยจูเห็นสามีพิการดีกว่าพ่อตัวเองหรือยังไง นังลูกชั่ว สามีแกยังเป็นพ่อหม้ายลูกติด เมื่อก่อนตอนที่แต่งงานเข้าไปนั้นมันเคยสนใจแกหรือเปล่า แกเองก็ไม่เคยสนใจมันและลูก แล้วแกนึกยังไงถึงกลับมาเป็นลูกที่ดีของแม่แกทั้งๆ ที่ผ่านมาแกไม่เคยทำ!" หนิงฮวนหาเรื่องโต้แย้งในสิ่งที่หนิงเหมยจูพูดไม่ได้ จึงหาเรื่องไปทางตงซีเฉินและลูกน้อยแทน
"ฉันไม่เคยปฏิเสธว่าที่ฉันทำเรื่องเลวร้ายต่างๆ เพราะต้องการไปจากบ้านหนิง ดังนั้นพี่ซีเฉินจึงเป็นคนเดียวที่อยู่ในสายตาฉัน แต่คุณรู้อะไรไหม แม้ว่าตอนนั้นเราทั้งสองคนไม่รักกัน แต่พี่ซีเฉินไม่เคยที่จะทิ้งขว้างฉันให้เจ็บช้ำน้ำใจ เสี่ยวลู่หนูน้อยที่แสนจะน่ารัก ก็ไม่เคยรังเกียจแม่เลี้ยงคนนี้ ทั้งๆ ที่ฉันไม่ใช่คนดี เพราะอะไรรู้ไหมที่ทำให้ฉันเปลี่ยนไป" หนิงเหมยจูกวาดตามองทุกคนด้วยสายตาที่ดุดันก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเมื่อมองหน้าสามีและลูกน้อยรวมทั้งแม่และน้องชาย
"เพราะความตายยังไงล่ะ ฉันป่วยจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เสี่ยวลู่เป็นเพียงเด็กสี่ขวบกว่าคอยเช็ดตัวให้ทุกครั้งที่ฉันตัวร้อน คอยดูแลฉันไม่ห่าง ส่วนพี่ซีเฉินถึงแม้ว่าเดินไม่ได้ จะมีใครบ้างที่ลากสังขารตัวเองออกมาจากห้องเพื่อดูแลภรรยาที่แสนร้ายกาจแบบฉันยามที่สลบ ไม่ต้องมีใครบอก ฉันก็ไม่ได้โง่เพียงแค่ดูฝ่ามือและรอยถลอกที่ขาก็รู้แล้ว แม้ว่าร่างกายเขาจะพิการหรือว่าจะต้องพิการไปตลอดชีวิต แต่สิ่งที่ทำให้ฉันปรับเปลี่ยนตัวเองอยากให้ตัวเองกลายเป็นภรรยาและแม่ที่ดีเพราะหัวใจของพี่ซีเฉินนั้น ไม่พิการ"
"การที่ฉันเกือบตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ฉันจึงคิดเพียงว่าในเมื่อฉันมีคนที่รักอยู่แค่นี้ทำไมฉันไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อดูแลทุกคน แม่ดูแลฉันมาสิบเจ็ดปีจนฉันแต่งงาน ตอนนี้ฉันสิบแปดปีแล้ว ท่านดูแลฉันมาอย่างลำบาก ยอมอดทนกล้ำกลืนน้ำตาเพื่อให้ลูกมีพร้อม ไม่ขาดพ่อหรือแม่ จะมีใครสักกี่คนที่ทำแบบนี้ ส่วนฮุ่ยหมินน้องชายที่บางครั้งยอมโดนคุณตีโดนคุณทำร้ายมาตั้งแต่เด็กเพียงเพราะปกป้องพี่สาวเลวๆ คนนี้ หากฉันไม่คิดที่จะกลับตัวกลับใจฉันก็ไม่ควรที่จะเป็นคนอีกแล้ว ต่อไปนี้ต่อให้ชีวิตฉันจะลำบาก ขอเพียงมีแค่ครอบครัวนี้ฉันก็พร้อมที่จะสู้ สู้เพื่อทุกคนให้อยู่อย่างสบายไปตลอด ฉันพูดขนาดนี้คงไม่มีใครคิดว่าฉันผีเข้าหรอกนะ หากไม่เชื่อก็ลองเกือบตายดูบ้างสิ ถ้ายังมีสามัญสำนึกที่ดี ฉันเชื่อว่าคนคนนั้นก็พร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองเหมือนฉัน"
หนิงฮุ่ยหมินที่อยู่ใกล้พี่สาวมากที่สุดกอดเธอจากด้านข้าง เสี่ยวลู่เมื่อได้ยินว่าแม่รักเธอและแม่ประกาศให้ชาวบ้านได้รู้ว่าเธอคือลูก เสี่ยวลู่วิ่งมาเกาะขาเช่นกัน ฟู่เจียจิ่นวิ่งมากอดลูกสาวด้วยความรักเหมยจูของเธอนั้นโตแล้วจริงๆ เธอรู้ดีว่าเหมยจูนั้นส่วนลึกๆ ไม่ใช่คนเลว
แต่เพราะสภาพครอบครัวที่ไม่ปกติ เลยทำให้เธอมีจิตใจที่บิดเบี้ยว แต่ตอนนี้ลูกสาวเธอเปลี่ยนตัวเองแล้ว คนเป็นแม่เช่นเธอไม่มีอะไรดีใจไปมากกว่าเห็นลูกทั้งสองคนพบเจอความสุขหรอก ส่วนสามีอย่างตงซีเฉินได้แต่ยื่นมือไปกุมมือภรรยาไว้ก่อนจะบีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจและมองเธอด้วยรอยยิ้มที่แสนจะอบอุ่น
ส่วนชาวบ้านที่ได้ฟังต่างก็เข้าใจและเห็นใจหนิงเหมยจูแต่ก็ยังระแวงอยู่ดี การที่คนเราแสนจะร้ายกาจนั้นจะเปลี่ยนตัวเองได้เพียงชั่วข้ามคืนจริงๆ เหรอ แต่คำถามนี้ไม่มีใครกล้าที่จะพูดออกไปเพราะกลัวจะโดนไล่ให้ไปตาย
"นังเหมยจู นังชั่ว นังเลว แกกล้าพังบ้านฉันแบบนี้แล้วฉัน พ่อ แม่จะไปอยู่ที่ไหน" หนิงเพ่ยชิงกว่าจะตั้งสติได้บ้านก็โดนทุบไปเกินครึ่ง พอเห็นบ้านพังตรงหน้าจึงหันมาด่าพี่สาวคนละแม่อย่างโกรธแค้น
"ขอบคุณที่ชม พวกเธอสามคนพ่อแม่ลูกอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็เชิญไม่เกี่ยวกับฉัน แล้วที่สำคัญเธอไปตรวจสมองหน่อยนะหนิงเพ่ยชิง ถามมาได้ยังไงว่าฉันกล้าหรือเปล่าทั้งๆ ที่ฉันก็ทำไปแล้ว"
"เดี๋ยวก่อนครับลุงผู้นำหมู่บ้านอย่าเพิ่งไป ผมยังมีอีกเรื่องที่ยังจัดการไม่เรียบร้อยครับ" หนิงฮุ่ยหมินร้องเรียกผู้นำหมู่บ้านคง
"หืม ยังมีอะไรอีกเหรอ" ผู้นำหมู่บ้านคงเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
"เรายังไม่มีการแบ่งเงินกองกลางของบ้านเลยนะครับ" หนิงฮุ่ยหมิน บอกด้วยรอยยิ้มที่สดใส เขาไม่ต้องการที่จะเอาเงินกองกลาง แต่เขาต้องการที่จะให้พี่สาวทุบบ้านไม่ให้เหลือมากกว่าแม้แต่โครงสร้างเดิมก็ไม่ต้องมี
"ไม่มี ไม่ให้" หนิงฮวนไม่ต้องคิดนาน เขาแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว จะให้แบ่งเงินกองกลางอีกฝันไปเถอะ
"พี่ใหญ่เอาไงดี ในเมื่อผมกับแม่ทำงานในแปลงนาแลกแต้มเอาอาหาร และค่าแรงที่ได้จากการรับจ้างอื่นๆ อีก แต่กลับไม่ได้อะไรเลย อ้อ ผมรู้แล้ว เงินไม่เอาก็ได้ แต่..." หนิงฮุ่ยหมินทำท่าเหมือนจะนึกอะไรได้จึงเดินไปขอค้อนของสหายพี่เขยตัวเอง จากนั้นจึงเดินไปทุบส่วนที่เหลือ ก่อนจะตะโกนเรียกคนอื่นด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร
"พี่ๆ ครับช่วยผมหน่อย ผมทุบคนเดียวไม่ไหว"
หนิงฮวนเห็นการกระทำของลูกชายเขาโกรธจนทนไม่ไหวจึงกระอักเลือดและล้มทั้งยืนก่อนจะสลบไป หวยซินกรีดร้องเหมือนคนเสียสติเมื่อเห็นสามีสลบไปต่อหน้าต่อตา เธอตะโกนร้องให้คนช่วย
แต่กลายเป็นว่ามีแต่คนเบือนหน้าหนี คงจะมีแต่ผู้นำหมู่บ้านคงและพ่อเฒ่าหนิงบ้านรองที่ให้คนไปตามหมอมาดูอาการของหนิงฮวน
********************