บทที่ 29 ท่านนายพลออกหน้า

2114 คำ
"ได้ฉันยินยอม เจ้าใหญ่แกไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมาแล้วก็ไปตามปู่เล็กของแกมาด้วย ฉันจะได้ทำหนังสือตัดขาดกับเจ้าสี่" ตงก้านพูดอย่างอารมณ์ดี ส่วนตงชุยเหรินนั้นรีบวิ่งไปบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเร่งด่วน และให้ภรรยาอย่างสะใภ้ใหญ่ไปตามปู่เล็กมาที่นี่ ทั้งสองใช้เวลาไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านเดินทางมาถึงบ้านของตงซีเฉินพร้อมกับเอกสารตัดขาดระหว่างตงซีเฉินและบ้านตง ทางด้านของผู้อาวุโสสามแห่งบ้านตงก็เดินทางมาถึงแล้วเช่นกัน "ซีเฉินนายต้องการตัดขาดกับบ้านตงและครอบครัวตงใช่ไหม ตัดสินใจแน่แล้วนะ" ผู้อาวุโสสามแห่งบ้านตงถามย้ำอีกครั้ง "ครับปู่เล็ก ผมต้องการตัดขาดกับบ้านตงครับ ไม่ว่าผมจะยากจนหรือไม่มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงครอบครัว ผมก็จะไม่ไปขอร้องบ้านตงแน่นอนครับ และต่อให้ผมร่ำรวยขึ้นหรือว่าจะจนลงยังไงบ้านตงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเรียกร้องอะไรจากผมทั้งสิ้น เรื่องนี้รบกวนหัวหน้าหมู่บ้านด้วยนะครับ ช่วยลงรายละเอียดนี้ลงไปด้วย หากบ้านตงเข้ามาวุ่นวายกับผมอีกไม่ว่าเรื่องอะไรหลังจากนี้ต่อให้ผมจะโอนกรรมสิทธิ์บ้านหลังนั้นให้กับพ่อแล้ว ผมมีสิทธิ์ที่จะเรียกคืนหากว่าทางบ้านตงคนใดคนหนึ่งผิดสัญญา" ตงซีเฉินตอบปู่เล็กของเขาก่อนจะหันกลับไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องการระบุลงไปในหนังสือสัญญาตัดขาด "ไม่ได้" แม่เฒ่าตงรีบบอกเสียงดัง เธอยังหวังว่าจะได้สิ่งใดกลับไปบ้าง "ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อเลือกที่จะตัดขาดก็ต้องระบุลงไปให้ชัดเจน เธอเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะหลานสะใภ้ ตอนเจ้าสี่แยกบ้านก็ไม่ได้อะไรกลับมาสักอย่าง บ้านของตัวเองแท้ๆ กลับต้องพาเสี่ยวลู่ลูกน้อยมาอยู่กระท่อมที่จะพังใส่หัวตลอดเวลาหลังนั้น จนเจ้าสี่สามารถสร้างบ้านดินหลังนี้ได้ แต่พวกบ้านใหญ่ตงกลับอยู่อย่างสบายแทน เจ้าสี่ต้องหอบลูกน้อยทำงานในแปลงนาเพื่อแลกแต้มและเข้าป่าหาอาหารเพื่อมาประทังชีวิตของสองพ่อลูก ฉันบอกให้เอาเสี่ยวลู่มาฝากไว้ก็ยังเกรงใจ เจ้าสี่มักจะเอาลูกมาฝากตอนที่เข้าอำเภอเท่านั้น หากไม่ยินยอมก็ไม่ต้องตัดขาดและพวกเธอพาคนในครอบครัวออกไปเสีย ฉันจะให้เจ้าสี่กลับไปอยู่บ้านหลังนั้น ตงก้านนายหัดสั่งสอนเมียบ้างนะนับวันจะเก่งกล้าขึ้นทุกวัน" ผู้อาวุโสสามแห่งบ้านตงพูดอย่างเหลืออด โดยที่เขาไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นหลานชายคนนี้ที่ไม่เคยใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยเลยเขาเก็บเงินได้มากพอควร แต่ตอนนี้เขาได้มอบเงินนั้นให้ภรรยารักไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ได้ยินกลับรังเกียจบ้านตงมากกว่าเดิม และคิดว่าบ้านตงนั้นยังดีที่ว่าลูกชายคนรองนิสัยไม่เหมือนคนในครอบครัว ตอนนี้ชาวบ้านได้แต่สงสารตงเหวินซู่ที่ต้องใช้ชีวิตกับคนที่มีจิตใจบิดเบี้ยวแบบครอบครัวบ้านใหญ่ตง "เพียะ! เธอเงียบปากไปได้ไหมกู้หลัน หากเงียบปากไม่ได้ก็รีบกลับบ้านไป อย่ามาวุ่นวายที่นี่" ตงก้านที่หวังว่าบ้านนั้นจะเป็นของตัวเองเมื่ออาสามของเขาพูดแบบนี้เขาจึงโกรธภรรยาจนใช้มือตบไปที่หน้าของแม่เฒ่าตงเต็มแรง "แล้วพ่อตกลงไหม กับข้อตงลงที่มีให้ระบุลงไปในสัญญา" แม้ว่าตงซีเฉินจะตกใจที่เห็นพ่อตบแม่ ทั้งๆ ที่เขานั้นไม่เคยทำร้ายแม่เลยสักครั้ง "ตกลง หัวหน้าหมู่บ้านลงรายละเอียดตามที่เจ้าสี่พูดเลย" ตงก้านพยักหน้าตกลง เขาต้องการให้ทำเรื่องตัดขาดให้เรียบร้อยโดยเร็วตอนนี้เขาต้องข่มความอายจากสายตาของชาวบ้านไว้ หัวหน้าหมู่บ้านจึงลงรายละเอียดทุกอย่างตามที่ตงซีเฉินต้องการ เมื่อเรียบร้อยแล้วเขาจึงส่งให้ทั้งสองฝ่ายลงลายมือชื่อ "เอาล่ะทั้งสองฝ่ายลงลายมือชื่อให้เรียบร้อย ให้ผู้อาวุโสสามแห่งบ้านตงลงลายมือเป็นพยานพร้อมกับฉัน" เมื่อทุกฝ่ายลงลายมือในสัญญาหนังสือตัดขาดหัวหน้าหมู่บ้านยังไม่ได้ส่งหนังสือตัดขาดให้ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ตามมาด้วยในครั้งนี้ "เอาล่ะเดี๋ยวฉันเอาหนังสือตัดขาดไปให้เจ้าหน้าที่ลงชื่อเป็นพยานก่อนนะ เพราะครั้งนี้มีทรัพย์สินร่วมอยู่ในสัญญาด้วย" หัวหน้าหมู่บ้านพูดจบเตรียมจะเดินจากไป กลับมีเสียงทรงอำนาจดังออกมาจากบ้านตงซีเฉิน "ไม่ต้องไปหรอกหัวหน้าหมู่บ้าน ตำแหน่งท่านนายพลแบบผม คงจะลงชื่อเป็นพยานในหนังสือตัดขาดของตงซีเฉินซึ่งเป็นลูกชายบุญธรรมของผมได้ใช่ไหม" นายพลป้านเดินออกมาจากในบ้าน ก่อนจะพูดด้วยเสียงหนักแน่นและจริงจัง บ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นคือความจริง หลังจากนี้ไปหากใครมาวุ่นวายกับบ้านของตงซีเฉินก็เท่ากับ มาวุ่นวายกับเขาด้วยเช่นกัน "ท่านนายพลป้าน มาได้ยังไงครับ" หัวหน้าหมู่บ้านร้องเสียงหลง เมื่อปีที่แล้วเขาเคยไปติดต่อราชการและประชุมหัวหน้าหมู่บ้าน ครั้งนั้นมีท่านนายพลป้านคนนี้เป็นผู้นำการประชุมจึงทำให้เขาจำหน้าท่านได้ "ฉันพาเซียงเหวินลูกชายฉันมาทำการค้ากับเหมยจูและซีเฉินตอนนี้ตัวซีเฉินเองเป็นลูกบุญธรรมของฉันและภรรยาเรียบร้อยแล้ว มาเถอะเอาเอกสารมาฉันจะลงชื่อเป็นพยานให้เอง" สิ้นเสียงท่านนายพลป้านชาวบ้านก็แตกฮือ ไม่คิดว่าตงซีเฉินจะมีวาสนามากขนาดนี้ ตัดขาดจากบ้านตงแต่กลับกลายได้เป็นลูกชายบุญธรรมของท่านนายพลแทนเสียนี่ ไม่เรียกวาสนาจะให้เรียกว่าอะไร รู้สึกว่าตั้งแต่สองสามีภรรยากลับมารักกัน ตงซีเฉินจะมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาตลอด ส่วนบ้านตงนั้นได้แต่ตะลึงตาค้างไม่คิดว่าทุกอย่างจะกลับกลายเป็นแบบนี้ จากนั้นท่านนายพลป้านจึงลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญาแยกบ้านฉบับนี้ทันที "ปู่ดีใจด้วยนะเจ้าสี่ นายหลุดพ้นเคราะห์กรรมเสียที" ผู้อาวุโสสามแห่งบ้านตงมีรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างจริงใจเมื่อพูดกับตงซีเฉิน "ขอบคุณครับปู่เล็ก" ตงซีเฉินยิ้มรับ "พี่ดีใจกับนายด้วยนะซีเฉิน" ตงเหวินซู่เดินเข้ามาแสดงความดีใจกับน้องชายด้วยอีกคน "ขอบคุณครับพี่รอง ถ้าหากพี่มีเรื่องไม่สบายใจหรือหนักอก พี่อย่าลืมว่าพี่ยังมีผมเป็นน้องชายพี่อยู่ ไม่ว่าจะมีอะไรหรือจะแค่เข้ามาคุยพี่ยังคงมาหาผมได้เสมอนะครับ" ตงซีเฉินพูดเบาๆ กับพี่รองของเขา แม้ว่าจะอยู่กันคนละบ้านและตัดขาดกับบ้านตงแล้วก็ตาม เขายังคงรักและเคารพพี่ชายคนนี้เสมอมา แรกๆ ที่เขาแยกบ้านมีพี่ชายคนนี้แหละที่แอบซื้อนมมาให้ลูกของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะลืมบุญคุณของพี่ชายคนนี้ "เดี๋ยวนะคุณคือท่านนายพล และเจ้าสี่เป็นลูกบุญธรรมของคุณเหรอ" แม่เฒ่าตงเมื่อได้สติกลับมาครบถ้วนจึงได้ถามเสียงสั่น ตอนนี้เธอโกรธเจ้าลูกชายตัวดีคนนี้แทบอยากจะฆ่าให้ตายนัก มีอย่างที่ไหนตัวเองได้เป็นถึงลูกบุญธรรมของท่านนายพลและนังสะใภ้สี่ก็ทำการค้ากับลูกชายท่านนายพลอีก การค้าครั้งนี้คงได้เงินไม่น้อย แต่กล้าเก็บเป็นความลับกับเธอได้ยังไง แล้วยังกล้าทำเรื่องตัดขาดกับพ่อแม่โดยไม่คิดที่จะส่งเสียอีก "ใช่ ซีเฉินเป็นลูกบุญธรรมของฉันเอง และฉันก็เป็นท่านนายพล ดังนั้นซีเฉินจึงเป็นครอบครัวของทหาร ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำร้ายหรือมาวุ่นวาย หากซีเฉินไม่ยินยอมคนคนนั้นจะได้เห็นดีกับฉันแน่ ว่าแต่เธอถามทำไม" นายพลป้านไม่ระบุถึงใคร แต่สายตานั้นมองเพียงบ้านตงเท่านั้น เขาเองอยากรู้เหมือนกันว่าบ้านตงกล้ามาวุ่นวายอีกไหม "ไม่มีแล้วค่ะ" แม่เฒ่าตงรีบปฏิเสธ จะให้เธอมีอะไรได้ ถึงแม้เธอจะไม่พอใจหรือแค้นใจเจ้าสี่แค่ไหน แต่ท่านนายพลประกาศออกมาแบบนี้ใครจะกล้ามีเรื่องอีก แม้แต่ตงก้านเองก็แค้นใจตงซีเฉินแทบกระอักเลือดจึงได้เรียกทุกคนกลับบ้าน แต่ก่อนที่บ้านตงทั้งหมดจะจากไปกลับเขาได้ยินท่านนายพลคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเรื่องไฟฟ้าและเรื่องการค้าของสะใภ้สี่ "จริงสิหัวหน้าหมู่บ้าน ทำไมที่นี่ถึงยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จริงๆ แล้วตามหมู่บ้านต่างไฟฟ้าควรจะเข้าถึงได้แล้วนะ" นายพลป้านถามอย่างไม่เข้าใจ เขาเองเป็นคนเสนอเรื่องไฟฟ้าให้กับแต่ละหมู่บ้าน แล้วทำไมหมู่บ้านเหอซานแห่งนี้จึงยังไม่มีไฟฟ้าใช้ "คือว่าผมทำเรื่องไปแล้วครับท่าน แต่ว่ายังไม่มีการอนุมัติออกมา ไม่รู้ว่าเกิดจากปัญหาอะไร" หัวหน้าหมู่บ้านส่งเรื่องไปหลายครั้งแล้วหลังจากกลับจากประชุมในครั้งนั้น "เอาอย่างนี้ คุณไปจัดการเรื่องเอกสารมาแล้วถามเสียงของชาวบ้านด้วยว่ามีใครอยากใช้ไฟฟ้าบ้างไหม และมีบ้านไหนบ้างที่ต้องการ หากเรียบร้อยแล้วอีกสองวันค่อยเอามาให้ผมที่นี่ก็แล้วกันเพราะผมต้องมาทำสัญญาซื้อขายรถเข็นคนป่วยจำนวนสามร้อยคันกับเหมยจูและซีเฉิน" นายพลป้านพูดกับหัวหน้าหมู่บ้านเสียงดัง แต่ประโยคหลังเหมือนจะพูดให้บ้านตงได้ยิน และอยากให้พ่อแม่ของตงซีเฉินเจ็บใจเล่น เป็นการเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำร้ายลูกบุญธรรมเขา ตงก้านและกู้หลันพ่อแม่ของตงซีเฉินกำมือแน่น แค่คำนวณว่าถ้าเกิดกำไรคันละร้อยหยวนร้อยคันก็หมื่นหยวนเข้าไปแล้ว และสั่งสามร้อยคันไม่เท่ากับกำไรสามหมื่นหยวนเลยเหรอ ต่อให้ได้กำไรคันละห้าสิบหยวนรวมเป็นเงินก็ตั้งหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน ทั้งสองคนได้แต่หน้าดำหน้าแดงด้วยความแค้นจากนั้นจึงเดินกลับบ้านด้วยอาการที่แทบจะหมดแรง เมื่อสถานการณ์กลับมาสงบเหมือนเดิม ทุกคนจึงเดินเข้าบ้าน ตงซีเฉินนั้นเหมือนยกหินที่อยู่ในใจออก แม้ว่ามีส่วนที่เสียใจและน้อยใจ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้บ้านตงก็ไม่จบสิ้นเสียที กลับเข้ามาในบ้านครั้งนี้มีฟู่เจียจิ่นเข้ามาด้วยส่วนหนิงฮุ่ยหมินนั้นอยู่หลังบ้านเตรียมยกอาหารไปให้คนงาน อ้ายเจินมองหน้าฟู่เจียจิ่นเธอจึงร้องเรียกอย่างดีใจ ที่เจอสหายรุ่นน้องสมัยยังสาวๆ เพราะบ้านเดิมของอ้ายเจินนั้นเป็นคนอำเภอนี้ "อาจิ่น" ฟู่เจียจิ่นได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินมาเกือบยี่สิบปีตั้งแต่แต่งเข้าบ้านหนิง เธอจึงเงยหน้ามอง จากนั้นจึงเรียกด้วยความดีใจ "พี่เจิน มาได้ยังไง" "เป็นเธอจริงๆ ด้วย พี่ก็ว่าทำไมพี่ถึงรู้สึกคุ้นหน้ากับเหมยจู ที่แท้ได้ความสวยมาจากเธอนี่เอง ว่าแต่เธอไม่แก่ขึ้นเลยนะ" อ้ายเจินดีใจมากที่เจอสหายรุ่นน้องคนนี้ หากไม่ใช่เพราะแม่ของเขาที่อยากได้ญาติห่างๆ มาเป็นสะใภ้ ป่านนี้สหายของเธอคงได้มาเป็นน้องสะใภ้เธอแล้ว "พี่เจินน่าเกลียด ใครเขาพูดเรื่องอายุกันล่ะ เหมยจูลูกสาวฉันเอาครีมมาให้ใช้ หน้าเลยยังสดใสและผุดผ่องแบบนี้ แม้ว่าฉันจะเป็นหม้าย ฉันก็ต้องดูแลตัวเองนะพี่" ฟู่เจียจิ่นค้อนสหายรุ่นพี่มีอย่างที่ไหนเพิ่งจะเจอหน้ากันกลับพูดเรื่องแก่ *********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม