พิมรักถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างยักษ์หิ้วปีกออกมาโยนที่ริมถนน
“กลับไปเถอะครับ”
ร่างอรชรในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาห้าส่วนสีเดียวกันกับเสื้อล้มกลิ้งอยู่กับพื้นถนน และก็เกือบจะถูกรถสีดำคันหนึ่งที่กำลังจะเลี้ยวเข้าบ้านของอลันพอดีเหยียบเข้า
“กรี๊ดดดด...”
หล่อนยกสองมือขึ้นปิดหน้าตัวเองเอาไว้เพราะคิดว่ารถยนต์จะพุ่งเข้าชน
เสียงเอี๊ยดลากยาวหยุดลง หล่อนจึงลดฝ่ามือออกจากใบหน้า และก็ได้เห็นรถยนต์สีดำเงาวับจอดอยู่ห่างจากร่างของตัวเองเพียงแค่เส้นด้ายลอดผ่านเท่านั้น
ผู้ชายสี่คนก้าวลงมาจากรถ ทุกคนสวมเสื้อสูทสีดำ และสวมแว่นตากันแดด
พวกเขาคือบอดี้การ์ดหรือเรียกสั้นๆ ว่าคนสนิทของอลันนั่นเอง
ชายคนหนึ่งถอดแว่นตากันแดดออกจากใบหน้า และมองมาที่หล่อน ซึ่งหล่อนจดจำเขาได้เป็นอย่างดี
นิกกี้ คนสนิทหมายเลขหนึ่งของอลัน ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็จำหล่อนได้เช่นกัน เพราะเขายิ้มให้กับหล่อน และเดินเข้ามาหา มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าอย่างมีน้ำใจ
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งครับ พิมรัก”
มือหนายื่นมาตรงหน้า และหล่อนที่กำลังยิ้มออกมาทั้งน้ำตาก็วางมือลงบนมือหนานั้น พร้อมกับลุกขึ้นยืน
“คุณนิกกี้ พิม... มา...”
“ผมไม่รู้ว่าคุณมาหานายเพราะอะไร แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้เต็มปากก็คือ... นายกำลังรอพบคุณอยู่”
สันหลังของหล่อนเย็นวาบ ความหวาดกลัวทวีความรุนแรงขึ้นจนแทบจะกลืนกินจิตวิญญาณ เนื้อตัวสาวสั่นเทิ้ม
“ทะ... ทำไมคุณอลันถึงรอ... พบพิมล่ะคะ”
หล่อนเห็นมุมปากของนิกกี้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ ก่อนที่เขาจะตอบออกมา
“นายรอพบคุณมาหกปีแล้วละครับ ส่วนเหตุผลอะไรนั้น คุณคงจะต้องไปฟังจากปากของนายเอง เชิญครับ”
หล่อนรู้ดีว่าควรจะวิ่งหนีไปให้ไกล แต่... ใบหน้าของอเล็กซานเดอร์ที่ผุดขึ้นมาในหัวก็ทำให้หล่อนต้องก้าวข้ามทุกความหวาดกลัวไปให้ได้
“ค่ะ”
แล้วนิกกี้ก็เดินนำหล่อนตรงไปยังประตูรั้วขนาดใหญ่ หล่อนก้าวตามไป โดยมีสายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เพิ่งขับไล่หล่อนมองตามมาด้วยความกังขา
“คุณนิกกี้ครับ ผู้หญิงคนนี้...”
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกบ๊อบบี้” นิกกี้หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างยักษ์ ก่อนจะพาหล่อนก้าวข้ามธรณีประตูรั้วเข้าไปภายในอาณาจักรของ มาร์ซีอาโน
ที่นี่ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ไม่มีเลย แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังอยู่ที่เดิมของมัน
น้ำตาค่อยๆ ไหลรินออกมา ก่อนจะรีบป้ายทิ้ง และดึงตัวเองกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
หล่อนมาที่นี่เพื่ออเล็กซานเดอร์ ดังนั้นอย่าได้คร่ำครวญถึงความทรงจำในอดีตอีก เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“คุณรออยู่ที่นี่ก่อน ผมจะไปเรียนนาย”
เมื่อเข้ามาถึงห้องโถงกว้าง นิกกี้ก็เอ่ยขึ้นกับหล่อนด้วยน้ำเสียงสุภาพ
หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและหวาดกลัว
“ค่ะ”
ร่างสูงใหญ่ของนิกกี้เดินหายไปหลังเหลี่ยมเสาข้างบันไดแล้ว หล่อนจึงได้มีโอกาสใช้สายตามองสำรวจสิ่งรอบๆ ตัว
ภายในห้องโถงนี้ก็ยังถูกตกแต่งด้วยสไตล์เดิมเหมือนเมื่อหกปีที่แล้วไม่มีผิด
หญิงสาวเลื่อนสายตามองไปที่ตู้กระจกที่ด้านในมีเครื่องแก้วราคาแพงระยับตั้งเรียงรายอยู่ และความทรงจำก็หลั่งไหลกลับเข้ามา
ลูกสาวคนรับใช้แอบมองเจ้านายหนุ่มรูปหล่อที่หลังตู้กระจกในทุกเช้า ตอนที่อลันกำลังจะออกไปทำงานที่บริษัท
หล่อนยืนแอบมอง ยืนหน้าแดง ยืนหัวใจเต้นแรงในทุกเช้าของวันทำงาน ส่วนวันหยุด หล่อนก็จะไปแฝงตัวอยู่ในสวน เมื่อแอบมองอลันที่มักจะไปนั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือเป็นประจำ
แค่ได้แอบมอง...
แค่ได้แอบรัก...
หล่อนก็พึงพอใจกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่แล้ว...
แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไป เมื่อค่ำคืนนั้นเกิดขึ้น
หญิงสาวยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะรีบหันไปมองด้านหลัง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้น
นิกกี้นั่นเอง...
หล่อนปั้นยิ้มบางๆ ให้กับเขา และก็เฝ้ารอคำพูดจากปากของเขาอย่างใจจดจ่อ
“นายรอคุณอยู่ที่ห้องสมุดครับ”
“เอ่อ... ค่ะ...”
พิมรักก้มหน้าหลบสายตาของนิกกี้ ก่อนจะก้าวเดินตรงร่างของชายหนุ่มไปเงียบๆ
ห้องสมุด...
หล่อนกับอลันเคยมีความทรงจำในห้องนั้นด้วยกัน
หลังจากค่ำคืนนั้นที่เขาพลาดพลั้งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกสาวคนใช้อย่างหล่อน เขาก็เรียกให้หล่อนไปหาในช่วงสายของวันถัดมา
หล่อนไปพบเขาในห้องสมุด ก่อนจะถูกเขายกร่างให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะไม้ จากนั้นเขาก็...
สองแก้มนวลแดงระเรื่อ เลือดสาวในกายร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างน่าตกใจ
เขาก้มหน้าลงมาหา กลืนกินเสียงร้องตกใจของหล่อนด้วยริมฝีปากร้อนรุ่ม ฝ่ามือของเขาปลดเปลื้องอาภรณ์จากกายสาว เต้านมถูกอุ้งมือใหญ่ฟอนเฟ้น หัวนมถูกบี้คลึงจนมันแข็งเป็นไตน่าอับอาย ส่วนอีกมือหนึ่งของเขาก็ล้วงลึกต่ำลงมาที่ซอกขา
และ...
แตะต้องตรงนั้น...
อา...
พิมรักกลืนน้ำลายเหนียวหนึบผ่านลงไปในลำคอที่กำลังแห้งผาก ความทรงจำที่น่าอับอายกำลังทำร้ายหล่อนอย่างรุนแรง
ลืมมันซะ
เธอมาที่นี่เพราะอเล็กซานเดอร์
เสียงจากสมองร้องสั่งดังลั่น ซึ่งมันก็ช่วยทำให้หล่อนสามารถตั้งสติขึ้นมาได้ชั่วขณะ
แอ๊ด...
เสียงเปิดประตูดังขึ้น เมื่อนิกกี้พามาถึงหน้าห้องสมุดแล้ว
“เชิญครับ นายน่าจะมาพบคุณในอีกสิบนาทีข้างหน้า”
นิกกี้ผายมือเชิญหล่อนให้เข้าไปข้างในห้องสมุด
หล่อนมองผ่านรอยแยกของบานประตูเข้าไปข้างในนั้น ก่อนจะกลั้นใจเดินเข้าไป
เสียงปิดประตูดังตามขึ้นด้านหลัง ทำให้หล่อนสะดุ้งน้อยๆ
ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก แค่... อ้อนวอนให้อลันยอมช่วยเท่านั้น แล้วทุกอย่างก็จะจบ
หล่อนปลอบใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก็หลอกตัวเองว่าทำได้ แต่... มันก็มีอะไรบางอย่างบอกให้รู้ว่า หล่อนกำลังก้าวเข้าสู่สนามสงครามที่ตัวเองไม่มีวันได้กุมชัยชนะ