หล่อนไม่มีทางเลือกไหนอีกแล้ว...
พิมรักนั่งตัวสั่นเทิ้มอยู่บนรถแท็กซี่ น้ำตาไหลซึมออกมาจากสองดวงตาตลอดเวลา เมื่อนึกถึงความโหดร้ายที่ตนเองกำลังจะเผชิญหน้า
หกปีแล้วสินะที่หล่อนจากที่นี่ไป...
หกปีแห่งความทุกข์ทรมานที่ไม่อาจจะสลัดทิ้งไปจากความทรงจำได้
หกปีที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก
แต่ภายในหกปีนี้ หล่อนก็ได้รับรางวัลจากพระเจ้าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่แสนน่าเอ็นดู
ของขวัญจากพระเจ้าที่เลือดครึ่งหนึ่งเป็นของ อลัน มาร์ซีอาโน
อเล็กซานเดอร์ เด็กชายแก้มยุ้ยผู้มีใบหน้าถอดแบบมาจากบิดาของเขาแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งจมูกที่โด่งเป็นสัน ดวงตาคมกริบสีฟ้าคราม และริมฝีปากหยักสวยรูปกระจับ
เด็กน้อยคือแก้วตาดวงใจของหล่อน เขาคือของขวัญชิ้นเยี่ยมที่หล่อนได้รับจากพระเจ้า แต่ตอนนี้ของขวัญชิ้นนี้กำลังจะถูกพรากไปจากอก ทำให้หล่อนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อลูกชายเอาไว้
แม้กระทั่งการบากหน้ากลับมาที่นี่
ฟลอเรนต์...
หล่อนและมารดาได้รับปากกับโซเฟียเอาไว้ว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก และจะไม่ติดต่อกับอลันอีก แต่ตอนนี้หล่อนกำลังผิดสัญญานั่น
แต่ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ในเมื่อ
อเล็กซานเดอร์กำลังอยู่ในอันตราย และก็มีเพียงแค่
อลันคนเดียวที่จะช่วยเหลือได้
ต่อให้โซเฟียจะชี้หน้าด่าหล่อนว่าทรยศ ต่อให้
อลันจะประณามเหยียดหยามอย่างร้ายกาจแค่ไหน แต่หล่อนก็จะอดทน
ต้องทนให้ได้ เพื่อให้เขาช่วยเหลืออเล็กซานเดอร์ให้ปลอดภัย
‘ลูกชายของคุณต้องได้รับการผ่าตัด แต่เด็กมีเลือดที่จัดอยู่ในหมู่โลหิตหายาก ซึ่งตอนนี้ที่โรงพยาบาลไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้เหลืออยู่เลย’
เสียงของคุณหมอยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท และนี่คือสาเหตุที่ทำให้หล่อนต้องรีบเร่งเดินทางกลับมาที่ฟลอเรนต์อีกครั้ง
“ถึงแล้วครับ”
เสียงของคนขับรถแท็กซี่ดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังดำดิ่งอยู่ในธาราแห่งความทุกข์ ได้สติกลับคืนมาชั่วขณะ
พิมรักมองออกไปนอกกระจกรถแท็กซี่ รั้วบ้านขนาดใหญ่คล้ายจะบิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริงเพราะถูกม่านน้ำตาแห่งความทุกข์ทรมานอำพรางเอาไว้
หัวใจของหล่อนฉ่ำชุ่มไปด้วยหยาดโลหิต ความเกลียดชังที่อลันมีต่อตัวเองยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
ไม่เคยลืมได้ลง...
เขาจะต้องโกรธมาก จะต้องโมโหสุดๆ ที่เห็นเศษขยะต่ำต้อยไร้ค่าเช่นหล่อนตรงหน้าอีกครั้ง แต่หล่อนก็ภาวนาให้เขายอมเมตตา...
เมตตาที่จะยอมรับฟังเหตุผลของหล่อนบ้าง...
หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายหยาดน้ำตาจากสองแก้มนวล พร้อมกับยื่นเงินค่าโดยสารให้กับคนขับรถแท็กซี่
หล่อนก้าวลงไปยืนอยู่ตรงหน้ารั้วบ้านหลังมหึมาอีกครั้งหลังจากเวลาล่วงเลยผ่านไปหกปี
แข้งขาสั่นเทาและอ่อนแรง หล่อนพยายามที่จะเข้มแข็ง แต่ความหวาดกลัวก็ทำให้ความเข้มแข็งเบาบางลงจนน่าตกใจ สมองเต็มไปด้วยความฟุ้งซ่านจนอยากจะหายตัวไปจากโลกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
แต่หล่อนทำแบบนั้นไม่ได้...
อเล็กซานเดอร์ยังต้องการความช่วยเหลือจากพ่อแท้ๆ ของเขา
ความคิดที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวยุติลงชั่วขณะ เมื่อมีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมา
หล่อนหันไปมองต้นเสียงก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และก็น่าจะเป็นพนักงานที่เข้ามาทำงานไม่ถึงหกปี เพราะหล่อนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
“เอ่อ... ดิฉันมาขอพบคุณ... อลันค่ะ”
แววตาของผู้ชายตรงหน้าเต็มไปด้วยความกังขา พร้อมกับใช้สายตาไม่ไว้วางใจมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“นายนัดคุณไว้หรือเปล่าครับ”
พิมรักส่ายหน้าไปมา แต่ก็ยังฝืนที่จะยิ้มออกไปให้กับคู่สนทนา
“เปล่าค่ะ แต่ฉัน... มีธุระสำคัญกับคุณอลันค่ะ”
“ถ้าไม่มีนัดก็คงให้เข้าพบไม่ได้ครับ”
แววตาของหล่อนไหววูบด้วยความผิดหวัง แต่หล่อนไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน หล่อนอุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงฟลอเรนต์ยังไงซะ หล่อนก็ต้องวิงวอนอลันให้ช่วยเหลือลูกชายให้ได้
“รบกวนคุณเข้าไปเรียนคุณอลันว่า พิมรัก มาขอพบค่ะ”
“คงจะไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากทำให้นายไม่พอใจ”
“แต่ฉันมีธุระสำคัญกับคุณอลันจริงๆ ได้โปรดเข้าไปเรียนคุณอลัน แค่บอกชื่อของฉันก็พอค่ะ ฉันมั่นใจว่าคุณอลันจะต้องให้ฉันเข้าพบแน่นอน”
หล่อนพยายามอ้อนวอน แต่ผู้ชายตรงหน้ากับหัวเราะออกมา
“คุณรู้ไหมว่าในหนึ่งเดือน มีผู้หญิงใช้มุกเดียวกับคุณกี่คน เพื่อจะขอเข้าพบนาย”
“คุณกำลังเข้าใจฉันผิดนะคะ ฉันไม่ได้มาเพื่อวัตถุประสงค์นั้น ฉันมา...”
“รบกวนกลับไปได้แล้วครับ ผมไม่อยากใช้กำลังกับผู้หญิง ยิ่งผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าทะนุถนอมแบบคุณ ผมก็ยิ่งไม่อยากทำ”
“แต่ฉันต้องพบคุณอลันค่ะ ต้องพบให้ได้”
เมื่อผู้ชายตรงหน้าไม่ยอมให้เข้าไป พิมรักจึงเลือกที่จะถือวิสาสะวิ่งเข้าไปด้วยตัวเอง แต่แขนถูกดึงเอาไว้เสียก่อน
“คุณผู้หญิงครับ ผมขอร้องล่ะ กลับไปเถอะ ผมไม่อยากทำให้คุณเจ็บตัวน่ะครับ”
“ได้โปรดให้ฉันเข้าพบคุณอลันเถอะนะคะ ฉันมีธุระสำคัญจริงๆ ฉัน...” หล่อนร้องไห้ออกมา พยายามอ้อนวอน
“ผู้หญิงที่มาหานายก็พูดแบบนี้ทุกคน และก็บีบน้ำตาแบบนี้ทุกคนเหมือนกันครับ ผมเคยพลาดไปครั้งหนึ่งแล้ว และก็เกือบถูกนายไล่ออก ดังนั้นผมจะไม่มีวันพลาดอีก”
“แต่ฉัน... อ๊ะ...”