ตอนที่ 5

1113 คำ
ท่าทางของลุงเบิ้มในตอนนี้ดูหิวโหยยิ่งกว่าทารกอดอยาก การจู่โจมปลุกเร้าอารมณ์เร่าร้อนถึงอกถึงใจ ทำเอาแรมจันทร์พริ้มตาซ่านสยิว “อ๊ะ… อ๊อย… อย่า… ไม่เอานะ” ปากร้องห้าม หากก็ดิ้นไม่หลุด ลุงเบิ้มยังกะซวกดูดหัวนมไม่ปล่อย คนโดนดูดเสียวซ่านจนแทบขาดใจ เสียงลมหายใจติดๆ ขัดๆ พรูออกมาจากริมฝีปากเผยออ้า แรมจันทร์หลุบตาลงมองปลายหัวนมของตัวเองที่ถูกดูดจนปูดปลิ้นแดงปลั่ง ขยับขยอกอยู่ในอุ้งปากของผู้ชายที่ไม่ใช่ผัว “หยุดนะพี่เบิ้ม... อูย ซี้ด ไม่งั้นฉันจะร้องนะ” ครั้นเมื่อสติคืนกลับมา แรมจันทร์ร้องห้าม ยังใจแข็ง ปากแข็งว่าไม่อยาก ทั้งที่หัวนมก็แข็งตั้ง ขนลุกไปทั้งร่าง เสียวซ่านใจจะขาด รู้ว่าถ้าขืนปล่อยให้ลุงเบิ้มเล้าโลมนานไปกว่านี้ มีหวังว่าโดนขยี้สวาทคาป้อมยามแน่ๆ จึงรวบรวมความเข้มแข็งสุดท้าย สูดหายใจลึก เอามือผลักอกลุงเบิ้มแล้วดิ้นหลุดออกมาได้          “พับผ่าสิ… เสียดายเหลือเกิน”          ลุงเบิ้มตวัดลิ้นเลียริมฝีปาก จ้องมองแรมจันทร์วิ่งหนีออกไปจากป้อมยามด้วยความรู้สึกแสนเสียดาย หล่อนหลบเข้าไปในห้องน้ำชั้นบน อยู่สูงขึ้นมาจากลานจอดรถ          “บ้าจริง… ไอ้ลุงบ้า… ”          แรมจันทร์สบถด่าในใจ เปิดน้ำก๊อกรองใส่มือแล้วยกขึ้นมาลูบล้างหัวนม ถูสองเต้าที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำลายเหนียวๆ ของลุงเบิ้ม โดนดูดโดนไซ้สองเต้าจนเป็นรอยแดง เอาน้ำล้างรอยน้ำลายจากปากลิ้นของคนไม่ใช่ผัว ที่ฝากรอยราคีไว้ในตัวหล่อน          ทว่ายิ่งถู ยิ่งล้างหัวนม ก็ทำให้แรมจันทร์ยิ่งรู้สึกเสียวซ่าน สุดท้ายหล่อนก็ต้องแอบเข้ามาในห้องน้ำ ปิดประตูลงกลอน ถอดเสื้อผ้าแล้วทรุดร่างลงนั่งบนชักโครก เริ่มสัมผัสร่างกายของตัวเองแผ่วเบา “ซี้ดดด… อูย… ” มือเรียวลูบไล้ลงมาบีบขยำปทุมคู่งาม ลูบคลำแล้วคลี่ปลายนิ้ววนคลึงรอบๆ วงป้านลานหัวนมจนขนลุกซู่ไปทั้งร่าง หลับตาร้องคราง… นึกถึงความรู้สึกตอนที่โดนลุงเบิ้มดูดนมอย่างเร่าร้อน          “อ๊า... ซี้ดดดดด… อูย… ”          ฝ่ามือน้อยค่อยๆ เคล้นคลึงทรวงอกอวบใหญ่ของตัวเองด้วยความรู้สึกชื่นชมในความอิ่มสมบูรณ์ของเรือนร่าง มืออีกข้างถือสายฉีดล้าง ฉีดน้ำเข้าใส่ร่องสวาทสลับเค้นคลึงบีบขยำเต้านมอวบใหญ่ล้นมือของตัวเองไปพลาง จู่ๆ เนื้อตัวก็ร้อนผ่าว สั่นเทิ้ม โหยหา ร่างกายของหล่อนกำลังตกอยู่ในอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว นึกถึงท่อนเอ็นของลุงเบิ้มที่เบียดคลึงดุนดันสะโพกหล่อนเมื่อครู่ ยิ่งวูบวาบราวจะเป็นไข้ หากลึกลงไปในอารมณ์… แรมจันทร์เท่านั้นที่รู้ดีว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้หล่อนเกิดอาการทุรนทุรายอย่างนี้            อีกสองเดือนต่อมา ในช่วงแรกๆ ของการทำงาน ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นปกติ ถ้าวันไหนไม่ต้องอยู่กะดึก ราวๆ ห้าทุ่มครึ่งของทุกวัน แรมจันทร์ก็มักจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลับมาถึงบ้าน ทุกวันจะมีกับข้าวและขนมของชอบติดมือมาฝากนพดลผู้เป็นลูกชายเสมอ          กระทั่งวันหนึ่ง นพดลเพิ่งมาสังเกตเห็นความผิดปกติ ในเดือนที่สองของการทำงาน เพราะว่าแรมจันทร์มักจะกลับบ้านช้า บางวันก็ยังได้กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ติดมาตามเสื้อผ้าของหล่อนจนเป็นที่น่าสงสัย            ‘แม่แรมกินเหล้าด้วยหรือนี่? ... โห… มีกลิ่นบุหรี่ด้วยอ่ะ… ’ นพดลนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อน ตอนที่เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำต่อจากแรมจันทร์ ตอนแรกนพดลได้กลิ่นบุหรี่ แต่ก็ไม่ได้ฉงนใจ นึกว่าลุงเด่นที่เช่าบ้านอีกหลังอยู่ข้างๆ แกคงจะนั่งสูบบุหรี่แล้วมีกลิ่นโชยมาตามลม แต่ก็ไม่ใช่ ที่รู้ก็เพราะว่าตอนเดินออกมามองที่หน้าบ้าน ก็เห็นประตูบ้านลุงเด่นยังมีกุญแจล็อคเอาไว้ แสดงว่าแกยังไม่ได้กลับมา แล้วกลิ่นบุหรี่ในห้องน้ำเมื่อครู่… มาจากไหน? ความสงสัยทำให้นพดลกลับเข้ามาในห้องน้ำอีกครั้ง เห็นเสื้อผ้าของแม่ถอดพาดไว้ที่ราวแขวนข้างฝาผนังในห้องน้ำ จึงหยิบมาดม… ใช่เลย… กลิ่นมาจากเสื้อผ้าของแม่นี่เอง และไม่ใช่แค่กลิ่นบุหรี่ ยังมีกลิ่นคล้ายเหล้าขาว          นพดลเริ่มสงสัย… กลิ่นพวกนี้มาได้ยังไง เพราะว่าไม่เคยเห็นแม่กินเหล้าและสูบบุหรี่ หรือว่าสังคมใหม่ในที่ทำงาน… ทำให้แรมจันทร์เปลี่ยนไป คนเป็นลูกชายตั้งคำถามด้วยความคับข้องใจ แต่ก็เก็บงำความสงสัยเอาไว้เพียงลำพัง กระทั่งวันหนึ่ง เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน หากแรมจันทร์ก็ยังไม่กลับมา นพดลจึงตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์ไปหาที่โรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก          ดึกแล้วรถไม่ติด ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีกว่าๆ นพดลก็มาถึงโรงแรมที่มารดาทำงาน เป็นโรงแรมใหญ่โตหรูหรา นพดลแหงนหน้าขึ้นมองตึกสูงใหญ่ สายตาไต่ไปตามความสูง นับได้สามสิบชั้น ไม่แปลกที่โรงแรมใหญ่แบบนี้ต้องใช้แม่บ้านทำความสะอาดหลายคน เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวา ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหาลุงยามคนหนึ่ง แกกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ในป้อมเล็กๆ ใกล้มุมประตูทางเข้าโรงแรม “มาหาใครวะไอ้หนุ่ม” ลุงยามร้องถาม          “มาหาแม่ครับ… แม่ผมทำงานเป็นแม่บ้านครับ ลุงยามรู้ไหมครับว่าตอนนี้แม่ผมทำงานอยู่ตรงไหน” นพดลถาม ลุงยามยกบุหรี่ขึ้นสูบ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งไปในเวิ้งอากาศแล้วถามกลับ “ใครวะแม่เอ็ง… ชื่ออะไร ที่นี่มีแม่บ้านหลายคน” ลุงยามย่นหน้าผากสงสัย ซึ่งตอนหลังนพดลมารู้ว่าแกชื่อลุงอำนวย “แม่ผมชื่อแรมครับ” เด็กหนุ่มตอบ เพียงเท่านั้นลุงยามก็ถึงบางอ้อ “อ๋อ… นังแรมคนสวยน่ะเอง โน่น… วันนี้น่าจะอยู่ชั้นยี่สิบโน่นเลย” ลุงยามชี้มือขึ้นไปบนตัวอาคารสูง ขมวดคิ้วสงสัยแล้วถามกลับ          “เลิกงานได้สักพักแล้วนี่นา นี่แม่เอ็งยังกลับไม่ถึงบ้านอีกหรือวะ”          “ครับ… งั้นผมขอตัวไปตามแม่ก่อนนะครับ” บอกแล้วนพดลก็เดินจากมา ลุงยามบอกให้อ้อมมาขึ้นลิฟท์สำหรับพนักงานที่อยู่ในลานจอดรถชั้นล่าง 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม