“ลูกสาวของคุณป้าทำได้แน่นอนครับ เธอทำงานเก่งผมเชื่อมือ แค่งานเอกสารเล็กๆ น้อยๆ และช่วยผมเรื่องอื่นๆ ผมเชื่อว่าเธอทำได้ครับ”
“ป้าดีใจที่น้ำอิงจะได้ช่วยคุณสิงทำงานค่ะ น้ำอิงน่ะพิมพ์งานเร็ว ทำงานคล่อง เก่งภาษาด้วย เขาเป็นเด็กหัวดี ปิดเทอมตั้งหลายเดือน ไหนๆ ก็ต้องออกไปทำงานช่วงปิดเทอมอยู่แล้ว หนูก็ไปช่วยคุณเขานะลูก” มะลิพูดจาสนับสนุนเต็มที่ขณะมองบุตรสาวอย่างชื่นชมรักใคร่
“ค่ะแม่” น้ำอิงรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องช่วยพี่ชายและรวมถึงไม่อยากให้มารดาทุกข์หนัก ท่านจะรู้ไหมว่ากำลังยื่นเนื้อเข้าปากเสือ
“บางครั้งอาจจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยนะครับ มีพักค้างคืนเพราะต้องไปติดต่องานกับลูกค้า ผมคงต้องขออนุญาตป้ามะลิล่วงหน้าเลย นะครับ” สิงหลตกลงทุกอย่างให้เรียบร้อยต่อไปจะได้ทางสะดวกไม่มีปัญหาอีก
“ค่ะ แล้วแต่คุณสิงเลยค่ะ” มะลิเองก็ไม่ค่อยสบายใจนัก สิงหลเจ้าชู้ จะตายไป กลัวลูกสาวจะพลาดท่าเสียที แต่ก็เอาเถอะ นางจะกำชับว่าให้ ระวังตัว แต่คนอย่างสิงหลคงไม่ลดตัวลงมายุ่งกับลูกสาวใช้ต่ำต้อยแบบนางหรอกนะ
สิงหลจัดการส่งโชคชัยไปบำบัด และน้ำอิงก็ต้องไปทำงานกับเจ้านายหนุ่มตามที่เขาต้องการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“วันนี้ว่างไหม” เขาเอ่ยถามขณะที่เธอกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวน หลังบ้าน
“ทำไมคะ”
“มีเสื้อผ้าใส่ไปทำงานหรือยัง พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแล้วนะ” เขากวาดตามองเสื้อผ้าเรียบร้อยมิดชิดของเธอ นึกจินตนาการไปว่าถ้าเธอใส่ซีทรูไปนั่งตักเขาจะเป็นยังไง
“คุณสิงคะ คุณสิง”
“หือ... ว่าไง” สิงหลกระแอมกระไอเมื่อโดนเรียกซ้ำๆ เมื่อกี้เขาไม่ได้ฟังว่าเธอตอบว่าอะไร เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นอยู่
“หนูบอกคุณว่ามีเสื้อผ้าชุดสุภาพแล้วค่ะ”
“ไหนขอดูหน่อย”
“ทำไมต้องดูด้วยคะ”
“เพื่อความมั่นใจว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันขายหน้าไง”
“ก็ถ้าเธอสวมเสื้อผ้าเชยๆ ไปพบลูกค้ากับฉัน มันก็ไม่ไหวนะแบบนั้น บริษัทของฉันใหญ่โต เลขาฯ และพนักงานต้องแต่งตัวดูดี มันเป็นความน่าเชื่อถืออย่างหนึ่งที่พนักงานทุกคนต้องทำให้บริษัท รูปลักษณ์ภายนอกสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการทำงานนะ ทำงานเก่งก็ต้องดูดีด้วย” เขาขยับ เข้ามาใกล้ เธอดันอกของเขาด้วยบัวรดน้ำ น้ำในบัวรดน้ำกระเด็นใส่เขาเต็มๆ
“ฉันเปียกหมดแล้วเห็นไหม” เขาทำเสียงดุใส่เธอ น้ำอิงรีบถอยหนี ท่าทีไม่ยินยอม
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูออกไปซื้อเสื้อผ้าเองก็ได้ค่ะ ไม่อยากรบกวนคุณ”
“เธอต้องไปกับฉัน”
“ทำไมคะ”
“ฉันอยากเลือกให้เธอเอง จะได้รู้ว่าเหมาะกันไหม”
“มันเกี่ยวกันด้วยเหรอคะ”
“เกี่ยวสิ ถ้ากางเกงในเธอไม่เซ็กซี่ แล้วจะ...” เขาชะงักไว้แค่นั้นคนฟังถึงกับหน้าแดง
“เกี่ยวอะไรกับกางเกงในคะ” เธอถามเขาหน้าตาแตกตื่น
“ก็กางเกงในของเธอมันยืดแล้ว แถมยังเป้าขาด”
“อ๊าย... กางเกงในของหนูเป้าไม่ได้ขาดนะคะ” เธอเต้นเร่าๆ กับประโยคของเขา คนบ้าอะไรมาหาว่ากางเกงในของเธอเป้าขาด มันไม่ได้ขาดเสียหน่อย
“อย่าเถียงสิ ทำหน้ามึนอีก ฉันเป็นคนถอด ทำไมจะจำไม่ได้ว่าเป้าขาด ยางยืดก็เสื่อมสภาพ ไม่น่ามองเลยสักนิด กางเกงในของเธอน่ะซอมซ่อ ขนาดไหน ฉันจำได้ติดตาติดใจเลยแหละ” จริงๆ กางเกงในของเธอหอมกรุ่น หอมกลิ่นสาบสาวชวนสูดดม แสดงว่าเธอเป็นคนสะอาดสะอ้านมากทีเดียว แต่ที่เขาอยากพาไปเปลี่ยน เพราะมันมิดชิดเกินไปเท่านั้นเอง มันไม่เซ็กซี่ เขาอยากถอดกางเกงในเซ็กซี่ๆ บนเรือนร่างน่าปรารถนาของเธอเสียมากกว่า
“อ๊าย... ไม่จริงสักหน่อย” เธอหน้าแดง ปฏิเสธปากคอสั่นระริก อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
“เอาน่า อย่าอายไปเลย ไปแต่งตัวเถอะ ฉันจะรออยู่หน้าตึก ไม่งั้น เรื่องกางเกงในของเธอถึงหูแม่ของเธอแน่” เขาพูดแล้วเดินหนี น้ำอิงอ้าปากค้างตาโต กระทืบเท้าเร่าๆ อยู่แบบนั้น เมื่อโดนหาว่ากางเกงในเธอเก่าจนแทบใส่ไม่ได้
แล้วกางเกงในของเธอเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอด้วยเล่า!!!
“คนบ้าๆๆ มาหาว่ากางเกงในของเรายืดย้วยได้ยังไงกัน” น้ำอิงเดิน เข้าห้อง ก่อนจะเปิดลิ้นชักออกมาดูกางเกงใน มันก็ยังสภาพดีอยู่นี่นา เธอซักสะอาดสะอ้าน พับเก็บเรียบร้อย มันย้วยยืดเก่าซอมซ่อตรงไหนกัน เธอไม่เข้าใจว่ากางเกงในเกี่ยวอะไรกับงานเป็นเลขาฯ แต่สุดท้ายก็ต้องอาบน้ำแต่งตัวออกไปซื้อเสื้อผ้ากับเขาอยู่ดี
“ออกไปข้างนอกกับผัวทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ” เขาขยับเข้ามาใกล้ เธอสะดุ้ง
“เป็นอะไร”
“แล้วคุณสิงจะทำอะไรล่ะคะ”
“จะรัดเข็มขัดให้ เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเหรอ” เขาเอ่ยถามอย่างเจ้าเล่ห์ เธอหน้าแดงก่อนอุบอิบตอบออกไป
“ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อยค่ะ”
“โกหก” เขาจ้องตาเธอ
“ปะ... เปล่านะคะ”
“คนปากแข็ง”
“อื้อ...” เธอทุบแผ่นหลังเขาระรัว เมื่อโดนเขาบดจูบลงมาอย่างดูดดื่ม
“ปากหวาน” เขาถอยห่าง ก่อนจะออกรถ เธอหันซ้ายแลขวากลัวคนเห็นว่าเมื่อครู่ทำอะไรกันอยู่
“กลัวอะไร ไม่มีใครเห็นหรอก เราอยู่ในรถ”
“แต่คุณสิงก็ไม่ควรทำรุ่มร่ามแบบนี้นะคะ” นี่มันในบ้าน เธอกลัวจะมีใครมาเห็นและเอาไปนินทา รู้ถึงหูมารดาก็กลัวว่าท่านจะไม่สบายใจ
“คืนนี้มาหาฉันที่เรือนกล้วยไม้ด้วยนะ”
“ไปทำไมคะ”
“ฉันหิวเธอ อยากจับกินตับ”
“คุณสิง!!!” เธออุทานหน้าตาเหลอหลา
“อะไร อยู่ใกล้กันแค่นี้เรียกเสียฉันหูแทบพิการ”
“ขอโทษค่ะ”
“ฉันจะรอนะ”
“หนูไม่ไป”
“แน่ใจเหรอที่พูดแบบนี้ งั้นพี่ชายของเธอ...”
“ก็ได้ค่ะ” เธอไม่อยากทำให้ผู้มีพระคุณอย่างคุณหญิงปรานีต้องเสียใจ และไม่อยากให้ท่านเอาเรื่องพี่ชายของเธอด้วยเลยต้องยอม ที่สำคัญไปกว่านั้นเธอคิดถึงความรู้สึกของมารดา เธอไม่อยากให้ท่านต้องมาเสียใจผิดหวังอีก สิ่งที่เธอทำได้คือก้มหน้าก้มตาทำตามที่สิงหลต้องการ
สิงหลขับรถพาเธอมายังห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองใหญ่ เขาลงไปเปิดประตูรถให้เธอ
“คุณสิงเปิดประตูรถให้ผู้หญิงทุกคนที่พาออกมาข้างนอกแบบนี้ เหรอคะ” เธอประชดเขา
“มันเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษน่ะ แต่ฉันชอบเปิดอย่างอื่นมากกว่าประตูรถนะ”
“อะไรคะ” เธอเอ่ยถามเขาแล้วต้องชะงัก อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ถามแบบนี้เด็ดขาด
“ชอบเปิดเสื้อผ้าน่ะ แล้วงับผิวนุ่มๆ ของเธอเล่น”
“หนูไม่คุยกับคนแบบคุณแล้ว” เธอเดินหนีหน้าแดงด้วยความเขินอาย
สิงหลเดินตามเด็กสาวไปติดๆ ก่อนจะจับมือเธอมารวบเอาไว้ น้ำอิงตาโตเมื่อโดนเขาจับมือไปกุมเอาไว้
“คุณสิง”
“อย่าเดินห่างจากฉัน เดี๋ยวหากันไม่เจอ” เหตุผลของเขาน่าเหลือเชื่อ ที่ห้างสรรพสินค้าโล่งขนาดนี้ ผู้คนไม่ได้แออัดอะไร จะหลงกันได้อย่างไรกัน
“อันดับแรกก็ต้องไปซื้อเสื้อผ้าก่อน” เขากวาดสายตามองเธอแล้วดึงให้เธอเดินตามเข้าไปในห้องเสื้อชื่อดัง
“ร้านนี้แพงมากๆ เลยนะคะ” เธอพลิกราคาดูแล้วดึงมือหนีแทบไม่ทัน
“ฉันซื้อให้”