“ใครจะไปรู้ ในงานเมื่อวานมันยุ่งมาก”
อภินันท์แก้ตัวไปเรื่อย รีบตัดบทเลี่ยงพาเพื่อนสนิทไปส่งที่หน้าบ้านแทน
“ฉันไปก่อนแล้วกัน” ประกิตพูดกับเพื่อนรักพร้อมทั้งตบบ่า
“เออ... ขอบใจนายมาก” อภินันท์พูดขอบใจเพื่อนรัก
“ภรรยานายสวยดีว่ะ” ประกิตพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนเดินขึ้นรถไป แต่นั่นกลับยิ่งทำให้อภินันท์อึ้ง รวมถึงพานโกรธไม่พอใจไปถึงคนที่หลับอยู่บนเตียงนอนในห้องเป็นทวีคูณ
“ขนาดหลับยังทำให้คนอื่นเห็นใจอีก หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะยัยจืด” อภินันท์พูดด้วยความหงุดหงิด
ร่างสูงเดินขึ้นบ้านอย่างรวดเร็ว เขาเปิดประตูห้องนอนเข้าไปมองคนที่เป็นลมหมดสติกำลังทานข้าวต้มอยู่บนเตียง โดยมีป้าชื่นกับน้องชายตัวดีกำลังพะเน้าพะนอกันใหญ่ นึกหมั่นไส้ขึ้นมาครามครั่น มือน้อยสั่นขณะยกข้าวต้มขึ้นทานพร้อมทั้งสะดุ้งเมื่อเห็นคนที่เข้ามาในห้อง
อภินันท์เดินเข้ามาพูดเสียงราบเรียบกับคนในห้องที่รู้สึกว่าเกะกะสายตาของเขาเป็นอันมาก
“ป้ามีอะไรก็ไปทำเถอะครับ ส่วนนายด้วยไอ้น้อย อยากจะไปไหนก็ไป มานั่งทำตาเชื่อมอยู่ได้”
อภินันท์ไล่ป้าชื่นกับน้องชายตรงๆ ถึงแม้เสียงจะไม่ได้ตวาดแต่ทำให้ทั้งสองจำต้องเดินออกจากห้องไปในทันที
เมื่อทั้งสองออกไปจากห้องแล้ว ร่างสูงเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาบนเตียงช้าๆ
นิรดากำช้อนแน่นหวาดกลัว มือน้อยสั่นไหวจนข้าวต้มหกบนที่นอนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ทำข้าวต้มหกแบบนี้สกปรกที่นอนหมด แล้วนี่เป็นอะไรอีก อย่ามาทำสำออยไปหน่อยเลย”
อภินันท์นั่งลงบนเตียงใกล้กับภรรยาสาว นิรดาสะดุ้งตกใจอีกรอบมือสั่นจนช้อนตกบนพื้นเตียง
“พี่ใหญ่” นิรดาก้มลงเก็บช้อนด้วยความหวาดหวั่น
ชายหนุ่มกระชากมือเรียวที่ก้มลงหยิบช้อนจนมันตกลงไปอีกรอบ
“อย่ามาทำสำออย ฉันไม่ใช่ป้าชื่นกับไอ้น้อยที่จะสงสารเธอ” อภินันท์พูดเสียงดุ มือหนาบีบต้นแขนทั้งสองข้างเพื่อจะบอกว่าอย่ามาทำเป็นหน้าซื่อตาใสใส่เขาอีก
นิรดากลัวเขาจับใจ ผลักร่างหนาพร้อมทั้งดันอกกว้างของเขาออก น้ำตาพานจะไหลอีกแล้ว
อภินันท์ผลักร่างบอบบางลงบนที่นอนหนานุ่ม ร่างน้อยเอาผ้าห่มมาห่มไปทั่วกาย คลุมไปบนศีรษะเพราะไม่อยากเห็นหน้าเขา
“เป็นอะไรอีกนี่ ร้องไห้เหมือนกับใครตาย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย” อภินันท์ถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด มองภรรยาสาวใต้ผ้าห่มที่คลุมร่างจนมิด แถมยังร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยน
เขากระชากผ้าห่มออกมาโมโหที่เธอไม่พูดไม่จา เอาแต่ร้องไห้จนเขานึกรำคาญใจ
เขาไม่ชอบคนอ่อนแอ ไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง มันทำให้เขาหงุดหงิด ทำให้เขาดูร้ายกาจ
“ถามว่าเป็นอะไร” อภินันท์ใช้มือหนาจับแขนบอบบางของภรรยาสาวรั้งขึ้นมาจากที่นอนหนานุ่ม เพื่อให้มาพูดกันให้รู้เรื่อง
นั่นยิ่งทำให้นิรดากลัวจับใจ ดวงตาหวาดหวั่นนั้นทำให้เขาโมโหเธอเข้าไปอีก น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาไม่ขาดสาย
เธอไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน บิดามารดาบุญธรรมเลี้ยงมาไม่เคยดุด่าว่ากล่าวเลยแม้แต่น้อย
“พี่ใหญ่อย่าทำอะไรน้องหนูเลย น้องหนูกลัวจริงๆ”
นิรดาไหว้เขาด้วยความหวาดกลัว ยอมรับว่ากลัวเสียงดังๆ ดุๆ ของเขาจริงๆ เธอสะอื้นฮักๆ เหมือนเด็ก นั่นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจมากขึ้น
อภินันท์ก้มลงมองเม็ดข้าวที่ติดอยู่ที่มุมปาก สายตาคมมองริมฝีปากอิ่มสวยสีชมพูระเรื่อที่กำลังสั่นระริก
เขาค่อยๆ ก้มหน้าลงไปหาใบหน้าสวยหวาน นิรดาหลับตาแน่น หัวใจดวงน้อยสั่นระรัว ใบหน้าสวยใสเบี่ยงหลบใบหน้าที่ก้มลงมาหา แต่หนีไม่พ้นเพราะเขาจับร่างบอบบางเอาไว้แน่น ชายหนุ่มแลบลิ้นอุ่นจัดออกมาเลียเม็ดข้าวเข้าไปในปาก ก่อนจะพูดเสียงทุ้มสั่นพร่า แตกต่างจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง
“กินข้าวยังไง เม็ดข้าวติดเลอะเทอะที่ปาก”
ชายหนุ่มพูดใกล้กับใบหน้าสวยหวาน น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทำให้ นิรดาเงยสบสายตาแกร่งกล้าที่มองมา
ไม่ค่อยจะเข้าใจอารมณ์ของเขา ดวงตากลมใสไร้เดียงสากำลังสบดวงตาคมกล้าที่ทอดมองมาด้วยความสับสน แต่แฝงเอาไว้ด้วยความหวาดหวั่นเหลือกำลัง
อภินันท์ค่อยๆ ก้มใบหน้าหล่อเหลาลงไปจุมพิตกลีบปากอวบอิ่มสีสดที่กำลังสั่นระริกอย่างหักห้ามใจไม่อยู่
เธอดูไร้เดียงสาน่าสัมผัสไปหมด เขากำลังต้องการเธออย่างรุนแรง สัมผัสบางเบาทำให้ร่างบางตัวแข็งทื่อเพราะไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี ลิ้นหนาตวัดเลียรอบริมฝีปากหอมหวานเพื่อเชยชิมรสชาติละมุน
ชายหนุ่มใช้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าค่อยๆ เปิดริมฝีปากของหญิงสาวออกเพื่อสอดแทรกลิ้นอุ่นหนาเข้าไปสัมผัสหยอกเย้ากับลิ้นน้อยแสนหวาน ที่กำลังกล้าๆ กลัวๆ จะสัมผัสกับลิ้นหนาของเขา
เขาเชยชิมความหวานในโพรงปากอุ่นชื้นโดยการจุมพิตหนักหน่วงขึ้น
อภินันท์ถอดถอนใบหน้าออกจากเรียวปากแสนหวานที่จุมพิตจนบวมช้ำด้วยความเสน่หา เพื่อสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้ง
ลมหายใจหอบแรงของเขากำลังแสดงถึงความต้องการที่ร้อนแรง นั่นยิ่งทำให้นิรดาเริ่มได้สติอีกครั้ง
ร่างสูงค่อยๆ กดร่างของภรรยาสาวลงบนที่นอนกว้าง ร่างบางผวาตกใจ มือเรียวดันอกเขาเอาไว้ พร้อมทั้งดิ้นรนคลานหนีไปอีกด้าน
“จะไปไหน” อภินันท์ตามมากระชากร่างบอบบางที่คลานหนีเขามาใต้ร่างอย่างเอาแต่ใจ บดจูบทั่วซอกคอขาวผ่อง สัมผัสแสนหวานเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนทันที ไม่ให้หญิงสาวได้ทันตั้งตัว
นิรดากำหมัดทุบตีที่ไหล่หนาอย่างตกใจสัมผัสเร่าร้อนรุนแรงของเขา
“พี่ใหญ่ ปล่อยน้องหนู น้องหนูกลัว” อภินันท์ดึงรั้งเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจากกายอย่างรวดเร็ว ตามแรงอารมณ์ที่กำลังโหมกระพือยากจะมอดดับลงได้ มีแต่จะลุกโพรงไปด้วยไฟปรารถนา กระหายอยากสัมผัสร่างหอมหวานที่กำลังต่อต้านเขา
“ไม่ปล่อย! จะดิ้นทำไม”
“ว้าย!” นิรดาสะดุ้งตกใจ เมื่อเสื้อผ้าขาดวิ่นด้วยฝีมือของเขา มือบางปกปิดส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างอับอาย
ชายหนุ่มกระชากร่างบอบบางเข้ามาหาอีกครั้งร่างน้อยดิ้นรนผลักไสตกใจระคนหวาดกลัว
“จะหนีไปไหน” อภินันท์คำรามคุกคามร่างน้อยที่กำลังสั่นเทาเหมือนลูกนกตกน้ำ
นิรดาดิ้นรนอีกครั้ง ก่อนสติจะดับวูบไปเพราะหมดเรี่ยวแรงต้านทาน
“โธ่เว้ย! เป็นลมอีกแล้วเหรอนี่” อภินันท์สบถ ขัดใจที่เธอเป็นลมสลบไปอีกแล้ว เธอทำให้เขาอารมณ์ค้างอย่างรุนแรง
“ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย” อภิรักษ์ตบแก้มสาวเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดเป็นทวีคูณ เมื่อทำอะไรไม่ได้ จึงลุกขึ้นจากเตียงนอนกว้างอย่างโมโห
สายตาคมมองไล้เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นไปตามเรือนร่างขาวเนียนด้วยฝีมือของเขา
ร่างสูงถอนใจหนักหน่วง คิดว่าถ้าจะให้ป้าชื่นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ คงไม่ดีแน่ ดูจากสภาพเธอแล้ว ป้าชื่นจะคิดเช่นไร เขาจึงจำใจไปเปิดตู้เสื้อผ้าของภรรยาสาวออกเพื่อนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เสียเอง
“นี่ฉันเป็นทาสของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแบบนี้” อภินันท์บ่นไปพลางเปลี่ยนเสื้อผ้าไปพลาง ความร้อนในกายยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณเนื่องจากไม่ได้รับการปลดปล่อย
ความอดทนของเขาหมดลงในที่สุด มือหนาเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของภรรยาสาวออกอีกครั้ง หลังจากที่สวมเสื้อผ้าให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สายตาคมกวาดไล้มองร่างขาวเนียนน่ากลืนกินไปทั้งเนื้อทั้งตัว เขาก้มลงซุกซบดูดกลืนกินร่างเปลือยที่ทำให้เขาแทบคลั่งตาย ถ้าวันนี้เขาไม่ได้รักเธอคงขาดใจ
อกอวบถูกดูดดึงเข้าไปในโพรงปากหนาอุ่นชื่นด้วยความกระหาย ริมฝีปากหยักหนากดไปทั่วร่างเปลือยเปล่าที่นอนไม่ได้สติ
มือหนายกเรียวแขนขาวผ่องที่เรียวสวยขึ้นสูง กดจุมพิตไปทั่วเพื่อสูดดมความหอมกรุ่นของผิวเนื้ออ่อน ริมฝีปากหนาจุมพิตตลอดลำแขนทั้งสองข้างจนเป็นรอยแดงเพราะการดูดดึงหนักหน่วง