1
อภินันท์ ทรัพย์ไพศาล รู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแต่งงานของเขาก็ตามที การถูกบังคับเป็นสิ่งที่เขาเกลียดที่สุด
ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่าความสูงถึงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา รับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักเป็นคันศร ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้ม คิ้วเข้มดกหนา ผิวสีแทนเรียบตึง ผมดกดำตัดสั้น รูปร่างกำยำบึกบึนสมชายชาตรี กำลังมองมารดาด้วยความขัดข้องใจเมื่อท่านดีใจจนออกนอกหน้าไปหน่อย ขณะรอเจ้าสาวที่มารดาของหล่อนต้องขึ้นไปตามถึงบนห้อง
“ใหญ่ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิลูก”
คุณอรอุมาทำเสียงดุลูกชายแต่สีหน้ายิ้มแย้มเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
เจ้าสาวเดินลงมาในชุดไทยสวยสง่า สีและผ้าเป็นลูกไม้ปักทองประณีตงดงามเข้ากับรูปร่างอรชร แฝงไว้ด้วยความน่ารักของเจ้าสาวรับกับใบหน้าสวยหวาน แขนขาเรียว ดวงตากลมโตมีแววหวาน ใบหน้ารูปไข่ คางเรียวมน จมูกโด่งรับกับโหนกแก้มนวลเนียน คิ้วโก่งเรียว ผมที่เกล้าเอาไว้ทำให้มองเห็นลำคอระหง ผ้าถุงเป็นผ้าไหมสีทองลายเป็นเชิงสูง ตัวเสื้อเป็นผ้าไหมสไบ ผ้าลูกไม้ลายดอกเดซี่ปักทองทั้งผืน เครื่องประดับเป็นทองถักโบราณเข้าชุดกัน ร่างบอบบางสมส่วนเอวคอดรับกับสะโพกผายงอนงาม แขนเรียวกลมกลึงมองเห็นผิวขาวนวลเนียนอมชมพูระเรือ ริมฝีปากอวบอิ่มสีสด ทำให้หญิงสาวเป็นเจ้าสาวที่งดงามจนทุกคนตะลึง
ทุกคนมองนิรดาด้วยความชื่นชมในความงามนั้น มีเพียงว่าที่เจ้าบ่าวเท่านั้นที่ไม่สนใจจะหันไปมองเลยสักนิด
นิรดามองว่าที่เจ้าบ่าวที่นั่งไม่สนใจเธออย่างกริ่งเกรง เธอเดินเข้ามาหาเขา รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจนัก ความมั่นใจของเธอหายไปตอนที่เขาแสดงท่าทางหมางเมินไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความซุ่มซ่ามทำให้สะดุดขาตัวเองจนเกือบล้ม อภินันท์อยู่ใกล้ จึงรับร่างว่าที่เจ้าสาวโดยสัญชาติญาณ
“อุ๊ย!” นิรดาอุทานเมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เธอเห็นหน้าของเขาในระยะกระชั้นชิด ริมฝีปากหยักหนาเป็นรูปคันศร ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มกำลังทอดมองใบหน้าของเธอจนลมหายใจเป่ารดกันและกัน
อภินันท์มองหน้าว่าที่เจ้าสาวในอ้อมแขนด้วยความตกตะลึง ใบหน้ารูปไข่สวยหวานน่ารัก ดวงตากลมโตสวยใสช่างหวานหาสิ่งใดเปรียบ
เขาตาลาย ยอมรับด้วยความภาคภูมิใจว่าเธอสวยน่ารักน่าใคร่เหลือจะกล่าว รูปร่างอรชรกลมกลึง กลิ่นหอมของสาบสาวจรุงใจ จนเขาเผลอสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอเข้าปอดอย่างแรง
แต่เมื่อคิดว่าเคยพูดอะไรกับมารดาเอาไว้เช่นไร ร่างสูงจึงค่อยๆ ได้สติ มองสายตาของทุกคนโดยเฉพาะมารดาที่มองมายิ้มๆ แล้วต้องกระแอมเบาๆ ปล่อยร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นออกจากอ้อมแขนแทบจะทันที
“ขอบคุณค่ะ” นิรดากล่าวขอบคุณอย่างเขินอาย ชายหนุ่มมองเมินไปทางอื่นทำใจแข็งเอาไว้ ทั้งที่ในใจสั่นไหวเพียงใด เมื่อได้เห็นเจ้าสาวคนสวย นิรดามองความเย็นชาของว่าที่เจ้าบ่าวแล้วนึกน้อยใจ ยิ่งเห็นอาการเมินเฉยของเขายิ่งตกประหม่าหนักกว่าเดิมหลายเท่านัก
เมื่อใส่บาตรเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นเป็นพิธีหมั้นหมายด้วยฤกษ์ยามที่เตรียมเอาไว้ในเวลา 9.09 น.
“ใหญ่” มารดาสะกิดให้มองว่าที่เจ้าสาวบ้าง เขาไม่สนใจมองเช่นเดิม ยิ่งมารดาอยากให้ทำ เขายิ่งอยากขัดใจให้ถึงที่สุด
คุณอรอุมานึกโมโหลูกชายตัวดี นางอุตส่าห์หาคนดีๆ ให้ กลับทำเป็นไม่สนใจ
ก่อนถึงพิธีหมั้นเล็กน้อยคุณอรอุมาลากบุตรชายไปอีกมุมหนึ่งของบ้านเพื่อเทศนาเสียยกใหญ่ นางดุลูกชายด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่เขาไม่ยอมโกนหนวดเคราเสียให้เรียบร้อย
ก่อนลากกลับมาอีกครั้ง เมื่อนั่งลงได้ อภินันท์หันไปคว้าแหวนเพชรน้ำงามที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมาในทันที เพื่อสวมก่อนถึงฤกษ์หมั้นเสียด้วยซ้ำ
ชายหนุ่มดึงมือเรียวสวยอย่างไม่ใส่ใจ นิรดาสะดุ้งตกใจ คุณอรอุมารีบหยิกแขนบุตรชายแรงๆ เพื่อให้ได้สติจนเขาชะงัก
ทุกคนกำลังมองเหตุการณ์กันอย่างอึ้งๆ จนคุณอรอุมารีบกลบเกลื่อนกลัวเสียหน้าทันทีทันใด
“แหม... ตาใหญ่ใจร้อนน่ะค่ะ อยากหมั้นอยากแต่งงานเร็วๆ คงถูกใจว่าที่เจ้าสาวมากๆ น่ะค่ะ”
คุณอรอุมาหัวเราะอารมณ์ดี แต่ใบหน้าและสายตากำลังจิกมองลูกชายตัวดีด้วยสายตาพิฆาต
อภินันท์ชะงักเพราะเขาไม่อยากทำให้มารดาหน้าแตกเช่นกัน ยังไงเขายังเกรงใจท่านอยู่มาก
เมื่อได้ฤกษ์สวมแหวนหมั้นจริงๆ คุณอรอุมาสะกิดบุตรชายเบาๆ ให้เขาสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของว่าที่เจ้าสาว
ชายหนุ่มทำตามที่มารดาบอกแกมบังคับในทีอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
เขาไม่อยากมองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อยเพราะในใจกำลังว้าวุ่นอย่างหนัก เตือนตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไรกับคนตรงหน้า
นิรดาก้มหน้าก้มตา รู้สึกหวาดหวั่นเพราะกิริยาที่เขาทำไร้ความนุ่มนวล เหมือนถูกบังคับมากกว่าจะเต็มใจ
เธอสะดุ้งน้อยๆ อย่างคนขวัญอ่อนเพราะไม่เคยเจอการปฏิบัติจาบจ้วงเช่นนี้มาก่อน
หญิงสาวไหว้ว่าที่เจ้าบ่าวด้วยกิริยาอ่อนช้อย มือเรียวสั่นสะท้าน เมื่อหยิบแหวนมาสวมให้เขาบ้าง
อภิรักษ์ ทรัพย์ไพศาล น้องชายตัวดีของเขาที่เป็นตากล้องยุให้พี่ชายหอมแก้มว่าที่เจ้าสาว
อภินันท์มองใบหน้านวลที่แดงซ่าน ในใจคิดอยากจะแกล้งคนที่เอาแต่หลบหน้าหลบตา มือหนาจึงจับใบหน้าสวยหวานมาจูบแทนการหอมแก้มให้สมใจคนช่างยุ
ทุกคนตะลึงกันทั่วงาน ตากล้องมือดีกดชัตเตอร์ด้วยความคล่องแคล่วไม่พลาดรูปสวยแม้แต่รูปเดียว
นิรดาทุบอกแกร่งว่าที่สามีด้วยความอาย รู้สึกตกใจกับการกระทำอุกอาจนั้น คุณอรอุมากลบเกลื่อนด้วยการหัวเราะและพูดเสียงร่าเริงเกินเหตุ
“ เด็กๆ น่ะค่ะ น่ารักน่าชัง ตาใหญ่คงถูกใจเจ้าสาวมากๆ นะคะนี่”
คุณอรอุมาปั้นหน้ายิ้มแย้ม มองจิกลูกชายเขม็ง อภินันท์ยักไหล่อย่างไม่แคร์
บิดามารดาของนิรดาหันมองหน้ากันอย่างอึดอัดเล็กน้อย หญิงสาวก้มหน้าก้มหน้า รู้สึกอับอายหน้าแดงก่ำ เกิดมาในชีวิตสาวยังไม่เคยโดนสัมผัสจากบุรุษเพศเช่นนี้มาก่อน
หลังจากงานหมั้นผ่านพ้นไป คุณนิพาพาบุตรสาวไปพักที่ห้องเพื่อเตรียมตัวกับงานแต่งในช่วงเย็น
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น หญิงสาวถามออกไปว่าใครปรากฏว่าเป็นสาวรับใช้นั่นเอง
“มีอะไรเหรอจ๊ะ” นิรดาถามสาวใช้เสียงหวาน
“คุณท่านให้มาถามว่าคุณหนูต้องการอะไรหรือเปล่าคะ”
สาวใช้ของบ้านถามนิรดาน้ำเสียงนอบน้อม
“ไม่จ้ะ น้องหนูอยากพักผ่อนสักนิด ถ้ามีอะไรน้องหนูจะบอกนะจ๊ะ”
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้ง นิรดาคิดว่าเป็นมารดาเพราะท่านบอกว่าเดี๋ยวจะมาหาที่ห้อง จึงบอกสาวใช้ให้ไปเปิดประตูโดยเร็ว
“น่าจะเป็นคุณแม่ ไปเปิดประตูให้คุณแม่หน่อยสิจ๊ะ”
นิรดาบอกสาวใช้ เนื่องจากคิดว่าเป็นมารดา ดังนั้นจึงไม่สนใจว่าตัวเองกำลังใส่เสื้อคลุมเพียงตัวเดียว
“อุ๊ย! คุณอภินันท์”
สาวใช้อุทานเบาๆ เมื่อคนที่เข้ามา หาใช่คุณนิพาไม่ แต่กลับเป็นว่าที่เจ้าบ่าวแทน อภินันท์แทรกตัวเข้ามารวดเร็วจนคนในห้องไม่ทันตั้งตัว
“เธอออกไปก่อน”
เขาส่งสายตาให้อีกฝ่ายออกไป สาวใช้ของบ้านจึงรีบเลี่ยงออกมาในทันที
“คุณ!” นิรดาถอยหลังไปสามก้าว ตกใจที่เป็นเขาแทนที่จะเป็นมารดา มือเรียวบางกระชับสาบเสื้อคลุมเอาไว้อย่างอัตโนมัติ
“ไม่เห็นต้องทำท่าทางกลัวฉันขนาดนั้นเลย น่าจะดีใจที่ฉันเข้ามาหา ทำความรู้จักกับเธอก่อนแต่งงานเสียอีก เพราะเธอคงอยากแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น” อภินันท์ย่างเข้าไปหาอย่างคุกคาม
“คุณอภินันท์กรุณาออกไปก่อนนะคะ คือว่าฉันแต่งตัวไม่เรียบร้อย”
นิรดาก้าวหนีหวาดกลัว สายตาคมกล้าเปล่งประกายบางที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน