CHAPTER 7

1079 คำ
CHAPTER 7 นัยน์ตาสีน้ำตาลส่งความจริงจังผ่านสายตาของเขาเข้ามาสะกดร่างกายของฉันให้ฟังสิ่งที่เขาพูดต่อจากนี้ไป เหมือนเป็นอีกด้านหนึ่งที่เขาพึ่งเผยให้ฉันรับรู้โดยเฉพาะยังไงเขาก็เป็นผู้ชายที่ฉันเองก็พึ่งได้รู้จักในวันนี้จึงไม่รู้นักว่าผู้ชายคนนี้เป็นยังไงแต่...เพราะลางสังหรณ์ของฉันนั้นบอกว่ายูไม่ใช่แค่ผู้ชายธรรมดาผิวขาวใสของเขานั้นบ่งบอกว่าเป็นลูกคนร่ำรวยไม่น้อย โลกนี้มีสิ่งที่ทุกคนไม่ได้รับรู้อีกมากมายหลายสิ่งอย่างนั้นถึงแม้เราจะเป็นตัวกำหนดให้มันเกิดขึ้นมาแต่อย่าลืมว่าในเมื่อเรากำหนดได้ก็อย่านึกว่าคนอื่นจะทำแบบเราไม่ได้ เหรียญหรือธนบัตรที่เราใช้จ่ายทุกวันยังมีสองด้านเลยจะเอาอะไรกับจิตใจของคนนักหนาคนบางคนจิตใจก็ยากที่จะหยั่งลึกเข้าไปให้ทุกคนเห็น ผู้ชายตรงหน้าฉันก็เหมือนกัน “…” “ได้ยินไหมทำหน้าเหมือนหมางง” หมางง? เฮ้ย! ด่าแรง เขาว่าฉันเป็นหมาเลยเหรอ? คำพูดคำจามันไม่ใช่นะวิตตาเสียงอีกด้านหนึ่งของความคิดฉันคัดค้านออกมาแต่เมื่อพิจารณาดีๆ มันก็ใช่สมัยนี้ใครๆ ก็ผิวขาวไม่ว่าจะร่ำรวยหรือจน “ดะ ได้ยิน”ฉันตอบเขาแบบติดๆ ขัดๆ เพราะสายตาของยูยังจับจ้องไม่กระพริบ “พูดมาสิ” “เธอคิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น?” ฉันอยากจะข่วนใบหน้าหล่อๆ สักครั้งจริงๆ ทุกอย่างที่ผมตัดสินใจทำลงไปนั้นมันย่อมมีเหตุผลในการกระทำทุกอย่างครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมเลือกที่จะใส่หน้ากากกับผู้หญิงตรงหน้าถึงแม้ว่าเธอจะโคตรมองแสนง่ายจากแววตาคู่นั้นก็เถอะ แววตาที่แสดงออกถึงความเข้มแข็งทั้งๆ ที่ไม่ใช่ “เอ่อ...” ฉันสะอึกกับคำถามของยูนิดหน่อยที่จู่ๆ ก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างฉันและเขา “ฟังอยู่” “สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นฉันยอมรับนะว่าเสียใจแต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อทุกอย่างมันไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมได้แล้วมีแค่การยอมรับเท่านั้นที่ฉันพอจะทำได้ในตอนนี้อีกอย่างคนเรามันก็ต้องเดินหน้าต่อไปคงไม่มีใครตายเพราะเรื่องแบบนี้กัน” ถ้าไม่เกิดปัญหาตามมา…. ประโยคนี้ฉันแค่พูดต่อในใจไม่ได้พูดออกมาให้เขาได้ยินเพราะไม่กล้าพอ “แล้วถ้ารับผิดชอบล่ะ?” เป็นไปไม่ได้! ผู้ชายคนนี้จะดีขนาดนั้นเชียว ถ้าเขาดีจริงทำไมถึงได้ทำแบบนั้นกับร่างกายของฉันล่ะ ทุกคนมันก็หาโอกาสให้กับตัวเองเท่านั้น นั้นก็คือความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ “เธอจะรับฉันได้หรือเปล่า?” ผมพูดออกไปแล้วเป็นอันว่าการตัดสินใจของผมนั้นมันขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนนี้คนเดียวถ้าตกลงก็ดีแต่ถ้าปฏิเสธก็....แค่ทำให้ปฏิเสธไม่ลง “ถ้าฉันเป็นแค่เพียงเด็กซ่อมรถคนหนึ่ง ทำงานด้วยเรียนด้วย” เด็กซ่อมรถ? ทำงานด้วยเรียนด้วย? “…” “ฐานนะไม่ได้ดีเด่นอะไรมันก็หาเช้ากินค่ำเหมือนคนทั่วไป” การตีหน้าพูดคราวนี้ผมโกหกล้วนๆ ในเมื่อความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เส้นทางของผมมันก็แค่คล้ายๆ กับสิ่งที่พึ่งโกหกออกไปเท่านั้นเอง “ฉัน....” Rr…… ทันใดที่ฉันกำลังจะตอบยูทุกอย่างก็พังด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะ ยูล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังสายตาคู่นั้นมีแววตาแข็งกร้าวขึ้นอย่างชัดเจน เนิ่นนานมากที่เขาจับจ้องหน้าจอก่อนจะยอมรับ ว่า... เขาไม่ได้ลุกออกจากเตียงใดๆ แค่เพียงเบี่ยงใบหน้าไปทางอื่นส่วนฉันนั้นก็ไม่ได้ทำตัวเสียงมารยาทแอบฟังเพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่นๆ การพูดของยูนั้นนับคำแทบได้การแสดงออกแบบนี้คงไม่อยากพูดกับปลายสายเป็นแน่ ทำไมฉันถึงได้อยากรู้กัน แฟนเขาใช่ไหม? ใช่สิสมองฉันลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลยยังไงซะคนหน้าตาดีเด่นแบบนี้คงมีแฟนอยู่แน่นๆ สมัยดีใครก็ชอบคนหน้าตาดี ส่วนคำตอบที่ฉันกำลังจะตอบเขานั้นมันก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากปฏิเสธความรับผิดชอบของเขาก็เท่านั้น ใครจะว่าฉันโง่ก็เถอะนะมันไม่ใช่เรื่องที่ยูมีอาชีพเป็นเด็กซ่อมรถฉันยอมรับได้แต่ประการแรกที่ฉันต้องเลือกปฏิเสธนั้นก็เพราะว่าเราทั้งสองไม่ได้รู้จักกัน ใจคอใครเป็นยังไงก็ยังไม่รู้ได้ที่มาถึงขั้นนี้ก็แค่เมาเท่านั้นไม่ใช่เหรอ ประการที่สองมันคงไม่มีอะไรร้ายๆ ตามมาอีกแล้ว แค่นี้ใช่ไหมจะได้วาง เสียเวลา เสียงนั้นหยุดความคิดของฉันทุกอย่างที่กำลังคิดถึงเรื่องต่างๆ ประโยคที่เย็นชามากกว่าคนปกติที่พูดฉันเชื่อได้ว่าคนฟังแทบเจ็บปวดหัวใจอย่างรุนแรงเป็นที่สุดยิ่งถ้าสมมุตเป็นคนในครอบครัวอีกล่ะทุกคนว่ามันจะเป็นยังไง ผู้ชายคนนี้โหดร้ายด้วยคำพูดกว่าที่คิด ผมพูดแบบนั้นจริงๆ ไม่สนใจว่าปลายสายจะเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง มันก็หลายปีแล้วที่ความสัมพันธ์ผมกับเขาเป็นแบบนี้ไม่มีอะไรคืบหน้าอีกแล้ว ความห่างของระยะทั้งผมและเขานั้นมันเกิดขึ้นเหมือนสร้างความรู้สึกหนึ่งเข้ามาในใจผมด้วยนั้นคือการไม่สนใจความรู้สึกเขา ทุกครั้งตั้งแต่วันนั้นการเจอหน้าก็แทบนับครั้งได้ ระยะเวลาทำให้ทำเปลี่ยนผมเชื่อแบบนั้นมาตลอดมันไม่ได้ทำให้รักหรือคิดถึงกันมากขึ้นหรอก นับตั้งแต่วันนั้นที่เป็นวันสุดท้ายของชีวิตนักเรียนมอปลายและก็เป็นสุดท้ายที่ผมเรียกเขาว่าพ่อ จนในที่สุดผมก็ตัดสายไปทันทีที่รับรู้ความต้องการของเขา อยากให้ไปบริหารงั้นเหรอ? สุดท้ายก็ตามมาง้อสินะ ง้อตอนที่ไม่มีใครยกเว้นผม “หึ” เสียงเย้ยดังออกมาจากลำคอจนฉันได้ยินแล้วนึกกลัวๆ อยู่เหมือนกัน “ลุกไปใส่เสื้อผ้า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม