ระหว่างที่กินข้าวไปด้วยกัน ไพลินสังเกตเห็นสายตาของผู้คนรอบข้างจึงทำให้รู้สึกอึดอัดมากเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าต่อให้มีของโปรดมาวางตรงหน้าก็ยังกินไม่ลง
หญิงสาวนั่งเขี่ยข้าวต้มกุ้งของตัวเองไป
พายุที่สังเกตเห็นท่าทางเซื่องซึมของหญิงสาวจึงถามไถ่อย่างห่วงใย
“ข้าวต้มไม่อร่อยเหรอ ทำไมกินน้อยจัง”
ไพลินสะดุ้งเบาๆ เมื่อถูกทัก จากนั้นมองใบหน้าคนทั้งสองที่จ้องมองเธอด้วยความสงสัย
“อร่อยสิ กำลังกินอยู่นี่ไง” หญิงสาวหัวเราะกลบเกลื่อน
ทว่ากลับไม่สามารถหลบคนตาไวอย่างชานมได้
“ยังไม่ได้กินสักคำจะรู้ว่าอร่อยได้ยังไง”
ไพลินค้อนเพื่อนสาวเบาๆ
“แค่กลิ่นก็รู้แล้วน่า ฝีมือเจ๊เจี๊ยบ ไม่อร่อยได้ไง ก็แค่รู้สึกไม่ค่อยหิว” เพราะถูกจับจ้องมากเกินไป จนรู้สึกหวาดระแวงอย่างบอกไม่ถูก พร้อมกับคิดว่าเธอไม่น่าเสนอให้พายุเป็นฝ่ายสนับสนุนเลย ให้เขาเลี้ยงข้าวเนี่ยนะ มีหวังข่าวลือได้กระจายออกไปข้างนอกแน่ๆ
“หรือจะห่อไปกินตอนเย็นก็ได้นะ” ชานมเสนอด้วยความเป็นห่วง เพราะคิดว่าเพื่อนกำลังไม่สบาย
ไพลินส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ กินตอนเย็นไม่ได้ เธอก็รู้ว่าฉันท้องอืดง่าย กินมันตอนนี้นี่แหละ จะได้ย่อยทันเวลา”
“ถ้าอย่างนั้นก็กินแค่รองท้องก็พอ” เสียงทุ้มแนะนำ เพราะเขาเองก็เป็นกรดไหลย้อนจนไม่สามารถกินมื้อเย็นจนอิ่มได้เช่นกัน
“อืม...” ไพลินพยักหน้าพร้อมกับตักข้าวต้มขึ้นมากินไปทีละนิด
พายุจ้องมองไพลินราวกับกำลังเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเธอเพื่อใช้ในการเอาชนะใจ แต่เหมือนเขาจะแสดงออกมากไป จนทำให้ชานมสังเกตเห็น
ชานมมองเพื่อนหนุ่มด้วยความสงสัย เพราะไม่คิดมาก่อนว่าพายุจะสนิทสนมกับไพลินได้ ทว่าเมื่อเห็นสายตาของเขาที่กำลังจ้องมองเพื่อนสาวอยู่ จึงรับรู้ได้ทันทีด้วยญาณทิพย์
สายตาแบบนี้ แปลว่ากำลังสนใจอยู่แน่ๆ ! เอาจริงดิ! เขาจะจีบไพลินเหรอ! นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย!
และกลายเป็นเธอที่ต้องนิ่งตะลึงเมื่อเขาเฉลยคำตอบให้เธอด้วยการส่งยิ้มและขยิบตาให้ จากนั้นก็หันไปสนใจเพื่อนสาวของเธอต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอได้แต่ตกใจในสิ่งที่เห็นและคำตอบที่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขากำลังคิดจะจีบเพื่อนของเธอจริงๆ เพลบอยหน้าหล่ออย่างเขาที่ควงแต่สาวๆ ระดับดาวมหาวิทยาลัยเนี่ยนะ จะมาสนใจผู้หญิงที่แสนธรรมดาสุดๆ อย่างไพลิน!
แสดงว่าที่มาเข้าร่วมกลุ่มและบังเอิญได้ทำงานกับไพลินบ่อยๆ ก็เป็นเพราะว่าตั้งใจหรอกเหรอ!
โคตร! เหลือ! เชื่อ!
แต่พอดูดีๆ มันเหมือนกับพายุกำลังตามจีบอยู่ฝ่ายเดียวเลย เหมือนเห็นหัวใจทั้งหลายที่พยายามโยนใส่ไพลิน กลับถูกกำแพงสูงใหญ่ขวางกั้นเอาไว้จนมันเด้งคืนกลับไปอยู่หลายหน
แต่มันก็ไม่แปลกหรอกที่ เพราะไพลินเพื่อนของเธอไม่ใช่คนที่จะจีบได้ง่ายๆ สักหน่อย อีกอย่างเป้าหมายหนึ่งเดียวของเธอก็คือการเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เด็กเรียนด้วยกันก็คงจีบติดยากหน่อยนะเพื่อน
ชานมอยากเข้าไปตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนชายจริงๆ
หลายนาทีต่อมาในขณะที่พายุและชานมรวบช้อนเสร็จแล้ว แต่ข้าวต้มในถ้วยของไพลินกลับพร่องไปไม่ถึงครึ่ง ส่วนหนึ่งเพราะหมดความอยากอาหารไปเสียดื้อๆ นั่นแหละ สงสัยต้องไปกินที่บาร์แทนเสียแล้ว
วันนี้ขอพี่ไอวี่ไม่รับแขกหนึ่งวันดีไหมนะ รู้สึกเหมือนจะไม่สบายเลย ที่เป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะการทำงานแบบมาราธอน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนเท่าใดนัก
ไพลินวางช้อนลงและดื่มน้ำจนหมดแก้วเป็นสัญญาณว่าอิ่มแล้ว ก่อนมองเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“อิ่มแล้วเหรอ” พายุถามพร้อมกับมองถ้วยข้าวต้มของคนตัวเล็กข้างกายอย่างสงสัย กินน้อยขนาดนี้ มิน่าเล่าถึงได้ดูไม่ค่อยมีแรง โดนเขาดึงทีเดียวตัวก็แทบจะปลิวอยู่แล้ว
ไพลินพยักหน้าพร้อมกับลูบท้องตัวเองเบาๆ
“อืม”
“เธอดูเหมือนไม่ค่อยสบายเลย พายุ นายไปส่งไพลินที่หอหน่อยสิ” ชานมได้ทีรีบเปิดทางให้เพื่อนหนุ่มทันที อย่างน้อยก็เป็นการตอบแทนที่เลี้ยงข้าวเธอมื้อนี้
ไพลินส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธทันควัน
“ไม่เป็นไร ใกล้ๆ แค่นี้ เรากลับเองได้” แต่ทว่าพอจะลุกขึ้น กลับรู้สึกเสียดท้องจนต้องนั่งลงอีกครั้ง แถมยังเริ่มรู้สึกแน่นหน้าอกและอยากจะอาเจียนด้วย
อย่าบอกนะว่ากรดไหลย้อนเล่นงานเธอแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไปทำงานไม่ได้น่ะสิ!