ในโซนคลาสสิกบาร์นั้นมีบรรยากาศที่สงบมากกว่าฝั่งเอ็นเตอร์เทนอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยลูกค้าฝั่งคลาสสิกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่มานัดเจรจากันมากกว่า
แต่สิ่งที่ทำให้ไพลินรู้สึกปลอดภัยและทำงานได้อย่างเต็มที่ก็เป็นเพราะมีลูกค้าผู้หญิงในสัดส่วนที่มากกว่าผู้ชาย จึงทำให้เธอไม่ต้องใช้ลีลาออดอ้อนมากนัก อย่างมากก็แค่เป็นเพื่อนคุยกับลูกค้าในระหว่างชงเครื่องดื่มเท่านั้นเอง
ซึ่งคนที่เนื้อหอมในโซนนี้ดูเหมือนจะเป็นวินนี่มากกว่า สังเกตได้จากสาวๆ ที่นั่งมองตาเยิ้มอย่างเปิดเผย แต่จิตใจของเขากลับแข็งแกร่งเหลือเกิน ชนิดที่ไม่ว่าจะโดนหยอดมากเท่าไหร่ ก็ยังคงความนิ่งสงบเยือกเย็นได้อย่างน่านับถือ
สักวันเธอจะต้องทำให้ได้แบบนั้นบ้าง!
ไพลินมองวินนี่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ทว่าประกายไฟนั้นกลับร้อนแรงจนชายหนุ่มสัมผัสได้
วินนี่หัวเราะออกมาเบาๆ ขณะชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าสาวสวยที่มาเกี้ยวเขาอยู่ทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน
“คุณวินมีเรื่องสนุกอะไรหรือเปล่าคะ วันนี้คุณดูอารมณ์ดีจัง” เมษาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอไม่เคยเห็นเขาหัวเราะในเวลางานเช่นนี้มาก่อน
วินนี่กระแอมและปรับสีหน้านิ่งหลังจากถูกทัก ดวงตาคมเหลือบมองหญิงสาวที่กำลังคุยกับลูกค้าอย่างออกรส จากนั้นยกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู
“นั่นสิครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เมื่อหญิงสาวได้คำตอบเช่นนั้น จึงทำให้เธอสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะลอบสังเกตสายตาของเขา และเมื่อมองตาม จึงทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองทันที
ที่แท้เขาก็มีคนที่สนใจแล้วนี่เอง!
เธอไม่ถูกชะตากับผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานแล้ว แต่ไม่คิดว่ากลายเป็นคู่แข่งกันเสียได้ อีกทั้งคนที่เธอหมายตาเฝ้าจีบหวงก้างมาเป็นเดือนๆ ยังหันไปสนใจอีก
แต่เมื่อเมษามองหน้าหญิงสาวคนนั้นเต็มตาแล้ว กลับต้องเบิกตากว้างมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะแต่งหน้าจัดจนแทบกลายเป็นคนละคน แต่เธอก็จำได้แน่นอน!
นั่นมันผู้หญิงที่แย่งแฟนของมะยมเพื่อนของเธอนี่! ยัยหน้าด้านนั่นทำงานที่บาร์นี่อย่างนั้นเหรอ... นอกจากจะแย่งแฟนของเพื่อนเธอแล้ว ยังแย่งความสนใจไปจากผู้ชายที่เธอหมายตาอีก ชักจะมากเกินไปแล้ว
เมษายิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อคิดแผนการบางอย่างได้ จากนั้นยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มและมองไพลินด้วยแววตามาดร้าย
ตอนแรกไพลินคิดว่าการมาอยู่ฝั่งคลาสสิกบาร์จะทำให้ชีวิตสงบขึ้น แต่ใครจะไปคิดกันว่าความสงบสุขนั้นมันจะสั้นอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากที่วางใจมาเป็นอาทิตย์
นี่สินะที่เรียกว่าโลกแคบ ต่อให้เธอย้ายฝั่งก็ใช่ว่าจะหนีเจ้ากรรมนายเวรพ้น เพราะอย่างน้อยสถานที่ทำงานก็ยังอยู่ในตึกเดียวกัน!
เฮ้อ... เธอชักอยากจะลาพักร้อนจริงๆ แล้วสิ
ซึ่งถ้าหากไม่ติดเรื่องค่าใช้จ่ายและหนี้สิน เธอคงทำไปแล้วแน่ๆ จะได้ไม่ต้องมาเจอเขาในวันนี้ ตอนนี้!
“พริตตี้ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่” พายุถามอย่างประหลาดใจ หลังจากหนีเพื่อนมานั่งสงบใจในฝั่งโซนปีกซ้ายที่เงียบสงบกว่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเด็กดริงค์ที่หายหน้าไปนานเป็นสัปดาห์ที่นี่
ชายหนุ่มนั่งลงหน้าเคาน์เตอร์พร้อมมองหญิงสาวในชุดบาร์เทนเดอร์มิดชิดด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นภาพลักษณ์ที่เรียบร้อยนี้ กลับมีภาพของไพลินซ้อนทับขึ้นมาในทันที โดยเฉพาะใบหน้าที่แต่งด้วยเครื่องสำอางเบาบางกว่าเดิมและแว่นตาที่ไม่สามารถปกปิดใบหน้าได้
เหมือนมาก...ไม่ว่าจะโครงหน้า จมูก ปาก หรือขนตาแพหนาล้อมรอบดวงตาคู่นั้น อีกทั้งยังมีรูปร่างคล้ายกันอีก ราวกับเป็นคนคนเดียวกัน
พริตตี้กับไพลินอย่างนั้นหรือ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด แต่ทำไมถึงได้กวนใจขนาดนี้ แม้กระทั่งแรกเห็นในวันนี้ วูบหนึ่งเขากลับมองเป็นไพลินเสียด้วยซ้ำ ก่อนจะพบว่ามันเป็นเพียงภาพในจินตนาการ
ไพลินเองก็ตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ ก็ได้เจอกับพายุ เพียงแต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัว จึงทำให้เธอตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นรีบรับออเดอร์ทันที
“วันนี้จะรับอะไรดีคะพี่พายุ” หญิงสาวถามพร้อมส่งยิ้มหวานให้เหมือนอย่างเมื่อก่อน
พายุรู้สึกตัวว่าคงคิดถึงไพลินมากเกินไป จึงสั่งเครื่องดื่มพร้อมกับถามไถ่หญิงสาวเล็กน้อย อย่างน้อยก็เป็นคนที่คุ้นเคยกันมาก่อน
“พี่ขอเป็นดรายมาร์ตินี่ก็แล้วกันครับ ว่าแต่เราย้ายแผนกแล้วเหรอ เพราะแบบนี้พี่เลยไม่เห็นเราสินะ”
ไพลินยิ้มหวานด้วยรอยยิ้มการค้าขณะชงเครื่องดื่มตามคำสั่งของชายหนุ่ม ก่อนจะเลื่อนแก้วให้เขาอย่างใจเย็น
“ค่ะ ตอนนี้ย้ายมาอยู่ฝ่ายบาร์เทนเดอร์ถาวรแล้วค่ะ” เธอจงใจตอบโดยเน้นคำว่าถาวร ซึ่งแปลว่าจะไม่กลับไปเป็นเด็กดริงค์อีกต่อไปแล้ว
พายุยิ้มกลับทั้งที่สะดุดใจกับลักยิ้มข้างเดียวของหญิงสาวเหลือเกิน เพราะว่ามันอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับไพลิน
“น่าเสียดายจัง” เสียงทุ้มตอบกลับ พลางเรียกสติตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเมาแล้วถึงได้มองใครต่อใครเป็นไพลินเสียหมด
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหัวใจมันทั้งว้าวุ่นและสับสน หลังจากไม่ได้พบเจอกับหญิงสาวมานานกว่าสัปดาห์ มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนอยากจะจับมาถามว่าหลบหน้าเขาทำไม แต่ถามไปก็เหมือนจะได้คำตอบกลับมาทันที
“ฉันมันไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ” พายุพึมพำเบาๆ จากนั้นยกแก้วเหล้าดื่มรวดเดียว
ไพลินตกใจเมื่อเห็นพายุหมอบใบหน้าลงกับเคาน์เตอร์ เธอกลัวว่าเขาจะสลบคาที่ จึงเอื้อมมือเข้าไปใกล้ ทว่าสิ่งที่ได้ยินจากปากของเขา กลับทำให้เธอถึงกับชะงักมือ
“เราไม่ดีตรงไหนเหรอ... ต้องทำยังไงเธอถึงจะสนใจ”