“ท่านชายวัตน์ รถมาแล้วครับ” ดนัยเดินเข้ามารายงาน ดึงสติของเจ้านายที่เหม่อลอยให้กลับมา
“อืม” ภานุวัตน์พยักหน้าตอบกลับเบา ๆ
พนักงานที่ยืนออกันอยู่พากันหลีกทางให้ท่านประธานใหญ่เดินไปที่รถ พวกหล่อนร้องกรี๊ดอีกรอบเพราะไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นท่านตัวเป็น ๆ แบบนี้
“น้องดาจะกลับห้องเลยหรือเปล่าคะ พี่ยังไม่ได้แวะไปบ้านคุณตาคุณยายเลย”
“พรุ่งนี้ค่อยไปได้ไหมคะ น้องดาหยุดงานพอดี วันนี้เหนื่อยมากเลย กลับเพนต์เฮาส์ไปพักกันดีกว่าค่ะพี่วิน” นิรดาตอบกลับด้วยน้ำเสียงละห้อยเซื่องซึม หันหน้ามองออกไปข้างนอกหน้าต่างตลอดทาง เธอเหนื่อยจนไม่อยากจะเคลื่อนไหวตัว
“น้องดาไม่สบายหรือเปล่า หืม” เมื่อสังเกตเห็นว่าน้องสาวซึม ๆ ไปก็นึกเป็นห่วง
“น้องดาเป็นประจำเดือนค่ะ เลยหมดแรงทั้งวันเลย”
“ถ้างั้นแวะร้านยาหน่อยไหม ดูสีหน้าเราไม่สู้ดีเลย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่วิน แค่กลับห้องไปประคบร้อนก็น่าจะดีขึ้นเยอะค่ะ”
“น้องดานี่เหมือนเดิมเลยนะ ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ค่อยชอบกินยา” ปภาวินเย้าหยอกน้องสาวอย่างรู้ทัน
“ก็มันขม ไม่อร่อยนี่นา” นิรดาหันหน้ายู่ปากใส่พี่ชาย
“จ้า แล้วที่ห้องมีอาหารติดตู้เย็นไว้กินหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีเลยค่ะ แต่โทรสั่งร้านอาหารด้านล่างได้ ส่วนพรุ่งนี้เราออกไปบ้านใหญ่ก็ค่อยไปหาซื้อของสดมาไว้ แต่พี่วินต้องเป็นคนทำอาหารนะคะ” เธอต่อรองด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“รู้อยู่แล้วละ พี่ทำให้ได้อยู่แล้ว” ปภาวิยิ้มมุมปากเล็กน้อย สายตายังคงมองรถบนถนนที่ขยับทีละนิด
“ก็น้องดาไม่เคยทำนี่คะ อยู่บ้านก็มีแต่มัมทำให้กิน”
“กลับไหมล่ะ พี่จะพากลับ”
“ไม่เอาหรอกค่ะ อยู่ที่นี่ถึงจะลำบาก แต่น้องดาอยากฝึกความอดทน อยากลองหาเงินใช้เองบ้าง” นิรดารีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ส่ายหน้าพัลวัน
“พูดอย่างกับเงินเดือนตัวเองได้เยอะนักแหละ”
“แต่น้องดาก็ภูมิใจนะคะ” นิรดาตอบกลับอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องคิด เธอยิ้มร่าอวดพี่ชาย
“ตามใจน้องดาก็แล้วกัน” พี่ชายเสียงอ่อน รู้ว่าน้องสาวตั้งมั่นกับการมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทยครั้งนี้มาก
“พี่วินมาอยู่กี่วันคะ ไหนบอกติดถ่ายแบบอยู่ยุโรป”
“สามวันค่ะ”
“แค่สามวันแล้วจะมาทำไมก็ไม่รู้ เปลืองค่าน้ำมันเครื่องบินเปล่า ๆ”
“ไม่เป็นไร พี่รวย” ว่าแล้วก็ยิ้มพลางขยิบตาหวานเยิ้ม ทำเอานิรดามองแรงใส่ที่อยู่ ๆ เขาก็มาอวดเงินทองใส่เธอเสียอย่างนั้น
ในขณะนั้นจู่ ๆ ก็มีรถยนต์หรูสีดำขับออกมาจากอีกทางอย่างไม่ทันระวัง ทั้งสองคันเหยียบเบรกกะทันหันดังเอี๊ยด จนนิรดากระแทกเข้ากับกระจกรถ หากช้ากว่านี้ไปเพียงวินาทีเดียวคงจะได้ชนกันแน่นอน
“น้องดาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ปภาวินหันมาถามน้องสาวด้วยความตกใจ หญิงสาวส่ายหน้าตอบ ทว่าพี่ชายโมโหมาก ถ้าเกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นมาจะทำยังไง “ไอ้บ้านี่ ขับรถภาษาอะไร ไม่ดูซ้ายดูขวาเลยหรือยังไงกัน”
ปภาวินบ่นด้วยความหงุดหงิด เปิดประตูรถรีบลงไปเคลียร์กับเจ้าของรถคู่กรณี ส่วนนิรดาเห็นว่าพี่ชายเริ่มอารมณ์เสียแล้วจึงรีบตามลงไปด้วย กลัวว่าจะไปหาเรื่องคู่กรณีเข้า
ฝั่งรถอีกคันนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นภานุวัตน์ที่นั่งอยู่ในรถ ทันทีที่รถเบรกกะทันหัน ดนัยก็รีบถามเจ้านายด้วยความเป็นห่วงทันที
“ท่านชายวัตน์ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”
“ฉันไม่เป็นไร” ภานุวัตน์ตอบนิ่ง ๆ ขณะที่มือกุมศีรษะตัวเองที่ชนเข้ากับเบาะพิงด้านหน้า ดนัยรีบต่อว่าคนขับรถคนใหม่ทันที ไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกจากข้างรถ ทุกคนหันไปมองเห็นชายหนุ่มหน้าใสยืนอยู่ด้วยสีหน้าถมึงทึง เดาว่าคงเป็นเจ้าของรถคู่กรณี เขาดูไม่พอใจพอตัว รีบใช้มือเคาะกระจกรถย้ำอีกครั้ง ซึ่งนิรดาที่วิ่งตามมาด้านหลังพยายามจับแขนห้ามพี่ชายตัวเอง
ภานุวัตน์หันมองตามเสียงก็เจอเข้ากับนิรดาที่ยืนอยู่ด้วย จึงรีบเปิดประตูรถออกไป ดนัยที่เห็นแบบนั้นก็รีบลงจากรถตามเจ้านายไปติด ๆ
“ท่านประธาน” นิรดาเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าตกใจ ทันทีที่เห็นว่าใครที่เป็นเจ้าของรถคันนั้น
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ ทางเราต้องขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น” ภานุวัตน์เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน เขารู้ว่าคนของตัวเองผิด อีกอย่างคนที่อยู่ในรถดันเป็นผู้หญิงในฝันของเขาด้วย “ดนัย เดี๋ยวนายอยู่เคลียร์ตรงนี้นะ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล”
“ครับ ท่านชายวัตน์”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ” นิรดารีบปฏิเสธทันที
“คุณไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเลย เมื่อกี้รถคุณเกือบจะรถชนรถผมนะ” ปภาวินไม่สนใจว่าเขาจะวางมาดนิ่งทำเป็นรับผิดชอบยังไง ตอนนี้เขาไม่พอใจมากกว่า
“พี่วิน!” นิรดาเรียกชื่อพี่ชายเสียงดัง ห้ามยังไงก็ห้ามไม่อยู่แล้ว
“คุณจะมาหยาบคายแบบนี้กับท่านชายไม่ได้นะครับ” ดนัยเตือนพลางเอาตัวเองเข้าไปขวางหน้า แต่ท่านประธานกลับผลักเขาเบา ๆ ให้หลีกออก
“ดนัย ไม่เป็นไร ทางเราต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีคนขับรถคนนี้ยังไม่คุ้นทาง เขาเพิ่งเข้ามาทำงานแทนคนเก่าได้ไม่นาน” ภานุวัตน์พยายามข่มอารมณ์ไว้ หากเป็นปกติ เขาคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่เพราะครั้งนี้ดันมีผู้หญิงที่เขาสนใจยืนอยู่ด้วย การทำให้เธอมองเขาในทางที่ดีย่อมดีกว่า
“ไม่เป็นไรค่ะ ทางเราก็ต้องขอโทษเช่นกันค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” นิรดาโค้งศีรษะให้ ก่อนจะลากแขนพี่ชายกลับไปยังรถทันที