“เลิกงานแล้ว กลับบ้านกันน้องดา กลับช้าเดี๋ยวคนก็แย่งกันขึ้นรถไฟฟ้าอีก” ข้าวสวยเดินมากล่าวลานิรดาที่ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่บนโต๊ะ
“โอเคค่ะ เดี๋ยวน้องดาเคลียร์โต๊ะแล้วก็จะออกไปแล้วเหมือนกันค่ะ” นิรดาเงยหน้าขึ้น พยักหน้าสวัสดีเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะหันกลับไปเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อย มองเวลาแล้วก็ต้องเร่งมือถ้าไม่อยากไปอัดเป็นปลากระป๋องบนรถไฟฟ้า
พนักงานทยอยกันต่อแถวสแกนบัตรออกงาน ก่อนจะเดินออกจากบริษัทเหมือนกับผึ้งแตกรังไม่มีผิด ขณะที่นิรดาสแกนบัตรแล้ว ก็กำลังก้มหน้าก้มตาควานหาบัตรโดยสารรถไฟฟ้าในกระเป๋าจนมือพัลวัน หากออกจากบริษัทช้ามีหวังได้ต่อแถวขึ้นรถไฟฟ้านานอีก
ขณะที่นิรดากำลังวุ่นหาบัตรโดยสารและบ่นพึมพำกับตัวเองนั้น เสียงซุบซิบของพวกผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าบริษัทก็ดังเซ็งแซ่ขึ้นมา แต่กลับไม่ได้ทำให้เธอสนใจไปมากกว่าการหาของในกระเป๋า
“หล่อมากอะแก”
“กรี๊ดเลย”
“มารอรับใครอยู่นะ”
“เท่สุด ๆ”
“โอ้ย… ทำยังไงถึงจะได้แบบนี้บ้าง”
“นายแบบหรือดาราแน่นอน”
“ฉันอยากเป็นแฟนเขาอะ หล่อ งื้ออ”
ปภาวินพี่ชายของนิรดาถึงกับบินตรงมายังประเทศไทยเพราะทนคิดถึงน้องสาวสุดที่รักไม่ไหว หลังจากลงเครื่องก็รีบไปส่งผู้จัดการที่โรงแรมแล้วตรงดิ่งมายังบริษัทของน้องสาวทันที
ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนเข้าทรง สวมแว่นตากันแดดแบรนด์ดัง ยิ่งมายืนพิงรถซูเปอร์คาร์คันหรูแบบนี้ แถมยกมือขึ้นปาดผมข้างอีก สาวเล็กสาวใหญ่ที่ไหนเห็นเข้าก็ต้องคิดว่าเขาน่ะหล่อเหลือร้าย
ในขณะที่ผู้หญิงนับสิบจดจ้องไปที่ชายหนุ่ม นิรดายังคงวุ่นอยู่กับตัวเอง เธอไม่มองอะไรรอบกายด้วยซ้ำ แค่อยากจะกลับถึงห้องสักที หลังจากต้องทนทำงานเยอะ ๆ ในวันนั้นของเดือนอันแสนทรมาน สิ่งเดียวที่ต้องการคือการกลับห้องไปนอนให้สบายตัว
ปภาวินกวาดสายตามองหาน้องสาว เห็นว่าเธอกำลังเดินมุ่งเลี่ยงผู้คนไปอีกทาง ไม่ได้มองมาทางเขาเลยด้วยซ้ำ
‘ยายเบ๊อะเอ๊ย คงไม่เห็นกันอีกตามเคย’
เห็นอย่างนี้แล้วคงไม่มีทางได้เจอกัน เขาจึงตัดสินใจเดินฝ่าฝูงชนตรงไปหา ปภาวินเข้าประชิดล็อกคอเธอจากด้านหลังทันที นิรดาจำกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของพี่ชายได้เพราะสั่งทำพิเศษโดยนักปรุงน้ำหอมมือดีจากฝรั่งเศส จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ
“เฮ้ย… พี่วินมาได้ยังไงคะ” หญิงสาวหันกลับมากอดคอพี่ชายแน่น ในใจสงสัยว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ปกติต้องไปถ่ายแบบอยู่ที่ประเทศกรีซนี่นา
“ก็ไอคิดถึงยูเลยบินมาหาน่ะสิ” ปภาวินสวมกอดน้องสาวแน่น พร้อมทั้งหอมแก้มสองข้างฟอดใหญ่ สองพี่น้องไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่นิรดาจะย้ายมาประเทศไทยเสียอีก
“ไปกันเถอะค่ะ คนมองใหญ่แล้ว” เมื่อเห็นสายตาของผู้หญิงรอบ ๆ ที่เริ่มหันมามองอย่างสนใจ นิรดาก็ควงแขนพี่ชายเดินตรงไปที่รถ ปภาวินเปิดประตูรถให้เธอพลางเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถก็ไม่ลืมหันไปส่งยิ้มหวานให้สาว ๆ ที่ยืนออมองเขาด้วยความขี้เล่น
“โอ๊ย… แก คือผู้งานดีมาก อิจฉาน้องดาเนอะ ได้ควงผู้ชายหล่อขนาดนี้ อย่างกับหลุดออกมาจากนิตยสาร”
“ใช่อะแก… น่ารักมาก เหมือนในหนังเลยอะ ฉันละอยากเจอผู้ชายแบบนี้มั้งจัง”
ยังไม่ทันที่ล้อรถจะเคลื่อนออกไป ภายในกลุ่มแชตเมาท์มอยของบริษัทก็มีรูปของนิรดาและชายหน้าหล่อปริศนาส่งว่อนเข้าไลน์กลุ่ม จนกลายเป็นหัวข้อสุดฮอตของวันนี้
(หูย ผู้ชายใครกันอะ หล่อเกินมนุษย์มาก)
(แฟนน้องดาเหรอ)
(น้องดานี่โชคดีเนอะ สวยไม่พอยังมีแฟนหล่อรวยแบบนั้นอีก ชาตินี้ฉันจะเจอแบบนั้นบ้างไหม)
ตัวรสาที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเปิดอ่านข้อความอยู่ด้วยความอิจฉา เธอกำมือแน่นโกรธจนอยากจะกรี๊ดดัง ๆ ออกมา ตั้งแต่นิรดาเข้ามาทำงานเธอก็ไม่เคยรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้เลย หล่อนดูสูงส่งหรือแสร้งทำเป็นสูงส่งกันแน่ เหมือนกับมีออร่ารอบตัวตลอดเวลา ตอนนั่งทำงานก็มีแต่คนรุมรักรุมให้ความสนใจ ตอนแรกรสาคิดว่าจะให้หล่อนไปคุมงานที่ภูเก็ต อยากจะกลั่นแกล้งใช้งานใหญ่ให้หนัก ๆ แต่พอรู้ว่าภานุวัตน์ต้องเดินทางไปที่นั่นบ่อย ๆ เลยเลี่ยงไม่ให้เขาเจอหล่อนเสียดีกว่า
ปรากฏว่าไม่ใช่แค่พนักงานเท่านั้นที่เห็นเหตุการณ์ ท่านชายวัตน์ที่กำลังก้าวออกมาจากบริษัทก็บังเอิญเห็นเช่นกัน เสียงกรี๊ดกร๊าดของบรรดาพนักงานหญิงทำให้เขาหันไปสนใจ แต่แล้วในขณะนั้นเขาก็จำเธอได้ เธอเป็นผู้หญิงที่เขาฝันถึงตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ที่แท้เธอก็อยู่ใต้จมูกเขานี่เอง จากที่หัวใจพองโตอยู่ เมื่อเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนนั้นใจก็ฝ่อลงทันที แอบคิดว่าก็สมควรแล้วที่เธอจะมีแฟนหน้าตาดีอย่างนั้น เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่สวยเพอร์เฟกต์ ดูจากรถซูเปอร์คาร์คันละสี่สิบล้านที่แฟนเธอขับก็คงจะรวยใช่เล่น ภาพยิ้มหัวเราะร่าของทั้งสองคนทำเอาหัวใจของเขารู้สึกปวดแปลบขึ้นมา ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน และเธอเป็นเพียงผู้หญิงที่อยู่ในความฝันเขาเท่านั้น แต่ทำไมถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้