ทันทีที่มาถึงหน้าโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่นัดหมาย ก็เจอกับ 'ธีรดล' หรือ 'พี่เค' ที่นั่งรออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตนเองอยู่ก่อนแล้ว
เขาอยู่ในชุดลำลองสบายๆ ร่างสูงพอๆ กับโยธินขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเคียงคู่มากับแฟนสาวของเขา
"รอนานไหมคะพี่เค"
วารีรีบเดินเข้าไปทักทายอย่างเกรงใจเพราะเธอมาช้า แถมยังหนีบเอาโยธินมาด้วยอีก
"ไม่นานครับ พี่ก็เพิ่งมาถึง แล้วนี่...มาทำอะไรเหรอ หรือมีธุระที่โรงเรียน" ธีรดลเอ่ยถามโยธิน
"เปล่าหรอกครับพี่ ผมไม่ได้มาโรงเรียน"
"อ้าว แล้วจะไป..."
"แต่ผมจะไปกับพี่กับไอ้วาต่างหาก" โยธินตอบพลางยิ้มแป้น
วารีถึงกับหน้าถอดสี ก่อนจะยกมือไหว้เขาพลางกะพริบตาปริบๆ เป็นเชิงขอร้องธีรดล
"ให้ไอ้โยไปกับเราด้วยนะพี่เค พอดีมันอกหัก วาทิ้งเพื่อนไว้คนเดียวไม่ได้อะ นะคะพี่เค นะ" วารีเม้มปากแน่นด้วยความลุ้นในคำตอบของธีรดล
"แต่นี่มันคือเดตนะครับน้องวา น้องวาจะเอาเพื่อนไปเดตกับพวกเราด้วยเนี่ยนะ" ธีรดลไม่ยอมง่ายๆ
"เฮ้ยพี่ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมจะไม่วุ่นวายเลย จะอยู่นิ่งๆ เหมือนต้นหญ้าริมทาง ไม่ว่าพี่กับไอ้วาจะคุยหรือจะทำอะไร ผมก็จะไม่เสือก เอ๊ย ไม่สอด ผมสัญญา" โยธินช่วยขอร้องอีกคน
"นะคะพี่เค แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ถือว่าวาขอนะคะ" ธีรดลมองหน้าวารีอย่างคิดหนัก ก่อนจะยอมพยักหน้าในที่สุด
"ก็ได้ครับ แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ เห็นแก่วาที่เป็นห่วงเพื่อน"
ธีรดลยีหัวเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู เขายอมตามใจเธอเพราะอยากให้เธอประทับใจและเห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่พอ
"ผมว่าเรารีบไปกันดีกว่านะพี่ เดี๋ยวหนังจะฉายซะก่อน" โยธินเดินเข้ามายืนแทรกกลาง
ธีรดลมองมือของตนเองที่ถูกดันออกจากศีรษะของวารีอย่างเนียนๆ ด้วยฝีมือของโยธินอย่างหัวเสียก่อนจะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง
"วาขึ้นมาสิ" เขาบอก
วารีเตรียมจะขึ้นซ้อนท้ายเขา แต่โยธินก็ห้ามเอาไว้ก่อน
"อะไรอีกเนี่ย" ธีรดลถามน้ำเสียงขุ่นมัว
"ให้กูขึ้นก่อน มึงอะนั่งหลังสุด"
"ทำไมวะ กูเป็นแฟนพี่เคนะเว้ย กูนั่งได้ ไม่เป็นไร" วารียื้อยุด ทำท่าจะขึ้นไปซ้อนอีกครั้ง
โยธินสอดมือเข้าใต้รักแร้ของหล่อนแล้วยกตัวของร่างเพรียวให้ออกห่างจากมอเตอร์ไซค์ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นไปซ้อนท้ายธีรดล แล้วตบๆ ลงตรงเบาะด้านหลังที่ยังเหลือที่ว่าง
"ขึ้นมา" โยธินเอ่ย
"อะไรของมึงเนี่ย"
"มึงหัดใช้หัวที่ไม่ค่อยจะมีสมองของมึงคิดหน่อย ว่าถ้ามึงนั่งกลาง แล้วกูนั่งประกบท้ายเป็นเบอร์เกอร์สอดไส้วารี คนอื่นเขาจะมองมึงยังไง" โยธินอธิบายเมื่อวารีไม่ยอมขึ้นมาซ้อนสักที
"ถึงมึงจะไม่เหมือนผู้หญิง แต่มึงก็คือผู้หญิง แถมยังใส่กระโปรงมาอีก มึงจะแหกกระโปรงนั่งคร่อมหรือไงวะ"
วารีคิดตามคำพูดของโยธินก่อนจะเริ่มคล้อยตาม
"เออว่ะ ก็จริงของมึง กูนั่งหลังสุดแบบนั่งข้างเอาน่าจะดีกว่าเนอะ"
"คิดได้ก็ดี ขึ้นมาได้แล้ว แฟนมึงรอจนรากงอกแล้วเนี่ย"
"โอเคๆๆ" วารีรีบขึ้นไปซ้อนเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่ธีรดลจะเริ่มออกตัวรถ
เธอนั่งหันข้างเพราะใส่กระโปรงสั้น สองมือเกาะไหล่โยธินเอาไว้กันตก ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เมื่อแผนแทรกกลางไม่ให้ทั้งสองได้ใกล้ชิดกันของตัวเองได้ผล
แต่ว่าเพราะสองมือจับไหล่โยธินเอาไว้ เธอจึงไม่มีมือที่จะมาใช้ปิดกระโปรงของตัวเอง วารีเงอะๆ งะๆ พอจะเอามือมาปิด รถก็ตกหลุมจนตัวเธอเกือบจะร่วงลงจากรถ โชคดีที่เอามือกลับมาจับโยธินไว้ได้ทัน
โยธินเริ่มสังเกตเห็นปฏิกิริยาแปลกๆ ของวารี เขาเหลือบมองท่าทีของเธอก่อนจะเดาออกว่าคนด้านหลังกำลังกังวลอะไรอยู่
หมับ
มือข้างซ้ายของโยธินเอื้อมไปข้างหลังเล็กน้อย วางลงบนตักของวารีเพื่อปิดกระโปรงของเธอไว้ให้ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตกใจระคนแปลกใจ หล่อนมองมือของเขาที่อยู่บนตักสลับกับมองโยธินจากด้านหลัง ก่อนจะค่อยๆ ยิ้มกับตัวเอง
"ขอบใจ" เธอยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูเขา
โยธินอมยิ้ม ก่อนที่พวกเขาจะนั่งแบบนี้ไปตลอดทางจนถึงที่หมาย
ห้างสรรพสินค้า
โรงหนัง
ทั้งสามคนพากันเข้ามาในโรงหนังเพื่อหาที่นั่งของตัวเอง โดยที่ในโรงหนังวันนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มีแต่คู่รักพากันมาดู
ด้วยหนังเรื่องนี้เป็นหนังรักสุดโรแมนติกที่หลายคนรอคอย ที่นั่งจึงเต็มทุกที่นั่ง โชคดีที่พวกเขาได้ที่นั่งติดกันสามที่
"นี่ไง ที่นั่งของพวกเรา"
ธีรดลชี้นิ้วไปยังที่นั่งสามที่ตรงกลางของแถว D ที่ว่างอยู่
โยธินรีบแทรกตัวไปนั่งตรงกลาง เหลือที่นั่งขนาบข้างซ้ายขวาของตัวเองเอาไว้ก่อนจะเอ่ยปากเรียกทั้งสองคนให้นั่งลง
"นั่งสิครับพี่เค พี่กับไอ้วายืนบังคนอื่นเขานะ หนังจะฉายแล้วด้วย"
ธีรดลหันไปมองวารีด้วยหวังว่าเธอจะทำอะไรสักอย่างกับโยธิน หากแต่หญิงสาวทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆ มาให้ราวกับขอให้เขาเข้าใจชายผู้มาก่อกวนเดตแรกระหว่างเขาและเธอในวันนี้
"พอดีผมไม่ค่อยชอบนั่งข้างคนแปลกหน้าน่ะครับ ให้พี่กับไอ้วานั่งขนาบข้างจะได้อุ่นใจ"
โยธินพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะดึงวารีให้นั่งลงตรงที่นั่งฝั่งขวา ธีรดลจำใจต้องเดินไปนั่งลงตรงที่นั่งฝั่งซ้ายของเขา
"คนเยอะดีนะพี่" โยธินกระซิบกระซาบชวนธีรดลคุย ทว่าอีกฝ่ายไม่ตอบกลับ ซ้ำยังแสดงท่าทางไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจนอีกด้วย
"นึกไงดูเรื่องนี้วะ ไม่ใช่แนวมึงนะเนี่ย"
โยธินหันไปกระซิบคุยกับวารีแทน
"พี่เคเป็นคนเลือกไม่ใช่กู" เธอกระซิบตอบกลับ
หนังเริ่มฉายไปได้ร่วมชั่วโมงแล้ว ผู้คนในโรงพากันใจจดใจจ่ออยู่กับหนัง ต่างก็กำลังอินไปกับความรักที่แสนโรแมนติกของพระนางไม่เว้นแม้แต่ธีรดล ที่ลืมเรื่องของโยธินและวารีไปชั่วขณะ เพราะมัวแต่โฟกัสเรื่องราวของภาพยนตร์
จะมีก็แต่โยธินและวารีเท่านั้นที่ไม่ได้อินไปด้วย ทั้งสองเอาแต่กินป็อบคอร์นที่วารีเป็นคนถือเอาไว้พลางปิดปากหาวหวอดๆ รอเวลาที่หนังจะจบเพราะใกล้จะหลับเต็มที
หมับ หมับ
จังหวะนรกบังเกิด
วารีล้วงมือลงไปในถังป๊อบคอร์นเพื่อจะหยิบขึ้นมากิน ประจวบกับโยธินเองก็ล้วงมือลงไปด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกัน ทำให้มือของเขาและเธอจับกันโดยบังเอิญ
ภายในความมืดที่มีเพียงแสงไฟสว่างริบหรี่จากจอของภาพยนตร์เท่านั้น โยธินและวารีต่างสบสายตากันด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ หากแต่เพียงครู่เดียว ทั้งสองก็รีบหันมองไปทางอื่นราวกับต้องการตั้งสติตัวเอง
วารีตัดสินใจชักมือกลับออกมาจากถังป๊อบคอร์น แล้ววางบนที่พักแขนแทน เธอหลับตาลงพลางผ่อนลมหายใจเข้าออกเพื่อเรียกสติ
'สติ! ตั้งสติไว้ยัยวา'
วารีคิดในใจ
หมับ...
ดวงตาคู่สวยของวารีเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจถึงขีดสุด เมื่อมือของหล่อนบนที่พักแขน ถูกโยธินเอามือของตัวเองมาวางทับแล้วจับเอาไว้!
วารีหันไปถลึงตาใส่เขาพลางเอ่ยคำถามทางสายตา
'อะไรของมึงเนี่ย'
โยธินไม่ตอบ เขายิ้มมุมปากทำท่าทางทะเล้นก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับหนังแทน หากแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือของวารี
เมื่อรู้ว่าโวยวายไปตอนนี้ก็คงไม่ได้อะไร วารีก็เลยปล่อยเลยตามเลยและหันไปสนใจที่จะดูหนังบ้าง ในหนังเป็นฉากที่พระนางกำลังแอบจับมือกันใต้โต๊ะอาหารที่มานั่งกินเลี้ยงกับคนในบริษัท
โยธินแอบยิ้ม เมื่อมือของวารีค่อยๆ หงายขึ้นและกางออก เขาเขยิบมือตัวเองเล็กน้อยเพื่อกางออกและคว่ำทับลงบนมือที่เล็กกว่าของวารี ก่อนที่นิ้วมือของทั้งคู่จะประสานกันในที่สุด...
ต่างฝ่ายต่างก็ยิ้มออกมา ถ้าใครเห็นก็คงคิดว่าทั้งสองคนกำลังยิ้มให้กับฉากในหนังเรื่องนี้แน่ๆ