บทนำ ตีนเท่าฝาหอย
บทนำ ตีนเท่าฝาหอย
ปี พ.ศ. 2540
โรงพยาบาล
"อุแว้ๆๆๆๆ"
เสียงเด็กร้องดังระงมไปทั่วทั้งห้องคลอด ก่อนที่บรรดาญาติโกโหติกาที่รออยู่หน้าห้องจะพากันโห่ร้องด้วยความยินดีที่ได้ยินเสียงนั้น
"ไชโยยย ลูกคลอดแล้ว ไชโยยย!"
'บรรพต' คุณพ่อวัยสามสิบห้า ที่มีดีกรีเป็นถึงผู้จัดการโชว์รูมรถนอกนำเข้า นอกจากจะมีหน้าที่การงานที่มั่นคงแล้ว ในที่สุด ภรรยาสุดรักสุดดวงใจของเขาก็ตั่งครรภ์ และให้กำเนิด 'ลูกชาย' คนแรก หลังจากแต่งงานอยู่กินกันมาได้ห้าปี
"ลูกเราคลอดแล้วเบ็บ ลูกเราคลอดแล้ว!"
"ใจเย็นนะบี๋ อย่าเสียงดัง ฮึก..."
ที่ห้องคลอดห้องข้างๆ ผู้ชายสองคนกำลังกอดกันกลมและพากันร้องด้วยความดีใจที่ลูกของพวกเขาเองก็เพิ่งคลอดออกมาเหมือนกัน
เดี๋ยวก่อนนะ...
พวกเขา???
บรรพตถึงกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง พลางอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้ชายทั้งสองคนนี้คือพ่อของเด็กที่เพิ่งเกิดทั้งคู่เลยหรือ
"ได้ลูกสาวนะคะ ยินดีด้วยค่ะ"
พยาบาลเดินออกมาบอกข่าวดีกับพวกเขา ทั้งสองกอดกันแน่นกว่าเดิม ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นบรรพต และญาติๆ ของเขาที่ยืนอยู่หน้าห้องคลอดห้องข้างๆ
"เอ่อ พวกเราเสียงดังเกินไปใช่ไหมครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ"
'ขจร' หนุ่มใหญ่วัยสามสิบหกหันมาเอ่ยขอโทษอย่างมีมารยาท
"พอดีพวกผมดีใจเกินไปหน่อยน่ะครับ"
'เนรมิต' ชายหนุ่มวัยสามสิบปี ที่ยืนคล้องแขนขจรอยู่เอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร
"ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเข้าใจๆ ผมเองก็กำลังดีใจที่ลูกชายคลอดเหมือนกัน หัวอกเดียวกันครบ ฮะๆๆ" บรรพตหัวเราะร่วนด้วยสีหน้ามีความสุข
ทั้งสองครอบครัวค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้กันมากขึ้นแล้วพูดคุยกันถึงความรู้สึกอันน่ายินดีในตอนนี้
สามเดือนต่อมา
"กลับมาแล้วจ้าที่รัก ตาโยหลับแล้วเหรอ"
บรรพตที่เพิ่งกลับจากทำงานตรงเข้าไปหา 'สายใจ' ภรรยาสุดรักที่ห้องนอน หล่อนเพิ่งให้นมและกล่อม 'โยธิน' ลูกชายวัยสามเดือนจนหลับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
"หลับแล้วค่ะ คุณล่ะ กลับมาเหนื่อยๆ หิวไหมคะ ฉันเตรียมกับข้าวไว้ให้แล้ว เดี๋ยวฉันไปอุ่นให้นะ" สายใจทำท่าจะลุกขึ้นจากเตียง
"ไม่ต้องๆ แค่อุ่นกับข้าวผมทำเองได้ คุณพักผ่อนเถอะ เลี้ยงลูกทั้งวันคงจะเหนื่อยแย่" บรรพตห้ามไว้และดันตัวหล่อนให้นอนลงอีกครั้ง
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ลูกเราเลี้ยงง่ายมากๆ จริงสิ คุณจำคู่รักผู้ชายสองคนที่ลูกสาวเขาเกิดวันเดียวกับตาโยได้ไหมคะ?" สายใจเปลี่ยนเรื่อง
"หมายถึงคู่รักที่ให้คนอุ้มบุญลูกสาวใช่ไหม จำได้สิ มีอะไรหรือเปล่า"
บรรพตจำทั้งสองคนได้แม่นถึงจะผ่านมาสามเดือนแล้วก็ตาม เพราะลูกของทั้งสองครอบครัวได้นอนข้างกันในห้อง และห้องพักฟื้นก็ยังอยู่ข้างๆ กันอีก ทำให้ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล ทั้งสองครอบครัวได้พูดคุยแลกเปลี่ยนและทำความรู้จักกันไปเยอะมาก
"พวกเขาย้ายมาอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามเราค่ะ เปิดร้านเบเกอรี่และก็เป็นร้านกาแฟนั่งชิลไปในตัวด้วย วันนี้ฉันบังเอิญเห็นตอนพวกเขาขนย้ายข้าวของเข้ามาค่ะ"
สายใจเล่าด้วยความดีใจ เพราะเธอและสามีเองก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้เพียงครึ่งปี จึงยังไม่มีเพื่อนบ้านที่สนิทสนมเท่าไหร่นัก
"จริงเหรอ ก็ดีสิ คุณเองก็ดูเข้ากับพวกเขาได้ดีด้วย จะได้มีเพื่อนคุยไม่เหงาเวลาผมไปทำงาน"
"ฉันก็คิดแบบนั้นค่ะ พวกเขาบอกว่าวันอาทิตย์นี้จะแวะมาทักทายด้วยนะคะ ตาโยของเราก็จะได้มีเพื่อนเติบโตไปพร้อมกันด้วย" สายใจก้มมองโยธินที่หลับพริ้ม
ด้านขจรและเนรมิต
"แง้ๆๆๆๆๆ"
เสียงเด็กร้องไห้ดังเซ็งแซ่ไปทั่วบ้าน เนรมิตที่กำลังจัดข้าวของในบ้านหลังใหม่รีบวิ่งไปดู 'วารี' แก้วตาดวงใจวัยสามเดือนที่เพิ่งตื่นนอน
"ป๊ะป๋ามาแล้วลูก ร้องทำไมคะ หิวหรือลูก"
เขาอุ้มวารีขึ้นมาในอ้อมกอดแล้วพยายามเห่กล่อมให้เด็กน้อยยอมสงบอีกครั้ง
"ลูกเป็นอะไรหรือเบ็บ" ขจรเดินเข้ามาถาม
"โอ๊ะ แด๊ดดี้มาพอดีเลยลูก สงสัยลูกจะหิวนมน่ะ บี๋ชงนมให้ลูกหน่อยสิ"
"ได้ๆ" ขจรรีบไปชงนมทันที
พวกเขาตัดสินใจมาเปิดร้านเบเกอรี่ในหมู่บ้านใหญ่ที่เปรียบได้กับเมืองขนาดย่อมเมืองหนึ่ง หลังจากที่ตระเวนดูมาหลายที่ ก็ถูกใจที่นี่ที่สุด เพราะอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง และยังมีโรงเรียนอยู่ห่างไปแค่ห้าน้อยเมตรอีกด้วย
"นมมาแล้วจ้า" ขจรส่งนมให้
เนรมิตรีบส่งนมให้เด็กหญิงวารีตัวน้อยดื่ม เมื่อนมเข้าปาก เสียงงอแงก็เงียบหายไป
"จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะบี๋ ที่พี่สายใจกับพี่บรรพตอยู่บ้านตรงข้ามแบบนี้ อย่างน้อยก็มีคนรู้จัก" เนรมิตเอ่ยขึ้น
"นั่นสิ เจ้าหญิงน้อยของพวกเราก็จะได้มีเพื่อนเล่นด้วย รอก่อนนะวารี ไว้แด๊ดดี้จะพาหนูไปรู้จักกับโยธิน เขาจะเป็นเพื่อนรักของหนูตลอดไปแน่นอน" ขจรลูบแก้มลูกสาวเบาๆ อย่างเอ็นดูรักใคร่
สามปีต่อมา
"ฮืออออออ!!"
เสียงร้องไห้ของโยธินดังสนั่นไปทั่ว ขจรและเนรมิตที่กำลังอบขนมเค้กอยู่ในบ้าน และสายใจที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวบ้านตัวเองรีบวิ่งออกมาดู
"ตาโย เป็นอะไรไปลูก เกิดอะไรขึ้น"
สายใจรีบเข้าไปกอดบูกชายที่ร้องไห้จนหน้าดำหน้าแดง ขณะที่ขจรเองก็รีบมาดึงมือวารีเข้าไปหาแล้วเอ่ยถาม
"วารี หนูแกล้งโยธินอีกแล้วใช่ไหม" ขจรถามเสียงดุ
"หนูเปล่านะคะแด๊ดดี้ หนูแค่ขอดูตุ๊กตาที่โยถืออยู่ แต่โยไม่ยอมแล้วบอกให้หนูปล่อย หนูก็ปล่อย แล้วโยก็ล้มลงไปเอง" วารีทำหน้าบึ้งที่โดนดุ
"จริงเหรอโยธิน ถ้าวารีแกล้งบอกป๊ะป๋ามาเลยนะ ป๊ะป๋าจะลงโทษวารีมห้เอง" เนรมิตเดินเข้าไปเค้นถามความจริงจากโยธิน
"ไม่เป็นไรหรอกมิตร เด็กๆ เล่นกัน อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย" สายใจปราม หล่อนรักและเอ็นดูวารีเหมือนลูกสาวคนหนึ่งเพราะเห็นมาแต่อ้อนแต่ออก
"พี่สายใจเอาอีกแล้ว ให้ท้ายยัยหนูตลอดเลย ดูซิเนี่ย จะแมนกว่าบรรดาพ่อๆ แล้วพี่" เนรมิตแย้งบ้าง
"เอาน่า อย่าดุแกเลย วารีมาหาแม่มา เดี๋ยวคุณพ่อก็จะกลับจากทำงานแล้ว พวกเราไปเตรียมจัดโต๊ะอาหารรอคุณพ่อกันดีไหม"
"ดีค่า" วารีขานรับอย่างดีใจ
"ดีครับ ฮึก..." โยธินพยักหน้า แต่ยังไม่หายสะอื้น
"ไปกัน" วารียื่นมือไปหาโยธิน เด็กชายมองมื้อเล็กๆ นั้นก่อนจะยื่นมือไปจับ แล้วพากันเดินเข้าบ้านไป
เป็นแบบนี้เสมอ แม้ว่าวารีจะชอบแกล้งโยธิน แต่หากมีเด็กคนอื่นมารังแกเขา วารีก็จะออกโรงปกป้องเป็นประจำ เป็นประเภทที่...ฉันทำได้ คนอื่นห้ามทำ...
แต่ถึงอย่างนั้น เด็กชายโยธินก็ยังชอบที่จะอยู่กับเด็กหญิงวารี ทำให้ทั้งสองคนจะเล่นด้วยกันตลอด และไม่ค่อยเปิดใจให้เด็กคนอื่นเข้ามาเล่นด้วย ทั้งคู่ตัวติดกันราวกับเป็นพี่น้องคลานตามกันออกมา จนได้ฉายาว่า 'คู่แฝดวาโย'
มีวา(รี) ที่ไหน ต้องมีโย(ธิน)ที่นั่น
สิบสี่ปีต่อมา
คู่แฝดวาโยวัยสิบเจ็ดปี
"ไอ้โยๆๆ ตื่นๆๆๆ ตื่นเดี๋ยวนี้!!!"
วารีที่เพิ่งกลับจากโรงเรียน วิ่งพรวดเข้ามาในห้องนอนของโยธินที่ไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะไม่สบายและกำลังนอนซมอยู่บนเตียง
เขาถูกวารีดึงตัวขึ้นมาเขย่าๆ จนหัวเกือบหลุดออกจากคอ
"โอ๊ย อะไรของมึงเนี่ย กูปวดหัว" โยธินดันตัววารีให้ออกห่าง
เขาปรือตามองหล่อนเพราะยังหลงเหลือพิษไข้อยู่
"กูมีแฟนแล้ว!" วารีพูดเสียงดังดวยความดีใจ
"อือๆ" โยธินขายรับแบบขอไปทีก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
ทว่ายังไม่ทันจะหลับสนิท สมองก็ได้ประมวลสิ่งที่วารีบอกกับเขาอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะดีดตัวลุกขึ้นมานั่ง ดวงตาเบิกกว้างตื่นเต็มตาในทันที
ขวับ!
เขาหันไปมองวารีที่นั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างๆ ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนรักด้้วยคำถามที่คาใจ
"มะ...เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ"
"กูบอกว่ากูมีแฟนแล้วนะ"
"หะ....ฮะ?!"
"กู-มี-แฟน-แล้ว!"
เปรี้ยงงง!!!
เสมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางใจของโยธิน!