ดึกเหมือนทุกครั้งที่อารยากลับมาบ้าน เธอยืนมองรถแฟนหนุ่มแล่นห่างออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“มีความสุขจังเลยนะ” ทัพพ์ที่แอบยืนอยู่ข้างพุ่มไม้ตั้งแต่เห็นรถของเมทีและอารยาแล่นมาจอดแล้วเอ่ยขึ้น
“พี่หมอ” หล่อนก้าวถอยหลังออกห่างคนที่เดินเข้ามาใกล้ตัวเองด้วยความหวาดหวั่น
“ทำไมไม่ตอบไลน์พี่ และทำไมยังคบกับมันอยู่ พี่บอกน้องอายให้เลิกกับมัน ทำไมไม่เชื่อฟังพี่” เขาเดินมาถึงตัวเธอพร้อมกับตวัดแขนออกไปรวบเอวเล็กดึงรั้งเข้ามาปะทะอกแกร่งตัวเอง
“อ่ะ...พี่หมอปล่อยน้องอายนะคะ” อารยาดิ้นขัดขืนให้หลุดพ้นจากวงแขนใหญ่ แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดหล่อนแน่น
“พี่ไม่ปล่อย จนกว่าน้องอายจะรับปากพี่” เขาใช้มือข้างที่ว่างมาจับคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบตาตัวเอง
“รับปากเรื่องอะไรคะ”
“เลิกกับไอ้หน้าอ่อนนั่นซะ เลิกกับมันตอนนี้เลย โทรหามันเดี๋ยวนี้” เขาสั่งเสียงดุ
“จะมากไปแล้วนะพี่หมอ”
“ไม่มากไปหรอก น้องอายเป็นของพี่”
“ไม่ใช่ น้องอายไม่ใช่ของพี่หมอ และไม่คิดจะเป็นด้วย น้องอายเกลียดพี่หมอ ได้ยินไหมคะว่าเกลียด เกลียดที่สุดคนเลว คน...อะ...อื้อ...” แล้วเสียงเล็กก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหนาโน้มลงมาทาบทับบดจูบ
“อ่ะ...อื้อ...”
เพียงแค่ได้บดเร่าสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานล้ำของอารยา เขาก็ไม่อยากผละออกมา ทัพพ์ เคลื่อนไหวบดจูบควานกลืนความหวานของอารยาและกอดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็กอย่างหยามใจ ก่อนจะผละออกมาปล่อยให้เธอได้หายใจเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกระตุกเหมือนคนจะขาดอากาศหายใจของหล่อน
“สารเลว! พี่หมอทำแบบนี้กับน้องอายได้ยังไง สองครั้งแล้วนะคะ” น้ำเสียงสั่นไปด้วยความโกรธและรู้สึกแปลกในใจที่หัวใจมันเต้นแรงพองโตยามคนใจร้ายบดจูบ
“ก็น้องอายเป็นของพี่ พี่จะทำยังไงกับน้องอายก็ได้ จะเอาน้องอายก็ยังได้ ว่ายังไง จะเลิกกับมันไหม”
“น้องอายชอบไมค์ ทำไมต้องเลิกกับไมค์ด้วย”
“พี่ให้โอกาสน้องอายพูดใหม่อีกที และห้ามบอกว่าชอบมันอีก พี่ไม่ชอบ”
“คนใจร้าย คนเอาแต่ใจ”
หึหึ
“โทรไปบอกเลิกมันเดี๋ยวนี้”
“ไม่! ยังไงน้องอายก็ไม่เลิกกับไมค์ ไมค์เป็นคนดีและดีกับน้องอายมาก ต่างจากพี่หมอที่เป็นคนเลวทำร้ายน้องอาย ทำให้น้องอายเสียใจ และก็ปล่อยน้องอายได้แล้ว น้องอายจะเข้าบ้าน” แม้ไม่แน่ใจว่าคนตัวโตจะปล่อยตัวเองหรือไม่ แต่ก็ยังอยากให้เขาปล่อยเธออยู่ดี ตอนนี้ทั้งอึดอัดและหัวใจของหล่อนมันก็เต้นแรงเพราะความโกรธหรือเพราะอะไรกันแน่ถึงได้เต้นไหวแรงแบบนี้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ชิดบุรุษ
“ทำไมดื้อกับพี่แบบนี้น้องอาย ปกติไม่ดื้อกับพี่ไม่ใช่เหรอ”
“เรื่องอื่นน้องอายเชื่อฟังพี่หมอ แต่เรื่องหัวใจน้องอายขอคัดค้าน เพราะน้องอายทำตามที่พี่หมอบอกไม่ได้จริงๆ น้องอายชอบไมค์ ส่วนพี่หมอ น้องอายเกลียด เกลียดที่สุดตอนนี้ และก็ปล่อยได้แล้ว” หล่อนรวบรวมแรงดิ้นออกจากวงแขนใหญ่ทันทีเมื่อพูดจบความ และความชะล่าใจของทัพพ์จึงทำให้เธอดิ้นหลุดจากวงแขนไปได้
เผียะ!
พอได้รับอิสระก็ตวัดมือใส่หน้าหล่อของหมอหนุ่มแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที ส่วนคนที่โดนตบแบบไม่ทันตั้งตัวได้แต่กัดกรามแน่นมองตามร่างเล็กที่วิ่งเร็วๆ จากไป
“ฝากไว้ก่อนเถอะแม่ตัวดี ไม่เลิกกับมันใช่ไหม เจอดีแน่ พี่จะทำให้น้องอายเป็นของพี่ให้เร็วที่สุด” เขาหมายมาดกับตัวเอง ก่อนจะเดินกัดกรามแน่นกลับบ้านของตัวเอง
“คนบ้า! คนเลว! ทำแบบนี้กับน้องอายได้ยังไง นี่น้องนะ คนเผด็จการ!” พอขึ้นมาบนห้องนอนส่วนตัวก็หยิบรูปที่วางไว้ที่ข้างหัวเตียงมาต่อว่า รูปที่หยิบมาเป็นรูปของเธอและพี่ชายข้างบ้านที่ถ่ายด้วยกันเมื่อตอนเธออายุ 10 ขวบ
“คนใจร้าย ทำไมทำกับน้องอายแบบนี้ ทำไมต้องจูบกันด้วย แล้วทำไมต้องบังคับด้วย” วางรูปไว้ที่เดิมแล้วลุกลงจากเตียงเพื่อจะอาบน้ำนอน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขวางเสียก่อน เธอจึงหยิบกระเป๋าสะพายมาค้นหาโทรศัพท์ที่ดังอยู่มารับสาย แต่พอเห็นชื่อที่โชว์หน้าจอก็ต้องถอนหายใจแรงออกมา
“โทรมาทำไมเนี่ย” พึมพำแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไปบนเตียงอย่างไม่สนใจแล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำต่อ
เวลาผ่านไปนานสามสิบนาทีกว่าก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พอเดินออกมาก็มาหยิบโทรศัพท์ที่โยนทิ้งก่อนหน้านี้มากดรับสาย เพราะเสียงเรียกเข้ายังคงดังอยู่
“อะไรอีกคะพี่หมอ”
“ทำไมไม่รับสายพี่”
“ก็คนอาบน้ำ”
“อือ...แล้วนี่จะนอนรึยัง”
“ก็นอนสิคะ นี่ดึกมากแล้ว”
“งั้นฝันดีนะ” แล้วปลายสายก็กดตัดสายทิ้งทำเอาอารยาขมวดคิ้วมึนงงไม่เข้าใจพี่ชายข้างบ้าน
“อะไรของเขา โทรมาเป็นสี่สิบกว่าสายเพื่อจะบอกฝันดีเนี่ยนะ คนบ้า” ปากบ่นแต่มุมปากนั้นกลับแย้มยิ้มออกมาอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองแอบเผลอยิ้มไปกับคำบอกฝันดีของทัพพ์
หล่อนทิ้งโทรศัพท์ไว้บนเตียงแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อจะทาครีมบำรุงผิวตัวเอง แล้วก็ต้องเม้มปากแน่นเมื่อเห็นว่าหน้าของตัวเองกำลังยิ้มและสองแก้มนวลก็กำลังแดง
“บ้าน่า...ยัยอาย เธอเป็นอะไรไปเนี่ย” บ่นว่าตัวเองแล้วสะบัดหัวตัวเองแรงๆ ไม่ให้คิดถึงคำพูดก่อนวางสายของหมอหนุ่ม ก่อนจะสนใจกับการบำรุงผิวตัวเองต่อ