วันนี้ทั้งวันทัพพ์เหนื่อยกับการผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คนป่วย กว่าจะเสร็จก็ปาไปสามทุ่มกว่าแล้ว พอขับรถมาถึงบ้านแต่ยังไม่เลี้ยวเข้าไปในบ้านที่เปิดประตูรอท่าอยู่ สายตาของเขาก็มองไปเห็นคนสองคนยืนพูดคุยกันอยู่หน้าบ้านหลังข้างๆ และทันทีที่ได้เห็น เขาก็จอดรถแล้วลงจากรถเดินตรงไปหาคนทั้งสองทันที เพราะผู้หญิงที่ยืนคุยกับผู้ชายนั้นเป็นของเขา ใช่...ของเขาคนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์ เขาจองอารยามาตั้งแต่มัดผมแกละแล้ว ไอ้หน้าอ่อนนั้นมาทีหลังเขา
“ทำอะไรกัน” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับฉวยโอกาสคว้าข้อมือเล็กดึงรั้งให้มาหลบอยู่ด้านหลังตน
ว้าย!
“พี่หมอทำอะไรคะเนี่ย ตกใจหมดเลย” อารยาเอ่ยถามพร้อมบิดข้อมือตัวเองออกจากอุ้งมือใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ผล
“ใครน่ะอาย” เมทีถามแฟนสาวพร้อมกับมองหน้าของคนที่ตัวสูงกว่าตัวเอง ก่อนจะหลบตาเมื่อสายตาดุดันนั้นจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง
“พี่หมอน่ะ เป็นพี่ข้างบ้านเราเองไมค์” อารยาบอกแฟนหนุ่ม
“แล้วทำไมเขาถึงสนิท...”
“คือเราสองบ้านสนิทกันและอายก็สนิทกับพี่หมอเขามาตั้งแต่เด็กแล้วน่ะ ไมค์กลับเถอะ เนี่ยก็ดึกแล้ว ขอบคุณนะที่มาส่งอาย และยังพาไปดูหนังด้วยวันนี้” หญิงสาวบอกแฟนหนุ่มยิ้มๆ
“สำหรับอาย ไมค์ทำให้ได้ทุกอย่าง งั้นไมค์กลับก่อนนะ ฝันดีนะอาย” เมทีบอกลาแฟนสาว ไม่ลืมยกมือไหว้ชายหน้าดุที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“เดี๋ยวค่อยโทรคุยกันนะไมค์”
“ครับผม” แล้วเมทีก็เดินไปเปิดประตูรถแล้วติดเครื่องรถออกตัวไปทันที ตอนนี้ก็เหลือแต่ทัพพ์และอารยาสองคน
“พี่หมอปล่อยมืออายได้แล้วค่ะ อายจะเข้าบ้านแล้ว อายง่วง”
“เป็นอะไรกันถึงต้องมาส่ง แถมไปดูหนังกันด้วย” ทัพพ์ไม่ปล่อย แต่เลือกถามแทนทั้งๆ ที่เมื่อเช้าก็รู้แล้วว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน
“แฟนค่ะ แล้วพี่หมอจะอยากรู้ไปทำไมคะ ปล่อยได้แล้ว น้องอายเจ็บข้อมือนะ”
“เลิกกับมันซะ”
“อะไรกันพี่หมอ จะมายุ่งเรื่องส่วนตัวของน้องอายทำไม อีกอย่างไมค์เป็นคนดี ไม่ได้ทำอะไรผิด และน้องอายก็ชอบไมค์ด้วยค่ะ” เธอบิดข้อมือตัวเอง แต่แล้วก็ต้องร้องเจ็บออกมาเมื่อมือใหญ่กำข้อมือเธอแน่นกว่าเดิม
“โอ๊ย! เจ็บนะพี่หมอ”
“จะเลิกกับมันไหม”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าน้องอายชอบไมค์ จะให้เลิกได้ยังไงคะ อีกอย่างน้องอายโตแล้ว โตพอจะมีแฟนแล้ว เนี่ยก็อีกสองเดือนจะเรียนจบแล้วด้วย แถมแม่แววก็รับรู้เรื่องของน้องอายกับไมค์แล้วด้วย แม่แววสนับสนุนเรา แล้วพี่หมอเป็นใครคะ เป็นแค่พี่ชายข้างบ้าน ไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับน้องอาย และก็ปล่อยได้แล้ว น้องอายง่วงจะไปนอน”
กรอด!
หมอหนุ่มกัดฟันแน่นจนเสียงดังออกมาให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ยิน เขาคลายมือที่กำข้อมือเล็กไม่ยอมปล่อยแล้วดึงคนตัวเล็กมายืนตรงหน้าตัวเอง
“ชอบมันงั้นเหรอ?”
“ค่ะ น้องอายชอบไมค์ แล้วพี่หมอ อ่ะ...อื้อ...”
แล้วเสียงเล็กก็กลืนหายเข้าไปในลำคอทันทีเมื่อปากหนาของคนกรุ่นโกรธนั้นโน้มลงมาบดจูบปิดปากน้อยพร้อมพยายามดุนดันปลายลิ้นตัวเองเข้าไปในโพรงปากเล็ก มือใหญ่ที่จับข้อมือเล็กก็เคลื่อนมากดหัวไหล่มนพร้อมบีบให้เธอรู้สึกเจ็บจนเผยออ้าปาก แล้วจังหวะนั้นเองทัพพ์ก็ฉวยโอกาสใช้ลิ้นสากควานหาความหวานในโพรงปากของน้องน้อย
“อ่ะ...อื้อ...”
ความหวานของปากอารยาทำให้เขาไม่อยากผละออกไปแม้แต่วินาทีเดียว ปากหนาของหมอหนุ่มบดเคล้าคลอเคลียดูดลิ้นน้อยที่พยายามถดถอยหนีตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดยอมจำนนให้เขาแต่โดยดี เมื่อปล้ำจูบปลายลิ้นดูดเร่าในปากเล็กจนหนำใจแล้วเขาถึงได้ผละออกมาให้คนตัวเล็กได้หายใจ
เผียะ!
มือเล็กตวัดใส่หน้าหล่อของคนตัวโตทันทีเมื่อได้รับอิสระ
“สารเลว! น้องอายเกลียดพี่หมอ”
พูดจบก็วิ่งร้องไห้เข้าไปในบ้านทันที ทิ้งให้คนที่เพิ่งปล่อยให้อารมณ์โกรธยืนลูบแก้มสากตัวเองไปมาด้วยความเจ็บชาและไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะกล้าตบตัวเอง เพราะผู้หญิงส่วนมากชอบให้เขาจูบและวิ่งเข้าหา แต่กับอารยามันไม่ใช่ เธอรังเกียจจูบของเขา
หึหึ
“เกลียดยังไงน้องอายก็เป็นของพี่คนเดียว ไอ้หน้าอ่อนหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวน้องอายทั้งนั้น นอกจากพี่คนเดียว” เขาพึมพำกับตัวเองพร้อมหยักยิ้มร้าย ก่อนจะเดินกลับไปยังรถที่จอดทิ้งไว้เพื่อขับเข้าไปในบ้าน