นางมารน้อยผู้ดูไร้เดียงสา

1221 คำ
ตอนที่ 5 นางมารน้อยผู้ดูไร้เดียงสา ไป๋หลันพาม่านเวยอิงมาถึงสถานที่แคสตัวละครก่อนเวลานัดหมาย มีผู้คนในสตูดิโอไม่มากนัก แต่บรรยากาศก็ดูครื้นเครง ท่าทางของพวกเขาเป็นมืออาชีพและผ่อนคลาย ม่านเวยอิงปรายสายตามองดูอุปกรณ์ถ่ายทำ กล้อง สายไฟ สปอร์ตไลน์ เธอรู้สึกถึงพลังที่ฮึกเหิมอยู่ภายในสิ่งเหล่านี้จะสาดส่องแสงสว่างและจับจ้องที่ตัวเธอ แบบนี้รึเปล่า อาการหิวแสง ฮึ ๆ ๆ ม่านเวยอิงขำตัวเองในใจ พร้อมก้าวเดินตามไป๋หลันเข้าไปข้างใน การแคสตัวละคร ไม่มีการแต่งกาย ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีฉาก ม่านเวยอิงจะต้องแสดงบทโดยใช้จินตราการทั้งหมดและนี่ก็เป็นส่วนสำคัญเพราะการถ่ายทำของละครเรื่องนี้ต้องถ่ายทำในสตูดิโอ นั่งลงไปไม่ทันไร กองถ่ายก็ส่งคนมาแจ้ง “ฉากแคสในวันที่จะมีการใช้สลิงด้วยนะคะ” ไป๋หลันตกใจม่านเวยอิงไม่เคยใช้สลิงมาก่อน เธอรีบหันไปถามหญิงสาวทันที “ม่านม่าน ฉากแคสในวันนี้ต้องใช้สลิง หนูไหวไหม ถ้าไม่ไหวเราจะยกเลิกก็ได้นะ” ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างเล็กน้อย “ได้สิค่ะ ได้เลย ...ฮืม ฉันลองสักหน่อยได้ไหมคะ” เพราะเป็นเรื่องกระทันหัน กองถ่ายจึงอนุญาตให้ม่านเวยอิงฝึกโหนสลิงได้ ไป๋หลันยืนมองม่านเวยอิงข้างบน เด็กคนนี้ เปลี่ยนไปขนาดนี้ เมื่อเตรียมพร้อมม่านเวยอิงก็โดนปล่อยล่องลงมา หญิงสาวปล่อยพลังลมปราณผสานกับแรงดึงของสลิง ทำให้เธอล่องกายลงมาอย่างสวยงามยิ่งเวลาเท้าลงพื้นก็สามารถยืนได้อย่างมั่นคง “สวยงามมากค่ะ ม่านม่านเธอทำได้ดีมาก” ไป๋หลันวิ่งเข้าไปช่วยปลดอุปกรณ์ “ฉากนี้คงไม่มีปัญหาอะไร ใช่ไหมคะ” “ฮืม..พี่คิดว่าโอกาสที่เราจะได้บทนี้มาครองสูงมากค่ะ” ท่วงท่าสีหน้าของม่านเวยอิงเมื่อสักครู่ ทำให้ไป๋หลันมั่นใจมาก สายตาแววตาของนางมารที่พร้อมจะบดขยี้ผู้คนไม่ต่างจากมดปลอก นักแสดงชั้นนำส่วนมากก็สามารถสื่อความหมายได้ ทว่านักแสดงที่สามารถโหนสลิงพร้อมสีหน้าเช่นนั้นมีน้อยคนนัก และหนึ่งในนั้นมีม่านเวยอิงแน่นอน ในสติดิโอ หาได้มีเพียงไป๋หลันที่เห็นฉากเมื่อสักครู่ นักแสดงคู่แข่งก็เห็นไม่ต่างจากไป๋หลัน “พี่...เห็นใช่ไหม” หลีเจียงนางเอกชั้นแนวหน้าที่ฉีกบทบาทมารับบทนางร้ายเอ่ยกระซิบกับผู้จัดการส่วนตัว “ค่ะ คุณหลีจะให้ฉันจัดการไหมคะ” “ไม่จำเป็น” ฉากโหนสลิงอย่างไรเธอก็เสียเปรียบ โอกาสที่คว้าบทนี้ก็ลดน้อยลงไป เช่นนี้เธออยู่เฉยๆ จะดีกว่า คาดว่าการปรับเปลี่ยนใช้ฉากแคส อาจจะเป็นกำลังภายในของ เสวียรุ่ยที่ใช้จุดเด่นของตนเองตัดคู่แข่ง ส่วนเสวียรุ่ย เธอค่อนข้างมั่นใจบทนี้ไม่มีใครจะมาแย่งไปได้ จึงไม่ได้สนใจเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในสตูดิโอ เมื่อถึงเวลา ผู้กำกับให้เสวียรุ่ยแสดงก่อน เพื่อสร้างจุดเปรียบเทียบเพราะเขาเองก็คิดว่าไม่มีใครจะแสดงได้ดีกว่าไปเสวียรุ่ย หากไม่ใช่เพราะนายทุนต้องการให้แคสนักแสดงเขาคงเลือกเสวียรุ่ยไปแล้ว ม่านเวยอิง มองเสวียรุ่ยโหนลงมาอย่างสนอกสนใจ ในใจก็คิด จะวางท่าสวยไปไย นี่นางมารหรือนางเอก แม้ท่าจะออกกรีดกราย สวยงามไปบ้าง ทว่าใบหน้าของเสวียรุ่ยก็แสดงออกถึงความโหดเหี้ยมไร้ความปราณี “ดี ดี” เสียงผู้กำกับเอ่ยชม ใบหน้าของเสวียรุ่ยระบายเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เชิญคุณหลีเจียงค่ะ” หลีเจียงพยักหน้าและตามทีมงานไป ไม่มีท่าทีประหม่า เพราะนางเข้าใจดีสิ่งที่นางต้องแสดงให้ดีคือ สีหน้า น้ำเสียง ฉากโหนสลิงหากทำไม่ดีก็สามารถใช้สแตนอินได้ ท่วงท่าของหลีเจียงไม่งดงามเท่าเสวียรุ่ยดังคาด ทว่าน้ำเสียงตวาดพร้อมสายตาเหี้ยมเกรียมของเธอล้วนมีพลังน่าหวาดกลัว “หากพวกเจ้าอยากตายก็เข้ามา” ทว่าสำหรับม่านเวยอิงกลับไม่รู้เฉกคนอื่น นางไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวของนางมารผู้นี้ กระนั้นเธอก็ได้ยินเสียงผู้กำกับเอ่ยชม “ดี ดี” หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงผู้กำกับอีก เขาเพียงสะบัดมือให้คนอื่นเข้ามา เพราะม่านเวยอิงได้รับการแนะนำตัวเมื่อวานเธอจึงเป็นคิวสุดท้าย ผู้กำกับไม่คาดหวัง แต่ก็ยังตั้งใจดู เมื่อม่านเวยอิงทะยายกายลงมา ผู้กำกับก็เหยียดหลังตรงขึ้น ปลายเท้าของหญิงสาวแตะลงพื้นเบา ๆ นางสะบัดชายเสื้อปลิวท่อสายลม สายตาที่มองจ้องมาก็เหยียดหยันเยาะเย้ย “หากพวกเจ้าอยากตายก็เข้ามา” นางไม่สะบัดกระบี่ชี้ไปทางศัตรู แต่ยกขึ้นมาปาดลูบคมเบา ๆ หางตาตวัดมองมาทั้งยียวนและดูแคลน ผู้กำกับตกตะลึง ใช่แล้วนี่คือนางมารน้อย ที่มีใบหน้าดูไร้เดียงสาอ่อนเยาว์แต่ในแววตากลับดูชั่วร้ายถึงกระดูก นี่สิ แววตาที่ชั่วร้ายถึงกระดูก เขาต้องการเช่นนี้ “เยี่ยม!!” ในเมื่อผู้กำกับตบมือเอ่ยเสียงดังขนาดนั้น ก็เป็นที่ประจักษ์ผู้ใดได้บทนี้ไป ม่ายเวยอิงไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไรนัก เธอมั่นใจอยู่แล้วว่าบทนี้เป็นของเธอ เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปบอกไป๋หลันเรื่องธุระของตนเอง “พี่ฉันขอตัวไปธนาคารก่อนนะ” “ได้ค่ะ ถ้าม่านม่านรีบพี่อาจจะต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพัก” ไป๋หลันตัดสินใจอยู่เพื่อรอทำสัญญาต่อ ม่านเวยอิงจำเป็นต้องไปจัดการเรื่องบัญชีธนาคาร ปกติเธอรับเงินจากไป๋หลันเป็นเงินสดจึงไม่มีปัญหา ก่อนหน้าเธอจะแอฟธนาคาร ปรากฏว่าเธอลืมรหัสผ่าน ในเมื่อมาถึงขั้นนี้เปิดบัญชีใหม่จะดีกว่า ม่านเวยอิงเลือกมาธนาคารที่มีตึกอยู่ติดกับถนน เธอชอบที่เดินเลียบถนนเพราะมีผู้คนมากมายเดินขวักไขว่พอได้เก็บเคสสะสมพลัง ไม่นานเธอก็เห็นธนาคาร เธอได้รับการบริการอย่างรวดเร็ว จัดการธุระเสร็จเรียบร้อยกำลังจะออกไปสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันว่าจะเจอกับก็เกิดขึ้น ปัง!! เสียงปืนและกระจกแตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับเสียงร้องหลงของพนักงานและลูกค้าของธนาคาร “หมอบลงถ้าใครไม่อยากตาย” เสียงเหี้ยมดังขึ้นทำให้เกิดความเงียบสงัดทันที “เก็บเงินใส่ถุงอย่าชักช้า” ม่านเวยอิงนั่งย่อก้มหัวลง พลางชำเลืองมองไปรอบ ๆ ยามรักษาความปลอดภัยถูกยิงนอนอยู่ข้างประตู อาการน่าจะสาหัส แม่คนหนึ่งกอดบุตรสาวแน่นมือของเธอปิดปากไม่ให้ลูกสาวร้องไห้ พวกโจรมีทั้งหมด 5 คน พวกมันปิดหน้าปิดตาไม่รู้ว่าเป็นใคร เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ ไม่ถึง 2 นาที เธอก็ได้ยินเสียงตำรวจ หลายคนในธนาคารคลายอาการเกร็ง บางคนลอบถอนหายใจ คิดว่าตัวเองจะรอด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม