วันต่อมา
@มหาวิทยาลัย
ฟุบ!
ร่างบางของเฌอมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างแรงด้วยท่าทางหงุดหงิดอย่างไม่สบอารมณ์ ทำให้เพื่อนสนิททั้งสองอย่างการันต์และเคลย์ตันต่างหันมามองด้วยความสงสัย
"เป็นอะไร แล้วนี่ทำไมมาคนเดียว ไอ้เทมส์ล่ะ" การันต์ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัยที่เห็นเฌอวามาคนเดียว แถมยังดูท่าทางหงุดหงิดไม่น้อย
"มันตายแล้ว!" เฌอวากระแทกเสียงตอบกลับทันทีอย่างหงุดหงิดที่ได้ยินชื่อของคนที่ทำให้เธออารมณ์เสียแบบนี้
"เชี่ย! อะไรวะ หงุดหงิดอะไรของเธอ" การันต์ถึงกับเผลอร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นอารมณ์เพื่อนดูเกรี้ยวกราดแบบนี้
"ก็ฉันติดต่อเทมส์ไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วอ่ะ ป่านนี้คงตายไปแล้วมั้ง" จะไม่ให้เธอหงุดหงิดได้ยังไง ก็คนที่รับปากว่าถึงแล้วจะบอกเธอ แต่นี่ดันหายไร้ร่องรอยไปตั้งแต่เมื่อวาน ล่าสุดแม้แต่เบอร์โทรก็ไม่สามารถโทรติดต่อหาได้แล้ว
มันน่าหงุดหงิด น่าหงุดหงิดไปหมดทุกอย่าง เธอไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดใครเท่ากับเทมส์มาก่อนเลยจริงๆ ไม่เคยเลย
"มันไปประชุมลับกับพ่อมันที่ต่างประเทศ"
ขวับ!
ใบหน้าสวยรีบหันขวับไปตามเสียงด้วยความรวดเร็ว เมื่อเคลย์ตันที่นั่งอยู่ข้างการันต์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ใคร? เทมส์น่ะเหรอ?" คิ้วสวยขมวดเข้าหากันยุ่งพลางถามกลับอย่างสงสัย ไม่แน่ใจว่าเพื่อนคุยเรื่องเดียวกันกับเธอหรือเปล่า
"อืม" เคลย์ตันขานรับในลำคอสั้นๆ
"ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ"
"แล้วทำไมเธอไม่ถามมัน ตัวติดกันยิ่งกว่าผัวเมียยังจะมาถามคนอื่น" การันต์ว่าให้ เพราะในบรรดาเพื่อนคนที่สนิทและตัวติดกันกับเทมส์ที่สุดก็เห็นจะมีแค่เฌอวาเท่านั้น
"ก็เมื่อวานเทมส์บอกฉันว่ามีธุระกับพ่อ…" เสียงเล็กเอ่ยออกมาคล้ายกำลังพึมพำกับตัวเองอย่างครุ่นคิด
นี่แสดงว่าที่เขาไม่รับสาย ไม่ตอบกลับข้อความของเธอ หรือไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมา เพราะเขายังอยู่ระหว่างการเดินทางยังไม่ถึงที่หมายงั้นเหรอ?
"มันก็บอกแล้วหนิ"
"ใครจะไปคิดล่ะว่าธุระที่ว่ามันจะไม่ใช่ที่ไทย" เขาไม่ได้บอกเธอสักหน่อย บอกแค่ว่ามีธุระกับพ่อและจะค้างที่บ้าน แล้วใครจะไปคิดว่าบ้านและธุระของเขาคือบ้านที่ต่างประเทศกัน ถ้ารู้เธอคงไม่มานั่งหงุดหงิดเขาอยู่แบบนี้หรอก
"เธอก็รู้หนิว่าพ่อกับแม่มันอยู่ที่อังกฤษ" การันต์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
Rrrrrrr~
ไม่ทันที่เฌอวาจะได้พูดอะไรอีก โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือเธอก็มีสายโทรเข้ามา ทำให้ต้องหยุดการสนทนากับเพื่อนไว้แค่นั้นแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นดูทันทีว่าใครโทรมา พอเห็นว่าเป็นสายโทรเข้าจากคนที่ทำให้เธอหงุดหงิดมาตั้งแต่เมื่อวาน ไม่รอช้าจึงรีบกดรับสายทันที
(ถึงแล้วนะ)
เสียงทุ้มจากปลายสายเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเธอกดรับสายแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหู
"เหอะ! ทำไมไม่บอกว่าไปต่างประเทศ" เฌอวากระแทกเสียงตอบกลับอย่างไม่พอใจ
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดฟังดูไม่พอใจของเธอ ทำให้ปลายสายอย่างเทมส์ถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ปกติ
(บอกแล้วนะว่ามีธุระกับพ่อ)
"แต่นายไม่ได้บอกว่าจะไปต่างประเทศ" เสียงเล็กตอบกลับไปด้วยอารมณ์ที่ยังคงรู้สึกหงุดหงิด
(งั้นเหรอ… นึกว่าวารู้ซะอีกว่าครอบครัวเทมส์อยู่ต่างประเทศ)
เฌอวาถึงกับชะงักกับประโยคที่ได้ยิน นี่เธอ… ลืมไปได้ยังไงว่าครอบครัวเขาอยู่ที่ต่างประเทศ
(งั้นแค่นี้นะ เทมส์จะไปทำงานแล้ว)
เทมส์เอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเฌอวาเงียบไปไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
"ดะ…เดี๋ยวสิ!" เสียงทุ้มจากปลายสายดึงสติให้เธอกลับมา รีบลนลานเรียกเขาไว้ก่อนที่อีกคนจะวางสายไป
"แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่"
(อีกหนึ่งอาทิตย์)
"เหรอ… งั้นก็ไปทำงานเถอะ"
(อืม)
เทมส์ขานรับสั้นๆ แล้วกดวางสายไปทันที พอรู้ว่าอีกนานกว่าเขาจะกลับมาก็รู้สึกใจหวิวๆ อย่างบอกไม่ถูก
"ไงล่ะ เมื่อกี้ยังโมโหใส่มันอยู่เลย มันพูดอะไรทำไมทำเธอหงอยเป็นหมาได้ในชั่วพริบตา" การันต์ถามอย่างยียวนเมื่อเห็นเฌอวายกโทรศัพท์มือถือออกจากหู ดูอารมณ์จะแตกต่างจากก่อนหน้านี้นัก
"ฉันแค่ลืมว่าครอบครัวเทมส์อยู่อังกฤษเองนะ" พูดแล้วก็รู้สึกผิดที่เรื่องแบบนี้ดันลืมไปซะสนิทใจ ลืมในเรื่องที่ไม่ควรลืมด้วยซ้ำ
แล้วคำพูดของเขาที่พูดกับเธอเมื่อวานว่าเธอไม่เคยสังเกตเขาเลยก็คงจะจริง แถมยังไปทำมั่นหน้าใส่ว่ารู้จักเขาดีกว่าใคร แต่เรื่องแค่นี่กลับลืมอย่างไม่น่าให้อภัย
"โดนมันโกรธ?"
"แต่เทมส์ไม่เคยโกรธฉัน" รู้จักและสนิทกันมาตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งจนจะจบปีสี่แล้ว เทมส์ไม่เคยโกรธเธอเลย ต่อให้เธอจะทำอะไรผิดอะไร อย่างมากเขาก็แค่เตือน
"แต่ครั้งนี้ดูมันจะโกรธนะ หรือก็คงจะไม่พอใจ"
"แล้วนายจะพูดให้ฉันรู้สึกผิดเพิ่มทำไมเนี่ย!"
การันต์ทำเพียงแค่ไหวไหล่ด้วยท่าทีไม่ได้ทุกร้อนอะไร ต่างจากเฌอวาที่ยังคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงดี แล้วกว่าเทมส์จะกลับมาก็อีกตั้งหนึ่งอาทิตย์ ยิ่งไปทำงานด้วยคงจะติดต่อยากมาก
ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอไม่เคยรู้สึกกระวนกระวายใจและรู้สึกผิดกับเขาแบบนี้มาก่อนเลย
@ประเทศอังกฤษ
หลังจากที่กดวางสายไปเทมส์ก็กดปิดเครื่องมือสื่อสารที่มีทุกชนิดแล้วส่งต่อให้ลูกน้องนำไปเก็บให้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับบิดาผู้บังเกิดเกล้าพร้อมพยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมแล้ว
"แน่ใจนะ" โนอาห์ จ้องมองหน้าลูกชายแล้วถามเพื่อความมั่นใจ
"ครับ" เทมส์ขานรับเสียงเรียบนิ่ง ไม่ต่างจากสีหน้าและแววตาที่ดูไร้ความรู้สึกจนยากจะคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"ถ้าในหัวแกยังคิดเรื่องอื่น การประชุมครั้งนี้จะส่งผลเสียมากแกรู้ใช่ไหม" น้ำเสียงน่าเกรงขามเอ่ยบอกกับลูกชายพร้อมถามย้ำอีกครั้ง
"ผมแยกแยะได้" เทมส์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง
งานก็คืองาน เขาสามารถแยกแยะมันออกจากเรื่องส่วนตัวได้ และไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำให้คนเป็นพ่อผิดหวัง
"ก็ดี" โนอาห์ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ แล้วหมุนตัวเดินนำหน้าลูกชายลงไปที่ชั้นใต้ดินภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลทันที
ร่างสูงของเทมส์เองก็เดินตามไปเงียบๆ โดยที่ด้านหลังนั้นมีลูกน้องฝีมือดีอีกหลายคนตามประกบ เพียงแค่เขาก้าวลงบันไดไปขั้นแรก ประตูทางเข้าที่มองผิวเผินอาจจะแค่ผนังธรรมดาก็ถูกปิดลงทันที พร้อมกับลูกน้องที่เดินตามมาต่างก็แยกย้ายกันออกไปเฝ้ารอบนอกคฤหาสน์แทน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะต้องรับช่วงต่อจากคนเป็นพ่อ กับธุรกิจมากมายที่มีทั้งสีขาวและสีดำ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ในเมื่อตระกูลของเขานั้นเป็นถึงตระกูลมาเฟียเก่าแก่ที่สืบทอดต่อกันมา เขายังต้องปรับตัวอีกหลายอย่าง ไม่เหมือนกับน้องชายฝาแฝดของเขาอย่าง ไทม์ ที่เรียนรู้มาตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก ต่างจากเขาที่รักอิสระและพยายามหลีกเลี่ยงจากการถูกควบคุมมาตลอด แต่สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นให้วนกลับมา