ตอนบทที่แปด ทำของใช้เองที่ไม่มีชื่อ

1222 คำ
ของที่ซื้อมานั้นมีเยอะมากจัดเท่าไรก็ไม่หมดสักที เหงื่อเค็มๆไหลย้อยใส่เสื้ออิงฮวาจนเปียกไปหมด!            ยังดีที่เธอไม่มีกลิ่นตัวไม่งั้นคงเป็นลมเป็นแน่ เหงื่อออกเยอะขนาดนี้หากมีกลิ่นตัวคงไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ อิงฮวาหันไปมองเจ้าลูกหมาทั้งสองที่ช่วยเธอจัดของอยู่ก็พบภาพเจ้าแก้มซาลาเปาน้อยๆที่ขึ้นสีแดงเข้ม กรอบหน้ากลมมีไรเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงไล่ทั้งสองไปอาบสระผมทันที            เจ้าลูกหมาทั้งสองทำตามที่มารดาสั่งแบบว่าง่าย พออาบน้ำกันเสร็จก็ทำท่าจะมาช่วยจัดของต่อ อิงฮวาจึงปฏิเสธแล้วบอกให้ลูกน้อยไปพักผ่อนในห้องรอเธอก่อน หากถึงเวลากินมื้อเย็นแล้วเธอจะไปเรียกเอง             อิงฮวาเดาว่าเด็กๆคงเพลียแน่ๆ ไหนจะเดินทางเที่ยวตลาดแต่เช้าและมาช่วยเธอจัดของอีก                        มหกรรมจัดของภายในบ้านดำเนินการยาวนานไปเกือบหนึ่งชั่วยาม กว่าจะจัดของทั้งหมดเสร็จเล่นเอาอิงฮวาลมแทบจับ            หลังจากที่จัดของเสร็จแล้ว อิงฮวาก็ได้ฤกษ์ทำสบู่ต่อเสียที มือขาวทำการจุดไฟลงเตาเล็กที่ซื้อมา ยกหม้อขึ้นตั้งแล้วตัดไขผึ้งใส่ลงไปในหม้อ พอไขผึ้งเริ่มละลายอิงฮวาก็เริ่มใส่น้ำมันมะกอกแล้วทำการใช้ไม้พายคนส่วนผสมทั้งสองให้เข้ากันทันที เมื่อเห็นส่วนผสมเริ่มได้ที่และส่งกลิ่นหอมน้ำมันมะกอกอ่อนๆทำให้เธอภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง มือขาวค่อยๆเทน้ำดอกเหมยกุ้ย*ที่คั้นไว้ใส่ลงไปแล้วทำการคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง            เมื่อของเหลวในหม้อเริ่มเหนียวข้นตามที่ต้องการเเล้วอิงฮวาจึงจัดการเทส่วนผสมทั้งหมดลงในกระบอกไม้ไผ่ขนาด2ชุ่น**ที่เตรียมไว้ การทำสบู่ในครั้งนี้เธอทำได้มากถึงสิบกระบอกด้วยกันเลยทีเดียว            ที่เธอต้องใช้กระบอกไม้ไผ่เพราะอิงฮวานั้นยังไม่มีเวลาไปสั่งทำแบบพิมพ์สบู่ อิงฮวานั้นต้องการสบู่หอมๆ ไว้ใช้แบบเร็วที่สุด!เธอจึงใช้กระบอกไผ่มาเป็นแม่พิมพ์เพื่อแก้ขัดไปก่อน             ในโลกนี้ชาวบ้านทั่วไปจะอาบน้ำโดยใช้น้ำล้างตัวเพียงอย่างเดียวเพราะสบู่กับพวกยาสระผมมีราคาแพงเป็นอย่างมากจึงทำให้ของเหล่านี้เป็นสินค้าสำหรับพวกชนชั้นสูงหรือราชวงศ์            วันนี้อิงฮวาได้ไปเดินสำรวจตามร้านต่างๆในตลาดมาแล้วจึงเห็นว่าสินค้าเหล่านี้ราคาเป็นเช่นไรและที่สำคัญทำให้เธอเห็นว่ายังไม่มีร้านไหนเลยที่ขายน้ำหอม เธอสังเกตว่ามีเพียงถุงหอมเท่านั้นที่วางขาย หึ หึ หึ นี่แหละช่องทางรวยของเธอ!            อิงฮวาในโลกก่อนนั้นถือเป็นนักธุรกิจสาวมากความสามารถอย่างแท้จริงเพราะครอบครัวของเธอนั้นมีธุรกิจใหญ่โต ทั้งภัตตาคารอาหาร ผลิตภัณฑ์ความงาม โรงพยาบาล รวมถึงพวกสื่อบันเทิงต่างๆ ดังนั้นเธอจึงได้เรียนรู้ในแต่ละด้านเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้ก้าวไปอยู่ในจุดสูงสุดและยิ่งธุรกิจความงามนั้นเธอเองชื่นชอบที่จะศึกษามันเป็นอย่างมากถึงกับลงเรียนต่อ ป.โทในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว            หลังจากทำสบู่จากความรู้ที่ได้เรียนมาก็หันมาทำเครื่องสำอางอื่นต่อ            อิงฮวาจัดการเหลาเปลือกมะพร้าวห้าวโดยทำให้ทั้งเป็นแท่งให้ด้านหนึ่งมีหัวแหลมคมเหมือนดินสอในโลกที่เธอจากมา อิงฮวาทำเก็บไว้หลายๆแท่งเพราะจะเอาไว้ใช้เขียนคิ้ว            ส่วนแป้งทาหน้าในยุคนี้นั้นเป็นก้อนขาวๆ ดังนั้นจึงฉุกคิดขึ้นมาว่าน่าจะลองเอามาทำเป็นบลัชออนดูโดยใช้ถ้วยที่มีฝาปิดที่ซื้อมาเป็นที่เก็บ            อิงฮวาจัดการตำแป้งขาว3ก้อนเล็กให้เนียนละเอียดก่อนเทใส่ถ้วยเเล้วเทน้ำสีแดงจากดอกเหมยกุ้ยลงไป มือขาวคนส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวหนืดเหมือนแป้งขนมปังจากนั้นนั้นก็ทำการเคาะถ้วยบนโต๊ะสามครั้งเป็นการเกลี่ยหน้าแป้งเป็นอันเสร็จในเรื่องของบลัชออนแค่ลองให้มันแข็งตัวเพียงเท่านั้น            พอทำบลัชออนเสร็จก็เริ่มทำลิปโดยใช้ไขผึ้งและน้ำเหมยกุ้ยต่อ นับว่าดอกเหมยกุ้ยที่ซื้อมาสองมัดนั้นหมดลงไปอย่างรวดเร็วแทบไม่เหลือไว้ให้ใส่ในแจกันเลยทีเดียว            หลังจากจัดการสิ่งต่างๆทำของใช้เองเสร็จสิ้น อิงฮวาก็ไปอาบน้ำทันที วันนี้นั้นยังไม่สามารถใช้สบู่ได้เพราะต้องรอให้มันแข็งตัวเสียก่อน             อิงฮวาจัดการปาดมะกรูดป่าสามลูกที่เก็บมาเพื่อจะนำไปสระผม ถึงไม่ได้อาบน้ำด้วยสบู่ก็ขอสระผมหน่อยก็ยังดีละนะ!             มื้อเย็นในวันนี้เป็นเหลาอาหารที่ซื้อมาจากในเมือง เป็ดอบน้ำผึ้ง หมูผัดเปรี้ยวหวานและไก่ตุ๋นยาจีนกินคู่กับขาวสวยร้อนๆนั้นทำให้ทั้งสามคนแม่ลูกเติมข้าวถึงสองรอบเลยทีเดียว             "ท่านแม่นี่คืออะไรขอรับหอมจังเลย" เสี่ยวฉินที่เดินผ่านห้องโถงและได้กลิ่นหอมๆจึงเอ่ยทักขึ้น            "นี่เขาเรียกสบู่ลูก ต่อไปเราจะใช้เจ้านี่ในการอาบน้ำนะ"             "สบู่!!/สบู่!!" เด็กๆทั้งสองตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะ อาตง เคยนำมาให้พวกเขาดู มันหอมสุดๆไปเลย!             อีกทั้งอาตงยังเคยนำเจ้าสบู่มาถูมือเล่นให้พวกเขาดูหนึ่งครั้งแต่กลับโดนป้าลี่หลินตีจนร้องไห้จ้าเสียงดัง             ป้าลี่หลินบอกอาตงว่าไม่ควรนำสบู่มาเล่นเพราะนี่เป็นของที่เจ้านายให้มาจะเอามาใช้เวลาออกงานเท่านั้นและเจ้าสบู่นี้มันยังแพงเอามากเสียด้วยๆ            "มันแพงไม่ใช่เหรอขอรับ" เสี่ยวฉินเงยหน้าขึ้นมองมารดาอย่างสงสัยเมื่อนึกถึงอาตงที่โดนป้าลี่หลินตี พวกเราจะได้ใช้สบู่จริงเหรอ?            "ไม่แพงหรอกลูก สบู่นี่แม่ทำเองรับรองหอมเหมือนสบู่ในเมืองเลย! ต่อไปนี้เราจะใช้มันอาบน้ำทุกวัน พรุ่งนี้ก็น่าจะได้ใช้แล้วเดี๋ยวแม่จะใช้อาบน้ำให้พวกเจ้าก่อนเลย" อิงฮวาลูบหัวเจ้าลูกหมาทั้งสองที่ทำตาเป็นประกายวิบวับก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างนึกเอ็นดู            'มารดาพวกเขาเก่งที่สุด!' เสี่ยวเฉิงกับเสี่ยวฉินคิดในใจและยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเพราะจะได้ใช้สบู่หอมๆอาบน้ำ            สงสัยต้องไปอวดอาตงบ้างแล้วล่ะว่าบ้านเขาก็มีสบู่เหมือนกันแถมมารดายังเป็นคนทำมันขึ้นมาเสียอีกต่างหาก!! *ดอกเหมยกุ้ย = ดอกกุหลาบ **1ชุ่น = 3.33 เซนติเมตร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม