บทที่หนึ่ง ก่อนทะลุมิติ
'ลี่อิงฮวา' สาวสวยวัยกลางคนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'ผู้หญิงแสนเพอร์เฟค' ที่สุดในแวดวงธุรกิจในตอนนี้กำลังกลุ้มใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอผ่านการแต่งงานมาแล้วด้วยกันถึง 3 ครั้ง และในทุกครั้งสามีทุกคนล้วนตายหมด!!
สามีคนแรกนั้นตายด้วยโรคมะเร็งหลังจากที่แต่งงานกันได้เพียงสองเดือน
สามีคนที่สองตายโดยถูกศัตรูทางธุรกิจลอบลงมือทำร้ายทั้งที่เพิ่งเข้าหอกับเธอได้เพียงคืนเดียว
ยิ่งคนสุดท้ายยังไม่ทันเข้าหอก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตายคาที่ จนสุดท้ายก็มีข่าวลือว่าเธอเป็นคนกินผัว*
หากถามว่าเธอเสียใจไหมสามารถตอบเลยว่าไม่ เพราะการแต่งงานแต่ละครั้งนั้นล้วนเป็นการแต่งงานทางธุรกิจที่ฝ่ายมารดาและบิดาเธอจัดหาให้เพียงเท่านั้น
จะมีก็แค่สามีคนแรกที่อิงฮวาพอจะมีความรู้สึกดีๆให้อยู่บ้างเพราะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนานถึงสองเดือนหากอีกฝ่ายไปตายไปเสียก่อนเธอคงรักเขาจนหมดใจเป็นแน่
ส่วนสามีอีกสองคนที่เหลือนับว่าเป็นการแต่งแบบฉาบฉวยเพื่อธุรกิจเท่านั้นจึงไม่มีความรู้สึกเศร้าเสียใจใดใด
การที่เธอยอมแต่งงานใหม่นั้นไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลทางธุรกิจเพียงอย่างเดียวแต่เพื่อต้องการสานฝันในใจลึกๆของเธอเองด้วย
ความฝันเธอคือการมีลูกน้อยน่ารักๆ ที่คอยเรียกเธอว่า คุณแม่อย่างนู้น คุณแม่อย่างนี้ กับเขาบ้าง
แต่ให้เดาได้เลยว่าหลังจากเจ้าบ่าวคนที่สามของเธอตายลงไปคงไม่มีใครใจกล้ามาแต่งกับเธออีกแน่นอน..
วันนี้หลังจากเสร็จธุระเรื่องตกลงค้าขายแล้วเธอจึงขับรถมาที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านการขอพรให้สมปรารถนาเป็นอย่างมาก
อิงฮวาจอดรถลงไว้ตรงจุดจอดก่อนจะมองขึ้นไปยังบันไดทางขึ้นของวัดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
เธอเดาได้เลยว่าบันไดคงมีไม่ต่ำกว่า400กว่าขั้นแน่ๆ!
เมื่อคิดได้ว่ารองเท้าที่ใส่มาคงไม่เหมาะกับการเดินขึ้นไปเธอจึงเปิดหลังรถแล้วหยิบรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่เก่งขึ้นมาเปลี่ยนแทนรองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่ ก่อนที่จะพาร่างเพรียวบางเหมือนนางแบบเดินขึ้นไปยังที่หมายด้วยจิตใจอันแรงกล้า
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการขึ้น(ปีน)บันไดแบบหฤโหดมาแล้วในที่สุดก็ถึงที่หมายเสียที
ลมเย็นๆพัดโชยกระทบเข้ากับใบหน้าขาวนวลประกอบเข้ากับ เสียงร้อง 'จิ๊บๆ' ของนกกระจิบที่ดังแว่วมาเป็นช่วงๆผ่านสายสายลมนั้นก็ทำให้อิงฮวารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง
"แปลกจัง" ลี่อิงฮวาพึมพำกับตัวเองแบบเบาๆเมื่อกวาดสายตามองแล้วดูยังไงๆบนวัดแห่งนี้ก็มีเธอแค่คนเดียวที่มา
ไหนรีวิวในเน็ตบอกว่าเป็นที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมไง แล้วทำไมถึงไม่เห็นคนอื่นนอกจากเธอกัน?
"ช่างเถอะ ไหนๆ ก็มาแล้วลองดูก็ไม่เสียหาย" เมื่อคิดได้ดังนั้นอิงฮวาจึงเลิกคิดฟุ้งซ่านก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องหนึ่งที่เปิดกว้างทิ้งไว้
โดยห้องที่เธอกำลังเดินเข้าไปนี้น่าจะเป็นห้องขอพร เพราะในห้องนั้นมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีเหลืองอร่ามตั้งอยู่พร้อมกับรูปปูนปั้นของเทพเจ้ารวมถึงปูนปั้นเทพเซียนต่างๆอีกมากมายล้อมรอบ
"นี่รวมทุกศาสนาเข้าไว้ด้วยกันเลยรึเปล่าเนี่ย?" อิงฮวามองวัตถุโบราณปูนปั้นมากมายแบบมึนงง ก่อนจะเลิกสนใจแล้วเดินไปจุดธูปทำการสักการะพระพุทธรูปตรงกลางห้องตามที่แผ่นป้ายบอกแทน
'หากวัดแห่งนี้สามารถบันดาลความปรารถนาให้เป็นจริงได้ดังข่าวลือ ได้โปรดขอให้ข้าพเจ้าลี่อิงฮวาคนนี้มีชีวิตที่สงบสุขและมีลูกน้อยเป็นของตนเองด้วยเถิดเจ้าค่ะ'
วูบ~
จู่ๆก็มีสายลมเย็นพัดผ่านกระทบเข้ากับผิวกายเหมือนกับตอบรับคำขอเธอแบบบางเบาก่อนที่สายลมนั้นจะแปรเปลี่ยนพัดแรงขึ้นเรื่อยๆจนอิงฮวารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกเผลอกระชับเสื้อคลุมแน่นแล้วรีบเดินออกมาเตรียมตัวกลับเพราะทนไม่ไหวในความรู้สึกแปลกๆที่เริ่มก่อขึ้นในจิตใจ
"เดี๋ยวก่อนโยม" เสียงเรียกขึ้นทำให้อิงฮวาตกใจก่อนหันไปมองก็พบกับหลวงจีนที่ห่มจีวรสีขาวหม่นยืนถือเม็ดประคำอยู่ด้านหลัง
'เอ๊ะ หลวงจีนมาจากไหน?' อิงฮวาคิดในใจ
อิงฮวาที่เห็นท่าไม่ดีที่จู่ๆก็มีหลวงจีนโผล่เข้ามาจึงรีบหนีเดินออกมา
จะไม่ให้เธอหนีไม่ได้อย่างไรเพราะหลวงจีนท่านนี้จู่ก้เดินมาจากด้านหลังเธอน่ะสิ!! ทั้งๆที่ในตอนแรกวัดแห่งนี้ดูไม่มีใครเลยด้วยซ้ำ
อีกทั้ง หากหลวงจีนเป็นคนจริงก็ต้องมีเงาไม่ใช่หรือ? แต่นี่อะไรหลวงจีนคนนี้กลับไม่มีเงาน่ะสิเธอจึงต้องหนีนี่ไง!!
"หากอยากให้ความปรารถนาเป็นจริง ก่อนลงบันไดอย่าลืมเคาะระฆังที่ราวจับสามครั้งล่ะ"
แต่เสียงที่ดังตามมานั้นทำให้ต้องเธอชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับไปมองหลวงจีนอีกทีแต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า..
'เอาวะไหนๆก็มาแล้วไม่ลองไม่รู้!' อิงฮวาคิดในใจ
เธอคิดว่าไหนๆก็มาแล้วทำอะไรก็ควรทำให้มันสุดๆไปเลย ดังนั้นเธอจึงเคาะละระฆังสามครั้งตามที่หลวงจีนคนนั้นแนะนำก่อนจะเดินลงบันไดไปส่วนในใจก็ได้แต่สาธุแบบเงียบๆ..
แต่เมื่ออิงฮวาเดินลงบันไดมาได้เพียงขั้นที่สามเธอกลับสะดุดเชือกรองเท้าตนเอง....
!!!
แขนเรียวรีบจับรั้งราวเหล็กด้านข้างไว้เพื่อพยุงตัวเอง แต่ราวจับนั้นกลับลื่นราวกับว่ามีคนมาทาน้ำมันไว้อย่างไงอย่างงั้น..และนั่นมันจึงทำให้ร่างของอิงฮวาถลากลิ้งหลุนๆลงไปยังชั้นล่างสุด
แต่ที่น่าแปลกใจคือขณะที่อิงฮวากลิ้งตกลงมานั้นเธอกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าที่คิด แต่การโดนกลิ้งหลุนๆลงมานั้นมากกว่าที่ทำให้เธอรู้สึกมึนหัวเป็นอย่างมาก
ลี่อิงฮวาพยายามฝืนสายตาแต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนที่สติเธอจะดับวูบลงก็ได้ยินเสียงดังขึ้นว่า 'สัมฤทธิผล' ตามมา
*เมียกินผัว หมายถึง หญิงสาวที่อยู่กินกับฝ่ายชายทำให้ชีวิตอีกฝ่ายย่ำแย่หนักสุดถึงขึ้นเสียชีวิต