บทที่เก้า เริ่มแผนธุรกิจ

2385 คำ
ยามเหม่า(05.00 – 06.59 น.) ในวันนี้อิงฮวาทำข้าวต้มหมูสับใส่เห็ดหอมแบบง่ายๆ เนื้อหมูที่ซื้อมาเมื่อวานยังคงดีอยู่แต่ไม่สดเท่าเมื่อวาน ยังดีที่อากาศไม่ร้อนเพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ             คนในโลกนี้นิยมเก็บของสดไว้โดยการนำมันมาใส่ในหลุมใต้ดินเพื่อถนอมอาหารจำพวกเนื้อสดไว้เลยทำให้มันยังไม่เน่าเสีย            อิงฮวาคิดว่าเธอจะต้องหาวิธีการเก็บของสดให้ได้ดีกว่านี้ก่อนที่ฤดูร้อนจะเข้ามาเยือน            'ใช่แล้วลองทำตู้เย็นดีไหมนะ?' ไหนๆธุรกิจที่เธอจะทำก็ต้องใช้น้ำแข็งเป็นตัวช่วยนี่! อืมมม สงสัยต้องไปหาวัตถุดิบในการจัดทำซะแล้ว อิงฮวาคิดในใจก่อนจะนึกถึงสิ่งที่ต้องจัดเตรียมไว้ในหัวเลยไม่ทันสังเกตเห็นเจ้าลูกหมาทั้งสองที่ยืนเกาะประตูห้องครัวอยู่            "ท่านแม่ยิ้มอะไรน่ะพี่ใหญ่?"            "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน...เราเข้าไปหาท่านแม่กันเถอะ" เสี่ยวเฉิงตอบน้องเล็กก่อนจะเดินเข้าไปหามารดาที่อยู่ในครัว            "ท่านแม่ขอรับหอมจังเลย" เสี่ยวเฉิงเดินไปเกาะขามารดาอย่างออดอ้อน            "ตื่นกันแล้วรึ? มาๆแม่จะสอนพวกเจ้าแปรงฟัน"             "แปรงฟัน?" เสี่ยวฉินถามอย่างสงสัยโดยมีเสี่ยวเฉิงพยักหน้าหงึกอย่างเห็นด้วย            แปรงฟันคืออันใดกัน? ทำไมพวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย?            อิงฮวายิ้มเอ็นดูเด็กทั้งสองก่อนจะอธิบายแบบใจเย็นว่าแปรงฟันคือการขัดฟันให้ขาวสะอาดแถมยังช่วยลดกลิ่นปากอีกด้วย เด็กทั้งสองเมื่อได้ฟังดังนั้นก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่            สามแม่ลูกเดินไปยังห้องน้ำ โดยมีอิงฮวาที่สาธิตการแปรงฟันให้เด็กๆดู เธอแจกก้านหลิวให้เด็กน้อยคนละแท่งก่อนจะใช้ฟันกัดให้ปลายฝั่งที่ตนนำแช่น้ำทิ้งเมื่อวานเกิดเป็นเส้นใยขึ้นมาพร้อมอธิบายสิ่งต่างๆ            "เวลาจะแปรงฟันพวกเจ้าต้องเอาปลายฝั่งใดฝั่งหนึ่งของก้านหลิวนี้ไปแช่น้ำทิ้งไว้สักหนึ่งคืนก่อนถึงจะนำมาใช้แปรงได้"            "วิธีการใช้คือกัดปลายฝั่งที่แช่น้ำให้เกิดเป็นเส้นใยขึ้นมาแบบนี้...ลองทำดู"            เด็กทั้งสองทำตามแบบว่าง่ายฟันเล็กๆขบกัดปลายก้านหลิวอย่างนึกสนุกก่อนจะหยุดเมื่อเห็นว่าปลายมันมีเส้นใยขึ้นมาแล้ว             อิงฮวามองภาพสองพี่น้องด้วยความรักใคร่...ช่างเหมือนเจ้าลูกหมาตัวน้อยวัยเข็ดฟันซะเหลือเกินลูกแม่!             "แล้วอย่างไรต่อขอรับท่านแม่" เสี่ยวเฉิงเอ่ยถามมารดาทำให้เธอหลุดจากภวังค์            "พอมันฟูเห็นเส้นใยแบบนี้แล้วพวกลูกก็นำมาจิ้มอันนี้เพียงเล็กน้อยแบบนี้...จากนั้นก็เริ่มนำปลายมาขัดเบาๆแบบนี้แล้วคายมันออกมา ระวังอย่าเผลอกลืนผงเหล่านี้เชียวนะ" อิงฮวาให้ลูกจิ้มยาสีฟันที่เธอทำเองขึ้นมา ยาสีฟันนี้ทำมาจากถ่านตำละเอียดผสมขี้เถ้าและเกลือเล็กน้อยสรรพคุณจะช่วยทำให้ฟันขาวและไม่มีกลิ่นปาก            เด็กๆทั้งสองเมื่อเห็นมารดาขัดฟันให้ดูเป็นตัวอย่างก็มองและทำตามอย่างเคร่งครัด สามแม่ลูกถูฟันกันไปมาสักพักและทำการคายสิ่งดำๆที่เรียกว่าผงขัดฟันทิ้งและปิดท้ายด้วยการบ้วนปากตามมารดา            หลังจากบ้วนปากเสร็จทั้งสองก็รับรู้ถึงความแตกต่างเป็นอย่างมากลิ้นน้อยๆไล่เลียไปตามซอกฟันเมื่อรู้สึกถึงความสะอาดก็ยกยิ้มขึ้นแบบถูกใจ มารดาของพวกเขานั้นเก่งที่สุด!            "ฮ่าาาาาาา ฮุ่วววว! พี่ใหญ่เหม็นหรือไม่? " เสี่ยวฉินตัวแสบเป่าลมหายใจใส่หน้าพี่ใหญ่            เสี่ยวเฉิงมุ่ยหน้าลงเมื่อโดนกระทำแบบอุกอาจ            "ไม่เหม็น แต่น้ำลายเจ้าเต็มหน้าพี่หมดแล้วน้องเล็ก"            อิงฮวาหัวเราะลั่นอย่างชอบใจปนขบขัน เจ้าลูกหมาทั้งสองคนนี้ช่างทำให้เธอมีความสุขจริงๆ            "ฮ่าๆ เอาหล่ะๆเสี่ยวฉินอย่าไปแกล้งพี่ใหญ่สิลูก ทั้งสองฟังแม่นะ ต่อไปนี้ทั้งสองต้องแปรงฟันตอนตื่นนอนเเละก่อนนอกทุกวัน ส่วนไม้นี้เมื่อใช้ครบเจ็ดวันแล้วค่อยเปลี่ยนใช้อันใหม่เข้าใจหรือไม่?"            "ขอรับ/ขอรับ"             "ป่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยววันนี้เราจะไปบ้านลุงผู้ใหญ่กัน"            "ไปทำไมหรือขอรับ?" เสี่ยวฉินถามด้วยความสงสัย            "ไปหาคนงานมาปลูกโม่ลี่ฮวา*กับเหมยกุ้ยจ้ะ"            "ดอกเหมยกุ้ย!!/ดอกโม่ลี่ฮวา!!" เด็กทั้งสองตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ที่บ้านจะมีดอกไม้มาประดับ เพราะดอกไม้พวกนั้นมันแพงมากๆ ทั้งสองสังเกตเห็นราคาที่มารดาจ่ายเงินซื้อดอกเหมยกุ้ยกำเล็กๆเมื่อวานตั้ง 2 ตำลึงเงิน!            ในหมู่บ้านนี้มีแค่ท่านตาผู้ใหญ่ฟู่หานเท่านั้นที่มีต้นดอกโม่ลี่ฮวาปลูกอยู่แถมมันยังส่งกลิ่นหอมไปทั่ว เด็กๆในหมู่บ้านรวมถึงพวกเขาชอบไปแอบดูอยู่เป็นประจำท่านตาฟู่หานนั้นหวงต้นโม่ลี่ฮวาแบบสุดๆไปเลย            แต่ถึงท่านตาจะหวงท่านก็เคยใจดีเด็ดดอกมันมาลอยน้ำให้พวกเขาและเด็กคนอื่นดื่มชิมด้วยนะ น้ำที่ดื่มไปหอมสดชื่นสุดๆ หากเขามีมันจะสามารถนำมาลอยน้ำดื่มทุกวันได้ไหมนะ?ทั้งสองคิดในใจ            "ใช่แล้วเด็กดี มากินข้าวเถิดแล้วเราจะไปซื้อดอกไม้กันต่อด้วย" อิงฮวาลูบหัวทั้งสองก่อนจะเดินนำไปยังห้องครัว            ในคราแรกอิงฮวากะว่าจะไปบ้านผู้ใหญ่บ้านก่อนแล้วค่อยเข้าเมือง แต่ดูเวลาแล้วน่าจะไม่ทันเกวียนเข้าเมืองของลุงต้าฟงอิงฮวาจึงตัดสินใจเข้าเมืองก่อนเพื่อไปซื้อดอกไม้และค่อยไปบ้านผู้ใหญ่บ้านทีหลัง วันนี้เธอพกเงินมาถึง 20 ตำลึงทองเลยทีเดียว            พอเกวียนรับจ้างเดินทางมาถึงตลาดในเมือง สามคนแม่ลูกก็จูงมือกันไปยังร้านดอกไม้ร้านใหญ่ในเมืองทันที            ดอกไม้สวยงามนานาชนิดส่งกลิ่นหอมตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินเข้ามาในร้านทำเอาเด็กๆทั้งสองหลับตาพริ้มสูดดมกลิ่นอย่างชื่นชอบ มือป้อมๆนั้นแกว่งแขวนมารดาไปมาน้อยๆแบบสุขใจ            ภาพโฉมสะคราญในอาภรณ์สีฟ้าอ่อนชั้นดี ยืนยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มทั้งสองข้างแก้ม ฟันขาวเรียงสวยตัดกับริมฝีปากชมพูอ่อน ทำเอา 'เจิ้งไจ้เสวี่ย' ใจกระตุกตกอยู่ในภวังค์ แต่เเล้วก็มีเสียงดังขึ้นมาขัดอารมณ์ เขาเหลือบมองต่ำลงไปก็พบเด็กแฝดสองคนจับมือนางอยู่...            "สวยมากเลยขอรับท่านแม่" เสี่ยวเฉิงเอ่ยกับมารดาแบบตื่นเต้นที่เห็นดอกไม้มากมายอีกทั้งยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆออกมา เขาชอบมันมากๆ!            "ใช่ขอรับ สวยมากเลย!" แฝดคนน้องเอ่ยขึ้นตามอย่างเป็นลูกคู่ให้กับแฝดพี่ หัวกลมๆพยักหน้าหงึกๆแบบเห็นด้วย            "หากลูกชอบต้นไหนก็ซื้อได้เลยนะ แต่มีข้อแม้ว่าพวกเจ้าต้องเป็นคนดูแลมันเองนะ"            "ขอรับ/ขอรับ" ทั้งสองตอบกลับแบบดีใจ ในแววตามีประกายวิบวับเต็มไปหมดก่อนจะเดินไปหาดอกไม้ที่ตนชื่นชอบชอบ             "เอ่อแม่นาง...ไม่ทราบว่าท่านต้องการดอกอะไรหรือ?" เสียงบุรุษนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นมาด้านข้างทำเอาอิงฮวาสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง            ไอ้หยา หลงจู๊ร้านนี้หล่อเหลาเอาการเหมือนคุณชายในจวนใหญ่ชะมัด! เธอคิดในใจ            "เอ่อ...ข้าต้องการต้นกล้าโม่ลี่ฮวาและดอกเหมยกุ้ย อย่างละ25 ต้นเจ้าค่ะ"            "ได้เลย ต้นกล้าพวกนี้ราคาต้นละสองตำลึงเงินไม่ทราบว่าคนในจวนแม่นางจะมารับของหรือให้ทางร้านเราไปส่ง" เจิ้งไจ้เสวี่ยแอบลอบถามโฉมสะคราญตรงหน้าว่ามีคนในจวนนางมาด้วยหรือไม่ หากไม่มีเขาจะได้ถือโอกาสไปส่งของเพื่อตัดสินใจในบางสิ่ง            "เดี๋ยวข้าจะจ้างเกวียนมาขนเองเจ้าค่ะหลงจู๊ "            "จ้างเกวียนอย่างนั้นหรือ? งั้นไม่ต้องหรอกแม่นาง เจ้าซื้อของร้านข้าเยอะแยะเดี๋ยวข้าจะให้คนนำไปส่งให้รบกวนแจ้งที่ต้องไปส่งด้วยเถิด"            อิงฮวาขบคิดในใจ 'อืมม คนตรงหน้าเธอไม่เป็นลมล้มพับแสดงว่าเธอสามารถไว้ใจเขาได้สินะ? พรที่ขอต้องสำแดงฤทธิ์เป็นแน่หากใครคิดร้ายกับเธอแต่หลงจู๊คนนี้ยังคุยกับเธอแบบปกติ'            ดังนั้นอิงฮวาจึงวางใจให้หลงจู๊ไปส่งของที่บ้านตนโดยการแจ้งที่อยู่เสร็จสรรพ            "งั้นข้าขอรับน้ำใจไว้นะเจ้าคะ ขอบคุณหลงจู๊มากเจ้าค่ะ" อิงฮวายิ้มให้หลงจู๊เล็กน้อย            เจิ้งไจ้เสวี่ยตอนนี้ถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง นางงามมากจริงๆ มองไกลๆว่างามแล้วพอมองใกล้กลับงามยิ่งกว่า อกด้านซ้ายชายหนุ่มรู้สึกคันยุบยิบในใจนี่เขาเป็นอะไรกัน?            เวลาต่อมาสามแม่ลูกที่จัดการเลือกซื้อดอกไม้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริ่มหิว ทั้งสามแวะกินมื้อกลางวันที่ร้านบะหมี่แห่งหนึ่งในตลาด ก่อนกลับเด็กๆทั้งสองไม่ลืมที่จะออดอ้อนเธอให้ซื้อน้ำตาลปั้นให้คนละไม้แถมยังใจดีขออีกไม้ไปฝากอาตงเพื่อนตนอีกต่างหาก            ยามเว่ย (13.00 – 14.59 น.)หลงจู๊ได้นำคนมาส่งดอกไม้แล้ว ดอกที่ซื้อมาจะมีต้นกล้าเหมยกุ้ยและโม่ลี่ฮวาอย่าละ25ต้น เสี่ยวฉินเลือกฝูหลงฮวา**สองต้น ส่วนเสี่ยวเฉิงเลือกจวี๋ฮวา***กลับไปปลูกสองต้นเช่นกัน อิงฮวานั้นเลือกฮูเตี๋ยฮวา**** มาเพิ่มอีก20ต้น เธอกะว่าจะนำมันมาประดับบริเวณประตูทางเข้าบ้านข้างนอกให้ดูสวยงาม สรุปวันนี้เสียเงินไปทั้งหมดเกือบ 14 ตำลึงทองเลยทีเดียว            ขณะเดียวกันชาวบ้านที่เห็นเกวียนขนเหล่าต้นกล้าดอกไม้ไปยังบ้านเมิ่งนั้นบางคนก็มองแบบเฉยๆส่วนบางคนก็มองด้วยความอิจฉาเพราะดอกไม้นั่นแต่ละต้นถือราคาสูงพอสมควรแถมบ้านเมิ่งนั้นกลับซื้อมาเสียเต็มเกวียน..           ‘เหอะสามีนางหรืออยู่ชายแดนเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่รู้ในขณะที่ตัวนางขนเงินเก็บมาใช้สบายใจเฉิบซื้อของฟุ่มเฟือย อาไท่คุณช่างน่าสงสารเสียจริงๆหากกลับมาคงได้กินแต่น้ำแกงใสของข้าวเป็นแน่!!’ชาวบ้านขี้อิจฉาต่างพากันต่อว่าอิงฮวาในใจ            อิงฮวาเองรับรู้ถึงสายตาของชาวบ้านที่มองมาแต่ทำเป็นไม่สนใจ เธอวานให้คนงานที่นำดอกไม้มาส่งช่วยขนเหล่าต้นกล้าลงมาวางไว้ในบริเวณบ้าน เมื่อขนของเสร็จอิงฮวาจ่ายค่าสินน้ำใจให้คนงาน คนละ30อีแปะ ซึ่งนั่นทำให้คนงานเหล่านั้นดีใจเป็นอย่างมากเพราะ30อีแปะนั้นเป็นเงินจ้างในหนึ่งวันของยุคนี้เลยทีเดียว            เมื่อเหล่าดอกไม้มาส่งเสร็จเรียบร้อยจึงทั้งสามจึงออกเดินทางไปยังบ้านผู้ใหญ่ต่อโดยที่เด็กทั้งสองขอแยกตัวเอาน้ำตาลปั้นที่ซื้อมากับถังหูลู่ที่เหลือเมื่อวานไปฝากอาตง            "อ่าวอาอิงมีอะไรหรือ” ฟู่หานที่ยืนรดน้ำต้นโม่ลี่ฮวาเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกบ้านที่ไม่ค่อยได้เจอมาหาที่บ้าน            "ข้ามีเรื่องรบกวนหน่อยเจ้าค่ะลุงฟู่"            "มาๆ ดีเหมือนกันข้ามีเรื่องจะแจ้งพวกลูกบ้านพอดี นี่พึ่งสั่งอาหยางให้ไปป่าวประกาศแก่ลูกบ้านให้มารวมตัวกันที่ลานหมู่บ้านเมื่อกี้นี้เอง"             "เรื่องอันใดรึเจ้าคะ"            "เรื่องดีเชียวล่ะ ฮ่าๆ ไว้รอฟังพร้อมกันเถิด รอสัก1เค่อ คนอื่นก็น่าจะมากันครบแล้ว"            "เจ้าค่ะ" อิงฮวาเองก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อและเริ่มคุยธุระของตนทันที อิงฮวาขอให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยหาคนงานมาลงแปลงปลูกดอกไม้ให้เธอ 70 ต้นพร้อมขุดร่องน้ำตามแบบที่เธอต้องการ โดยจะให้ค่าแรงคนละ30อีแปะต่อหนึ่งวัน อีกทั้งยังขอให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยแจ้งลูกบ้านที่ขึ้นป่าหาสัตว์ว่าหากใครเจอขี้ค้างคาวให้เก็บมาและให้นำมาขายให้เธอ            โดยเธอจะให้ราคากระสอบละ50อีแปะ ฟู่หานเองเมื่อได้ยินคำขอของลูกบ้านก็ตกลงว่าจะจัดการให้ แต่ในใจก็อดสงสัยเรื่องขี้ค้างคาวไม่ได้ว่านางจะเอามันมาทำอันใดถึงได้ให้ราคาสูงเพียงนี้...            "ได้ๆข้าจะจัดการให้ คนงานสัก5คนน่าจะพอดี"            "ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะท่านลุงฟู่ นี่ถือว่าเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยๆจากข้านะเจ้าคะ" อิงฮวามอบซาลาเปาไส้เนื้อที่ซื้อมาจากตลาดห้าลูกให้ฟู่หานตามด้วยเงินอีก20อีแปะ ซึ่งตอนแรกเขาปฏิเสธแต่เธอก็ยืนยันว่าให้รับไว้จนได้            "เจ้านี่จริงๆเลยอาอิง บอกว่าไม่เอาก็รั้นยิ่งนัก"            "ท่านช่วยเป็นธุระให้ข้าก็ย่อมได้สิ่งตอบแทนสิเจ้าคะท่านลุงฟู่" อิงฮวายิ้มตอบกลับฟู่หาน             อืม..เรื่องเตรียมวัตถุดิบในการทำธุรกิจของเธอนั้นเกือบครบหมดแล้วเหลือเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น            เส้นทางเป็นเศรษฐีอยู่ไม่ไกลจากเธอแล้ว! หวังว่ามันจะผ่านไปด้วยดีนะ....ท่านตาเทพคะเอาใจช่วงอิงอิงด้วยนะ *โม่ลี่ฮวาดอกมะลิ **ฝูหลงฮวาดอกชบา ***จวี๋ฮวาดอกเบญจมาศ ****ฮูเตี๋ยฮวาดอกผีเสื้อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม