บทที่ ๖ เธอยังอยู่ในสายตาฉัน(๓)

1183 คำ
ข้าวของพิมาลามีไม่เยอะนัก หลังจากเชษฐ์เดินทางกลับหญิงสาวก็เข้าห้องไปเก็บของใช้ใส่กระเป๋าแล้วลากออกมา ป้าวาดมองแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจด้วยความเวทนากับชะตาชีวิตของเจ้านาย เมื่อก่อนเป็นภรรยาคุณเชษฐ์ วันนี้หย่ากันยังต้องย้ายออกจากบ้านนี้เพราะอดีตสามีมาขอคืน ดูเหมือนชีวิตของพิมาลาจะเจอความลำบากไม่จบไม่สิ้นจริงๆ เห็นสีหน้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยนั้น พิมาลาก็ได้แต่คลี่ยิ้ม “อย่าห่วงเลยนะคะ เพียงไม่เป็นไรหรอกค่ะ ต่อให้ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ เพียงก็ต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้” วาดบีบมือบางนุ่มเบาๆ “แล้วคุณเพียงจะไปอยู่ที่ไหนคะ ถ้าหากไม่รังเกียจไปอยู่บ้านป้าไหมคะ” พิมาลาส่ายหน้า “ขอบคุณนะคะ แต่เพียงไม่อยากรบกวนป้าจริงๆ เพียงเกรงใจค่ะ เพียงว่าจะถือโอกาสนี้เดินทางท่องเที่ยวสักหน่อย บางทีอาจจะเจอที่ดีๆ ก็ได้นะคะ” “แล้วคืนนี้จะไปพักที่ไหนละคะ” หญิงสาวมองไปรอบๆ “คงเป็นโรงแรมเล็กๆ แถวนี้แหละค่ะ แต่เรื่องนี้ป้าวาดอย่าเพิ่งบอกคุณป้ามนนะคะ เพียงไม่อยากให้ท่านเป็นกังวล” “โธ่...ยังมีแต่ใจห่วงคุณผู้หญิงท่านอีก” “ก็คุณป้ามนกับคุณลุงดีกับเพียงมากนี่คะ” “ถึงแม้ว่าลูกชายร้ายกาจกับคุณเพียงใช่ไหมคะ” พิมาลายิ้มกว้าง รู้สึกดีอย่างไรไม่รู้ เพราะอย่างน้อยๆ ก็ยังมีคนเห็นว่าคุณเชษฐ์ร้ายกาจกับเธอแค่ไหน หญิงสาวกล่าวลาป้าวาดอยู่สักพักถึงได้ลากกระเป๋าเดินทางออกมา แต่พอเดินผ่านรั้วบ้านกลับต้องชะงักเมื่อใครบางคนตรงมาหาพร้อมกับอาหารกลางวันอีกหลายกล่อง “เพียงจะไปไหน?” คนถูกถามรีบซ่อนแววตาหม่นเศร้าเอาไว้ก่อนจะบอกยิ้มๆ “เพียงถูกไล่ออกจากบ้านน่ะริ กำลังจะไปหาที่พักแถวๆ นี้ ว่าแต่ริพอจะรู้จักที่พักดีๆ ปลอดภัยแล้วก็ราคาเป็นกันเองบ้างไหม” เธอถามด้วยสีหน้าแววตาสดใส ราวกับว่าการไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งนั้นเป็นเรื่องทั่วๆ ไป สุริยะเก็บแววตาเห็นใจเอาไว้ แล้วแย่งกระเป๋ามาถือไว้ซะเอง “ไม่เป็นไร เพียงถือได้” “หิ้วอาหารกลางวันแทนริหน่อย” คุณหมอริยัดถุงมื้อกลางวันให้ หลังจากนั้นก็พาเธอเดินลากกระเป๋าไปเรื่อยๆ พอมาถึงหน้าบ้านของตัวเองชายหนุ่มก็มองคนเดินข้างๆ ด้วยท่าทีจริงจัง “เพียง อยากอยู่กับริไหม” “ริ!” พิมาลาเบิกตากว้างมองคนเอ่ยปากชวนอย่างคาดไม่ถึง กำลังจะส่ายหน้าปฏิเสธ คุณหมอก็รีบชี้ไปยังเรือนหลังเล็กสีขาวที่ตั้งอยู่ท้ายหาดส่วนตัวซะก่อน “ที่นั่นคือ?” “บ้านหลังนั้น ริสร้างไว้สำหรับพักผ่อนน่ะ อยู่ห่างจากบ้านใหญ่ที่ริพักพอสมควร แต่รับรองว่าปลอดภัย ไม่มีใครมายุ่มย่ามแถวนี้หรอก” “แต่ว่า...” “อย่างน้อยๆ ก็พักสักสองสามวันก็ได้ คิดดูดีๆ ค่อยตัดสินใจ ตอนนี้ริจะพาเพียงไปดูบ้านก่อน แต่ว่าต้องทำความสะอาดนิดหน่อยนะ เพราะริไม่ค่อยมีเวลาจัดการสักเท่าไร” พิมาลาเดินตามเขาด้วยความอึดอัดใจอยู่บ้าง กระทั่งสุริยะหันมาแล้วยิ้มกว้างๆ ให้ “เราเป็นเพื่อนกันนะ อย่าคิดมากเลย” คำว่า เพื่อน ที่คุณหมอเอ่ยออกมาทำเอาพิมาลาเม้มปากสั่นเทาเอาไว้แน่น พอเห็นคุณหมอยิ้มกว้างเธอก็ได้แต่กลืนทุกความรู้สึกลงคอ เหลือแค่เพียงรอยยิ้มขอบคุณเท่านั้น บ้านหลังเล็กสีขาวที่มีระเบียงทอดยาวลงไปในทะเล ทำให้พิมาลารู้สึกผ่อนคลายมากทีเดียว เสียงคลื่น กลิ่นทะเล ยังคงช่วยขับไล่ความเจ็บปวดของเธอให้บรรเทาเบาบางลงเสมอ “กินข้าวก่อนเถอะ ช่วงบ่ายริไม่ต้องเข้าเวร เดี๋ยวริทำความสะอาดบ้านให้” “อย่าเลย” พิมาลาเกรงใจเขา “เดี๋ยวเพียงทำเอง หยุดทั้งทีริน่าจะได้พักผ่อนนอนสบายๆ อยู่ที่บ้านมากกว่า” “พูดอะไรแบบนั้น เพียงไม่รู้หรือว่าการได้ทำงานบ้านมันก็เป็นการพักผ่อนแบบหนึ่ง อีกอย่างช่วยกันสองคนก็เสร็จเร็วขึ้นไม่ใช่หรือ หลังจากนั้นตอนค่ำๆ เราก็ฉลองกัน เป็นการต้อนรับเพียงมาอยู่บ้านนี้ไง” พิมาลายิ้มให้ แล้วลงมือกินมื้อเที่ยงที่แสนเรียบง่ายด้วยกัน เธอกับคุณหมอนั่งอยู่บนระเบียงที่ทอดยาวลงไปในทะเล ตรงหน้ามีกับข้าวสองสามอย่าง กินไป ชมทะเลไป ทำให้อาหารรสชาติดีอยู่แล้วอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีก หลังกินข้าวก็เดินย่อยอาหารกันสักพักถึงได้ช่วยกันลงมือทำความสะอาด บ้านไม้สีขาวมีหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่นกับหนึ่งห้องน้ำ ช่วยกันคนละไม้ละมือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็แล้วเสร็จ พอทำความสะอาดแล้วคุณหมอกับพิมาลาก็นอนเล่นกันอยู่บริเวณชายหาด ดวงตาสองคู่มองท้องฟ้าสีคราม ชื่นชมท้องฟ้าในยามบ่าย แสงของมันทำให้คุณหมอต้องขยับมือบดบังแสงให้คนข้างๆ พิมาลาดันมือของเขาออก “ริไม่ต้องดูแลเพียงขนาดนี้ก็ได้” “ไม่เป็นไร ริเต็มใจ” “เดี๋ยวก็เมื่อยหรอก” พิมาลาว่าพลางจ้องมองมือสะอาดของเขา “มือของริคู่นี้คงรักษาคนป่วยมามากเลยนะ” “อืม ริดีใจนะที่มือของริมีประโยชน์ขนาดนี้” หญิงสาวรีบดึงมือของเขาลง “เวลาพักผ่อน ริก็ให้มือของริพักบ้างเถอะ” สุริยะหัวเราะ ยอมเก็บมือกลับอย่างว่าง่าย ปล่อยให้แสงแดดไล้เลียผิวพรรณอยู่สักพัก เสียงทุ้มห้าวก็ดังขึ้น “เพียงอยากเล่นน้ำด้วยกันไหม” “ริอยากเล่นน้ำหรือ” “อืม จำได้ว่าหลายปีมานี้ไม่เคยลงเล่นน้ำทะเลเลย มากสุดก็แค่เดินให้คลื่นซัดจนเท้าเปียกเท่านั้น” “แล้วทำไมไม่ลงเล่นล่ะ” คุณหมอทอดสายตาไปไกล “ก็อยู่คนเดียว ถ้าจะลงเล่นคนเดียวอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้” พิมาลาคิดตามเขา “อืมก็น่าสนุกดีนะ” “ถ้าอย่างนั้นเล่นน้ำกันเถอะ” คุณหมอสุริยะลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาหา “มาสิ ไปเล่นน้ำกัน” “ตอนนี้?” “ตอนนี้แหละ” “แต่เพียงไม่ได้เปลี่ยนชุด ไม่ได้ทาครีมกันแดด ไม่ได้...” ยังไม่ทันที่พิมาลาจะพูดจบ เธอก็ถูกคุณหมอริดึงลงทะเลไปแหวกว่ายอยู่ด้วยกันซะแล้ว แรกๆ หญิงสาวไม่เต็มใจอยู่บ้าง ทว่าพอถูกเขาวิดน้ำใส่ก็ได้แต่ตอบโต้เอาคืน ดังนั้นการได้เล่นน้ำกับคุณหมอจึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ระเบิดความอึดอัดในโพรงอกทิ้งจนหมด ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก ทั้งหัวเราะ ทั้งยิ้มกว้าง ลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่รู้เลยว่า ภาพของเธอเหล่านั้นถูกส่งไปถึงใครบางคนแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม