แม้ทีมโปรเจกต์จะทำงานกันจนคืบหน้าไปมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไมสีหน้ากับแววตาของท่านประธานอย่างเชษฐ์ นามวรพันธ์ ถึงได้ยังคร่ำเครียดจนใครๆ ต่างก็เข้าหน้าไม่ติด แม้แต่เลขาฯ คนสนิทก็ยังต้องระมัดระวังคำพูดกับการกระทำ
เชษฐ์ปิดแฟ้มสุดท้ายที่เพิ่งลงนามด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“ช่วงบ่ายมีอะไรสำคัญอีกหรือเปล่า”
ธงชัยก้มหน้ารายงาน “ช่วงบ่ายไม่มีแล้วครับ คุณเชษฐ์จะมีประชุมอีกทีก็ห้าโมงเช้าของวันพรุ่งนี้”
“อืม”
ท่านประธานพยักหน้าแล้วเริ่มลงมือเก็บของกลับ
“ฉันจะไปดูบ้านที่หัวหินสักหน่อย”
“สถานที่ที่คุณเชษฐ์จะทำโปรเจกต์ใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นผม...”
“ไม่ต้อง ฉันจะไปกับนายปราบ เอาไว้ครั้งหน้านายค่อยพาทีมงานไปดูสถานที่จริงก็แล้วกัน”
“ได้ครับถ้าอย่างนั้นผมเรียกปราบให้นะครับ”
เชษฐ์พยักหน้ารับแต่พอเลขาฯ อย่างธงชัยเดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มก็ได้แต่มองนิ้วมือข้างซ้ายที่ว่างเปล่าของตัวเองด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก ถึงแม้ที่ผ่านมาเขากับพิมาลาจะต่างคนต่างอยู่ แต่เรื่องให้เกียรติกันก็ยังทำเสมอต้นเสมอปลาย เขาสวมแหวนแต่งงานไม่เคยถอด จนกระทั่งวันหย่าถึงได้เก็บมันใส่ลิ้นชักเอาไว้ วันนี้เขาต้องเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น บางทีอาจบังเอิญพบกันจึงทำให้อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
ลงมาถึงด้านล่างคนขับรถซึ่งควบหน้าที่บอดี้การ์ดอย่างปราบก็ขับรถมารอรับเรียบร้อยแล้ว
“ไปหัวหินเลยนะครับคุณเชษฐ์”
“อืม” คนเป็นนายเอ่ยแค่นั้น ปราบก็ขับรถไปอย่างระมัดระวัง แต่กว่าจะมาถึงจุดหมายพระอาทิตย์ก็ใกล้ตกดินแล้ว ปราบได้แต่จอดรถอยู่หน้าบ้านพักหลังเล็ก แต่กลับกินพื้นที่บริเวณกว้างขวาง ดูเหมือนจะครอบครองหน้าชายหาดที่กว้างที่สุดอีกด้วย
เชษฐ์ปรายตามองเข้าไปข้างในบ้านที่ชั้นล่างสว่างไสวด้วยไฟหลายสิบดวง แต่บนบ้านกลับเปิดแค่ไฟบนระเบียงเท่านั้น ชายหนุ่มจ้องมองอยู่สักพักถึงได้ขยับมือนวดปลายคางครึ้มเขียวที่เริ่มมีหนวดทิ่มตำมือ
“ปราบ นายว่าที่นี่เหมาะจะทำโรงแรมในเครือของเราไหม”
“คุณเชษฐ์จะขยายสาขามาที่นี่หรือครับ”
“อืม ถึงยังไงก็ดีกว่าปล่อยทิ้งเอาไว้”
ปราบกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย เพราะรู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบางของเจ้านายเป็นอย่างดี “แต่ว่าบ้านหลังนี้คุณผู้หญิงเพิ่งยกให้คุณเพียงไปนะครับ”
มุมปากของเชษฐ์โค้งขึ้น “แล้วยังไง นายคิดว่าฉันเอาสิ่งที่เป็นของฉันคืนมาไม่ได้เช่นนั้นหรือ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณเชษฐ์จะเข้าไปเลยไหมครับ”
ท่านประธานกำลังพยักหน้า แต่สายตากลับสะดุดอยู่กับร่างของชายหนุ่มกับหญิงสาวที่กำลังเดินเล่นอยู่บริเวณชายหาด ท่าทางของคนทั้งคู่ทำให้คิ้วสีเข้มเหนือดวงตาคมกริบนั้นขมวดเป็นปม
ปราบเงียบ การเห็นอดีตภรรยาเจ้านายเดินเคียงข้างกับชายหนุ่มหน้าตาดี มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สมควรเห็น
เชษฐ์จ้องด้วยดวงตาเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ “ไปสืบเรื่องผู้ชายคนนั้นมาให้ละเอียด”
ปราบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่ต้องให้ผู้เป็นนายแจกแจงรายละเอียดเขาก็พอจะรู้ว่าควรสืบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนเป็นลำดับแรก
“ได้ครับ”
รับปากแค่นั้นก็เคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านพักตากอากาศทันที แต่ปราบก็อดคิดไม่ได้ ก่อนหน้านี้เจ้านายของเขายังสามารถนอนค้างอ้างแรมในบ้านเดียวกันกับคุณเพียงอยู่เลย แต่พอหย่ากันจะกลับไปทำแบบนั้นคงเป็นไปไม่ได้อีก คิดแล้วก็สงสัย คุณเชษฐ์ไม่รักคุณเพียงเลยสักนิดหรือ ไม่รักแล้วทำไมไม่หย่าตั้งแต่แรก ไม่รักแล้วทำไมไม่มองหาผู้หญิงคนอื่น นับตั้งแต่แต่งงานกัน คุณเชษฐ์ของเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย กระทั่งวันนั้นแหละ นึกแล้วปราบก็ได้แต่ทอดถอนใจทิ้งแรงๆ
นับตั้งแต่ก้าวเข้าห้องพัก ดูเหมือนความสนใจเรื่องธุรกิจของเชษฐ์จะถูกทำลายลงด้วยภาพสนิทสนมของคนที่บ้านพักตากอากาศ ยิ่งนึกถึงสีหน้าก็ยิ่งคร่ำเคร่งขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจึงขอยาแก้ปวดหัวจากทางโรงแรมกินให้หลับไป
ปราบขึ้นมาปลุกเจ้านายในเช้าของอีกวัน ในมือมีเอกสารที่ได้จากการให้ลูกน้องไปสืบเรื่องราวที่ผู้เป็นนายอยากรู้ เพียงเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของท่านประธาน บอดี้การ์ดวัยสามสิบเจ็ดปีก็ได้ต่อมองอย่างเป็นกังวล
“เอาเอกสารมาเถอะ” เชษฐ์คลึงขมับแล้วจิบกาแฟไล่ความง่วง ขณะที่มือยังคงเปิดเอกสารด้านใน ซึ่งแนบภาพถ่ายของผู้ชายคนนั้นมาด้วย
“คนที่อยู่กับคุณเพียงเมื่อวานชื่อ สุริยะครับ เป็นนายแพทย์ในโรงพยาบาล แล้วก็เป็นเจ้าของบ้านพักที่อยู่ติดกัน”
เชษฐ์กวาดตาอ่านเอกสารแล้วยกยิ้ม “เป็นหมอใจดี รักษาให้ชาวบ้านฟรีๆ ด้วยอย่างนั้นหรือ”
“ครับ คนแถวนี้ล้วนรู้จักกับคุณหมอริเป็นอย่างดี”
“แล้วเรื่องในครอบครัวล่ะ”
“อยู่คนเดียวครับ คนของเราบอกว่าพ่อแม่แล้วก็ภรรยาเสียชีวิตด้วยเหตุเรือล่ม”
ถ้าหากว่าอีกฝ่ายยังมีครอบครัว สีหน้าของเชษฐ์ก็คงดูผ่อนคลายมากกว่านี้ แต่ผู้หญิงที่เพิ่งหย่าสามีกับผู้ชายที่เมียตายจาก อยู่บ้านติดกันมันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเลยสักนิด
“แล้วทำไม สองคนนี้ถึงอยู่ด้วยกันได้”
ปราบกลืนน้ำลายก่อนตอบด้วยเสียงแผ่วเบา “เห็นคนแถวนั้นบอกว่า ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันครับ ช่วงนี้ไปมาหาสู่กันบ่อยมาก มีรายงานมาด้วยว่า คุณหมอริเป็นแพทย์เจ้าของไข้ที่รักษาคุณเพียงเมื่อปลายเดือนก่อน วันที่...คุณเพียงเข้าโรงพยาบาล”
คำบอกกล่าวจากปราบทำเอาสีหน้ากับแววตาของเชษฐ์เคร่งขรึมขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่าวันนั้นร่างกายของพิมาลาอ่อนแอแค่ไหน เพราะตอนกลับถึงบ้านเขายังถูกคนเป็นแม่คาดโทษอยู่เลย
“เตรียมตัวเถอะ” เอ่ยปากด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ยังไงฉันก็ต้องเข้าไปคุยกับพิมาลาเรื่องบ้านอยู่ดี”
“ได้ครับ” ปราบรีบร้อนหมุนตัวจากไป ทิ้งให้ผู้เป็นนายได้แต่หันมาสนใจกับประวัติส่วนตัวของคุณหมอในมือ ก่อนจะเหยียดยิ้มออกมาเล็กน้อย ปกติเขาไม่เคยเห็นพิมาลามีเพื่อนชายหญิงเลยสักคน ไม่คิดว่าหลังหย่ากันไม่ถึงสองเดือนก็มีเพื่อนผู้ชายซะแล้ว แถมท่าทางยังดูสนิทสนมกันเกินกว่าคำว่าเพื่อนไปไกลมากอีก