“จะทำอะไรณิ”
“เมื่อเมียมันพยศก็ต้องขี่ให้มันสงบ”
แควก!
กระชากชุดแซกสีชมพูอ่อนของจากคอให้ขาดถึงเนินออก ไม่สนว่าเธอจะดิ้นรนขัดขืน เมื่อตอนนี้ความโกรธของเขามันทะลุควันออกหูไปแล้ว อยากให้เขาต้องรุนแรงก็ไม่บอก เมื่อพูดดีๆ ไม่เข้าใจ เมื่อรักดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้เป็นแบบนี้ได้ เมื่อไม่เห็นค่าความรักที่มีให้ก็ไม่สนใจอะไรแล้ว ตอนนี้ขอตักตวงความสุขและสั่งสอนให้สาสมใจหน่อยเถอะ
“ปล่อยนะ กรี๊ดดด ปล่อยณินะพะ...พี่...อื้อ! อือ!”
ปากหนาประกบปากเล็กแทบจะทันที เขาไม่อาจทนเสียงเล็กแสบแก้วหูของฌาณิการ์ได้อีกแล้ว เรียวลิ้นร้อนจาบจ้วงล่วงลึกเข้าไปในโพรงปากเล็ก สอดแทรกชอนไชไปตามไรฟันอย่างเอาแต่ใจ
“โอ้ย! ”
เป็นต้องร้องเมื่อคนตัวเล็กกัดลิ้นเขา จนต้องผละออกมาจากร่างเล็ก แล้วในจังหวะนั้นเองฌาณิการ์พลิกร่างตะเกียกตะกายหนี แต่ก็ไปไม่พ้นเมื่อมือใหญ่กระชากผมยาวสวยของเธอจากทางด้านหลังไว้
“โอ๊ย! ปล่อยนะณิเจ็บ”
เอี้ยวหน้ามามองคนตัวโตด้วยความโกรธแค้น อยากขยับอยากดิ้นหนีก็ไม่ได้ เมื่อถูกกระชากผมอยู่แบบนี้ มือเล็กยันร่างให้แอ่นไปตามแรงดึงของบุรุษแข็งแรงจากทางด้านหลัง
“ฮึ! ทีอย่างงี้อ้อนวอน เจ็บแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก” พร้อมกับกระตุกมือตัวเองให้เธอรู้สึกเจ็บหนังหัว และมันก็ได้ผล
“โอ๊ย! ก็บอกว่าเจ็บไงเว้ย!...” ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บ น้ำตาคลอเบ้า ปากอิ่มกัดปากตัวเองไว้แน่นเมื่อต้องฝืนทนความเจ็บในครั้งนี้
เขาแลบลิ้นออกมาข้างนอกแล้วเอามือข้างที่ว่างมาแตะปลายลิ้นตัวเองดู ว่าสิ่งที่ตนสงสัยนั้นเป็นจริงไหม และมันก็จริงเมื่อสีแดงเปื้อนติดมือเขา
“บ้าฉิบ! เลือด....”
“เฮอะ! เลือดชั่วไง” ยิ้มเยาะด้วยความสะใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองทำให้เขาเลือดออกได้
“อย่าลำพองตัวไปเลยน้องณิ อย่าคิดว่าพี่จะดีเหมือนที่เห็น คนเราทุกคนย่อมมีด้านมืดเสมอ”
ว่าแล้วก็คืบคลานขึ้นไปคร่อมทับร่างเล็กแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือที่ดึงผมออก ส่วนมือที่ว่างก็บีบคางเล็กให้เอี้ยวหน้ามาทางตนแล้วจับบังคับให้แหงนเงยขึ้นมาสบตาคมกล้าของตน เมื่อเห็นดวงตาสวยเต็มไปด้วยน้ำตาปริ่มจะล้นออกมาหัวใจแกร่งก็กระตุกวูบไปชั่วขณะ แต่ก็ต้องปรับให้กลับมาเป็นสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนเดิม ในเวลานี้เขาไม่ควรจะใจอ่อนกับม้าพยศอย่างฌาณิการ์