‘ไม่อยากได้เงิน หรือว่าหมอนี่คิดการใหญ่ อยากได้บ้านได้รถ บ้าเอ๊ย! กะปอกลอกฉันเพื่อสร้างตัวเลยรึไงวะ นี่มันขู่กรรโชกกันชัดๆ’ หัวคิ้วเธอขมวดเข้าหากัน ประหนึ่งกำลังคร่ำเครียดอย่างหนัก
“ทำหน้าแบบนี้ คิดว่าผมโลภอยากได้มากกว่าเงินสินะ” เขาถามพลางใช้สองนิ้วคลึงเบาๆ ที่หัวคิ้วเธอก่อนพูดต่อ
“ฮ่าๆๆ ผมก็โลภจริงๆ นั่นแหละ เพราะผมไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากได้อย่างอื่นมากกว่า”
“อะไร” เธอกัดฟันถาม ทั้งที่ในใจก็ตั้งธงคำตอบเอาไว้แล้ว
“คุณไง”
“เพื่อนเล่นเหรอ” เธอสวนกลับด้วยสีหน้าถมึงทึงทันควัน
“ตั้งแต่เจอกันวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยเห็นคุณเป็นเพื่อนเลยสักที” เขาก้มลงไปกระซิบข้างหูอย่างหยอกเอิน แต่คนถูกหยอกกลับจ้องเขาตาขวาง
“อย่ามาลามปาม ฉันไม่ตลกด้วย อยากได้เท่าไรก็ว่ามา จะได้จบๆ กันสักที”
“ก็บอกแล้วว่าอยากได้คุณ ไม่ได้อยากได้เงิน เงินน่ะผมมีเยอะแล้ว อยากได้คนมาช่วยใช้มากกว่า” คนที่ยังคร่อมอยู่บนตัวเธอว่าพลางใช้นิ้วเกี่ยวเส้นผมเธอมาพันนิ้วเล่น แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้มีอารมณ์อยากเล่นด้วย
“ก็ถ้ามันเยอะขนาดนั้น ไม่ไปหาคนที่เขาเต็มใจอยากช่วยนายใช้เล่า หน้าตาก็ดี แถมยังมีเงินในกระเป๋า คงมีผู้หญิงมากมายอยากช่วยนายใช้ จะมาเสียเวลากับคนที่ไม่เต็มใจอย่างฉันทำไม”
“ก็เพราะมันเร้าใจกว่าไง อะไรที่มันได้มายากๆ ผมยิ่งอยากได้” ไม่พูดเปล่า แต่เขายังจับเส้นผมของเธอขึ้นมาดมพลางอย่างย่ามใจ
“โรคจิต แต่จิตๆ แบบนี้ก็ดูน่าสนใจดี นี่ถ้านายบอกฉันตั้งแต่แรกว่าบ้านนายรวย เรื่องมันก็คงไม่วุ่นวายขนาดนี้หรอก อืม...ดูๆ ไปนายนี่ก็หล่อไม่เบาเหมือนกันนะ ทั้งหล่อทั้งโพรไฟล์ดีขนาดนี้ บางทีถ้าได้ลองกินเด็กดูสักทีก็น่าจะไม่เลว โดยเฉพาะเด็กที่กระเป๋าหนักๆ แบบนี้ อาจช่วยให้ฉันกินอิ่มไปอีกนาน ว่าไหม” เธอฉวยโอกาสออกแรงผลักโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมเขาเอาไว้เสียเอง มิหนำซ้ำยังทำท่าคุกคามด้วยการโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ จนเป็นเขาที่เป็นฝ่ายต้องเบี่ยงหน้าหลบด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“จะทำอะไร” น้ำเสียงเขาเข้มขึ้น อีกทั้งสีหน้ายังเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งขึงขัง
“กินนายไง” เธอว่าพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ด้วยท่าทางก๋ากั่น
“ไหนทีแรกบอกไม่สนใจ” น้ำเสียงเขาห้วนจัด
“ก็ทีแรกนายไม่ได้บอกว่ารวยนี่ อีกอย่างถึงตอนนี้ที่ฉันสนใจก็ยังไม่ใช่นาย แต่เป็นเงินในกระเป๋าของนายต่างหาก นี่ถ้าบอกตั้งแต่แรกว่าอยากหาคนช่วยใช้เงิน ฉันก็คงไม่ต้องเล่นตัวให้เสียเวลา”
“แน่ใจนะ” คำถามนี้ทำเอาคนที่เคยปากเก่งถึงกับชะงักพลางหรี่ตามองอย่างกำลังหยั่งเชิง ก่อนจะตอบออกไปเสียงสูง
“แน่สิ” สิ้นเสียงคนที่ถูกคร่อมพลันตวัดแขนรั้งตัวเธอให้เป็นฝ่ายลงมานอนอยู่ข้างล่าง ทำเอาคนไม่ทันตั้งตัวทำหน้าตาตื่น
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ จะทำบ้าอะไรเนี่ย” เธอแหวเสียงเขียวพร้อมกับพยายามดิ้นรนขัดขืน ใช่ เธอกำลังตกใจระคนแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา ก่อนจะกลายเป็นหวาดผวา เมื่อได้เห็นรายนั้นค่อยๆ แสยะยิ้มออกมา
“ก็ทำตัวให้น่ากิน ให้คุณกินได้ง่ายๆ ไง” คนอยากถูกกินทำตากรุ้มกริ่ม ราวกับจะกลืนกินเธอเองเสียมากกว่า
“ออกไปให้พ้นเลย ฉันไม่กินของแสลงอย่างนาย” เธอพยายามผลักไสเขา ด้วยแน่ใจว่าตัวเองเสียรู้คนเจ้าเล่ห์เข้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้กำแพงมนุษย์สะทกสะท้านแต่อย่างใด
“แล้วเมื่อกี้ใครนะที่บอกว่าอยากกินผม อยากใช้เงินของผม เฮ้อ! ให้ตายสิ คุณทำให้ผมอยากพิสูจน์ใจจะขาด ว่าจริงๆ แล้วผมต่างหากที่น่าสนใจมากกว่าเงินนั่น” เขาว่าพลางไล้ปลายนิ้วไปที่ลาดไหล่ขาวเนียน
“ฉะ...ฉันก็แค่ล้อนายเล่น นายก็อย่าใส่ใจนักสิ”
“ไม่ใส่ใจไม่ได้หรอก ในเมื่อไอ้นี่ของผมมันไม่ได้เล่นด้วย แต่มันเอาจริง” เห็นเขาก้มมองกลางลำตัว เธอจึงมองตามด้วยความลืมตัว
“อี๋ ไอ้บ้า ไอ้ลามก แกมันทุเรศ ออกไปให้พ้นเลยนะ” เจติยาหลับตาพร้อมทั้งทุบทั้งผลักเขาเป็นพัลวัน ก็ไม่รู้ว่าผ้าขนหนูที่เขานุ่งเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่มันหลุดออกไปตอนไหน ถึงได้ปล่อยให้อะไรๆ ผงกผงาดประกาศศักดาอย่างหน้าไม่อายอยู่ตอนนี้
“ข้อดีของการกินเด็กคืออะไรรู้ไหม” เขาถามพร้อมกับตรึงแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้เหนือหัว ทำเอาคนที่ถูกจำกัดอิสรภาพแทบกระดุกกระดิกไม่ได้ ทำได้แค่จ้องตอบกลับไปราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ จนเขาต้องเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นเอง
“เพราะเด็กจูนติดง่าย แล้วก็มีพละกำลังเหลือล้น โดยเฉพาะเด็กอย่างผมที่พร้อมรบกับคุณได้ทั้งคืนโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดูสิ นี่ขนาดคุณนอนเฉยๆ ยังทำให้ผมอยาก...พลีกายถวายเรือนร่างให้คุณกินใจจะขาด พร้อมขนาดนี้ถ้ายังไม่ยอมกิน ผมจะเป็นฝ่ายกินคุณแทนแล้วนะ” เสียงเขากระเส่า อีกทั้งยังจงใจกดสะโพกให้ความแข็งขึงเสียดสีไปที่ต้นขาเธอ ขณะที่ใบหน้าก็ค่อยๆ โน้มลงมาหา
“ไอ้บ้า ถอยไปสิ อย่ามาทำรุ่มร่ามนะ ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สองแน่” เธอเบี่ยงหน้าหลบขณะพยายามจะดิ้นรนขัดขืน แต่ด้วยรูปร่างอีกทั้งพละกำลังที่ต่างกันลิบลับ แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้ผู้ชายตัวโตๆ อย่างเขาสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องห่วง ผมเองก็ไม่ยอมให้มันจบแค่สองครั้งหรอก” สิ้นเสียงเขาก็ก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากอวบอิ่มแผ่วๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมาพูดต่อ
“และผมจะทำให้คุณแน่ใจว่า จริงๆ แล้วคุณไม่ได้สนใจเงินมากไปกว่าตัวผม แต่ไม่ว่ายังไง จากนี้ไปมันจะเป็นของคุณ ไม่ว่าเงินหรือว่า...ตัวผม” นทีไม่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้แย้งใดๆ เมื่อเขาก้มลงมาปิดปากที่ชอบต่อล้อต่อเถียงของเธอ ครั้นจะให้ต่อต้านขัดขืน สัมผัสวาบหวามที่ซ่านไปทุกอณูก็ทำเอาร่างกายเธอราวกับไร้เรี่ยวแรง สัมผัสที่บางครั้งก็อ่อนโยน บางครั้งก็เร่าร้อนรุนแรงจนเธอแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ นี่ไม่ใช่ตัวเธอ เธอไม่มีทางยอมพลีกายให้ผู้ชายเชยชมเหมือนผู้หญิงใจง่ายแบบนี้แน่ๆ
‘ยา? มันต้องเป็นเพราะยาแน่ๆ เจ แกต้องตั้งสติแล้วก็หยุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป’ ใจเธอบอกว่าหยุด แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายกลับตรงกันข้าม ยิ่งอีกฝ่ายทำประหนึ่งว่าเธอเป็นขนมหวานที่ละเลียดชิมได้ไม่รู้เบื่อ เธอก็ยิ่งโอนอ่อนเผลอไผล ปล่อยให้อีกฝ่ายสอดส่งเรียวลิ้นรุกล้ำเกี่ยวกระหวัดรัดพัน จนเธอเคลิบเคลิ้มหลงระเริงไปกับความวาบหวามนั้น กระทั่ง...