“พูดจาอบอุ่นจังฮันนี่ งั้นเดี๋ยวเจสเข้าไปเตรียมร้านแล้วก็ชงกาแฟมาให้ด้วยนะคะ”
“เมนูเดิม อย่าลืมใส่ดอกเกลือนะครับ สติๆ” เขาเอานิ้วเคาะหัวตัวเอง แต่เป็นการเตือนสติเจสซี่
เจสซี่ทำมือโอเค จากนั้นก็เดินเข้าร้านไป ซึ่งมองจากด้านในก็จะเห็นโต๊ะที่ทั้งสองอยู่ในสายตาตลอด จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย
“ป้อก๋า เดาะม้าย” น้องไข่มุกวางช้อนลงในชาม แล้วยกขาทั้งสองข้างขั้นมาบนเก้าอี้ อวดดอกไม้บนรองเท้า “ผึ้งต่อยมุ มุย้องไห้” น้องไข่มุกชวนคุยไปเรื่อย และทำหน้าเหยเหมือนเจ็บปวดจริงๆ
“ผึ้งต่อยหนูเหรอครับ พ่อจะตีผึ้งให้ ดีไหมครับ นี่แน่ะๆ” เอเดรียนเอานิ้วชี้ใหญ่ๆ แปะลงไปที่ผึ้งที่ติดกาวไว้บนดอกไม้ที่หัวรองเท้า ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะมาเล่นอะไรแบบนี้ก็ได้ด้วย
“ม่ายๆ ฉงฉาน” น้องไข่มุกถีบแข้งถีบขาไม่ให้เอเดรียนตีผึ้ง แล้วจู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ เอเดรียนถึงกับงง เอาใจยากจริง! เขารีบขยับเก้าอี้ไปชิดกลัวลูกจะตก เด็กน้อยโผกอดคอเขา กลิ่นแป้งเด็กที่เขาคุ้นเคยกรุ่นเข้ามาในจมูก
“แม่ไปไหนครับ”
“แม่ก๋าทามงาน ไกมาก ไกฉุดๆ” น้องไข่มุกตอบฉะฉาน พลางจับแว่นกันแดดที่เหน็บบนกระเป๋าเสื้อเขา จากนั้นก็นั่งลงแล้วไถตัวลงจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว วิ่งปรู๊ดเข้าไปในร้าน
เอเดรียนมองตาม ยิ้มละมุนไปถึงดวงตา “ช่างพูดเหมือนแม่จริงๆ”
เขาลุกขึ้นจะเดินตามเข้าไป เด็กน้อยก็วิ่งออกมา ในมือมีถุงพลาสติก น้องไข่มุกสอดตัวเข้ามาตรงหว่างขาเขาทำท่าจะปีนขา เขาจึงอุ้มขึ้นมานั่งตัก แกรื้อของข้างในถุงออกมาทีละชิ้น เป็นแว่นกันแดดของเด็ก กรอบเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ
“แว่นของมุ ฉวย” น้องไข่มุกเอาแว่นสีแดงมาเสียบหู แต่หน้าเด็กน้อยเล็กมาก แว่นจึงใหญ่เกินไป
“แว่นของลูกสวยจริงๆ ด้วย แต่แว่นของลูกมันหลวมนะครับ ใส่แล้วหลุด” เอเดรียนหยิบแว่นทีละอันมากาง วัดดูว่าอันไหนเล็กที่สุด เลือกมาได้สามอันเขาก็ลองสวมให้ลูก จนกระทั่งได้อันที่พอดี
“อันนี้ดีกว่า ลูกใส่อันนี้สวยที่สุดเลย” เขายกนิ้วโป้งให้ลูกสาว จากนั้นก็เก็บแว่นอันอื่นๆ ไว้ในถุงตามเดิม
“แหม อ้อนพ่อใหญ่เลยนะคะน้องไข่มุก นี่ค่ะกาแฟแสนอร่อย ไม่ลืมใส่ดอกเกลือค่ะ” เจสซี่วางกาแฟที่ฝั่งขวามือของเขา เพื่อที่จะได้ห่างจากมือเด็ก เธอใช้จังหวะนั้นกระซิบตรงแผ่นหลังชายหนุ่ม “ฝากป้อนยาด้วยนะคะ งานนี้งานหิน กินยายากม้ากกกกกก หลอกล่อดีๆ นะคะ ฉลาดเป็นกรด แค่เห็นถุงยาก็รู้แล้ว วางไว้ข้างหลังนะคะ”
“ผมไม่เคยป้อนยาเด็กเลย” เอเดรียนหันใบหน้าที่ตื่นตระหนกไปบอกเจสซี่
“รับบทคุณพ่อแล้ว ก็ต้องทำให้ได้สิคะเบบี๋” เจสซี่หัวเราะคิกคัก
‘ถ้าไม่รักก็โดนเกลียดละวะ เฮ้อ แผนตกลูกมาเป็นพวกจะสำเร็จไหมก็อยู่ที่การป้อนยานี่แหละ พับผ่าสิ’ เอเดรียนหน้าเครียด
“ฝากด้วยนะคะ โชคดีนะคะ”
“อ้อ เดี๋ยวครับ” เอเดรียนเรียกเจสซี่ที่กำลังก้าวออกไป “จัดขนมให้ผมอย่างละสามชิ้นนะครับ เพื่อนฝากซื้อ”
พอเจสซี่เดินเข้าไปแล้ว เขาก็เอื้อมไปที่ชามโจ๊ก ตักมาป้อนลูกบนตัก ก่อนจะเอี้ยวตัวหยิบถุงยา มียาน้ำสองขวด ยาเม็ดหนึ่งซอง เขาอ่านว่าต้องกินอย่างละเท่าไร
“ป้อก๋า อาไย”
‘ลงมาจากตักตอนไหนวะเนี่ย ไวจริงๆ’ เขาอุทานในใจ
“น้ำหวานครับ อร้อยอร่อย กินไหม” เขาลูบหัวลูกสาวที่มายืนมองฝั่งที่มีถุงยา
น้องไข่มุกส่ายหน้า “ป้อก๋า อาไย” นิ้วเล็กๆ ชี้ที่ขวดยา มองตาเขาเหมือนขอความจริง
“น้ำหวานครับ อร่อยม้าก” เอเดรียนทำหน้าทำตาโอเวอร์เหมือนได้กินของอร่อยแบบนักชิมตามรายการทีวี
“ป้อก๋า อายาย” ตอนนี้ราวกับในหัวเล็กๆ มีแต่คำถามนี้
‘เจ้าหนูจำไม’ หนึ่งในคุณสมบัติของเด็กที่เขาเกลี้ยดเกลียด แต่นี่ลูกเขานะ....น่ารักจะตาย
‘ลูกเราน่ารัก ลูกเราน่ารัก ท่องไว้ ลูกเราน่ารักไม่เหมือนใคร พูดมากได้แม่ กวนตีนได้พ่อ ยังไงก็ลูกเรา ลูกเราน่ารัก…’ เอเดรียนท่องคาถา
“น้ำหวานครับผม ฮ้อมมมมม” เขาทำท่าสูดดมอากาศเหมือนตอนนี้รอบตัวอบอวลด้วยกลิ่นน้ำมันหอมระเหย
“ป้อก๋า อายายยย” เด็กน้อยหน้าเสีย น้ำตาคลอ “ไม่อาววว ไม่อาววว ป้อก๋า แอะ แง้” น้องไข่มุกอ้าปากกว้าง โจ๊กในปากกระเด็นออกมาพร้อมกับเสียงไอ จากนั้นเด็กน้อยก็กอดเอวซุกหน้ากับสีข้างเขา กระเด้งตัวไปมาอย่างดื้อรั้น
“โอ๋ๆ” เขาหันไปอุ้มลูกขึ้นมา เด็กน้อยกอดคอเขาซบหัวกับไหล่
ไอร้อนจากผิวนุ่มละเอียดเริ่มแผ่ออกมาจากตัวลูกสาวบ่งบอกว่าไข้กำลังจะขึ้นอีกแล้ว เขาอุ้มแกเดินไปเดินมา ชี้ชวนดูนั่นนี่ไปเรื่อย หลอกล่อด้วยวิธีการสารพัด ในที่สุดความพยายามเฮือกสุดท้ายก็ทำให้เขาป้อนยาสำเร็จจนได้
“เก่งมาก เจ้าหญิงของพ่อเก่งมาก” เขาปรบมือเสียงดัง พร้อมกับกวักมือเรียกลูกจ้างสาวที่มองอยู่ด้านในให้มาร่วมปรบมือ
น้องไข่มุกชูแขนอย่างได้รับชัยชนะ คราวนี้งานเข้าเพราะแกร้องขอกินยาอีก เขาจึงเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการคว้าถุงที่ถือมาด้วยซึ่งวางไว้บนเก้าอี้อีกตัวมาหยิบของด้านใน
“น้องมุกมาเล่นบัตรคำศัพท์กับพ่อมา” เขาหยิบบัตรคำศัพท์รูปผลไม้สีสันสดใสสวยงามออกมา
“คามฉับเหยอ” น้องไข่มุกชะโงกไปดูที่มือเอเดรียน