“ก็คุณไง เป็ดน้อย คุณตัดขาดผมทุกช่องทาง คุณวิ่งหนีความปรารถนาดีที่ผมหยิบยื่นให้ คุณย้ายที่อยู่เพราะกลัวผมจะตามตัวคุณเจอ”
“เฮ้ย มีเรื่องโจ๊กขนาดนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ สำคัญตัวผิดไปไหม คุณทะเล ฉันแค่ไม่ให้คุณโอนเงิน ฉันไม่ได้หนีคุณเล้ย ฉันลืมคุณไปแล้วด้วยซ้ำ ไปเอามาจากไหนว่าฉันหนีคุณไม่ทราบ ขอขำได้ไหม” มีทั้งความจริงและความเท็จในประโยค
เธอยกมือขึ้นมาปิดปากแกล้งขำ เป็นการกวนน้ำให้ขุ่นขึ้นไปอีก ความมั่นใจเกินร้อยจะต้องหักหน้าด้วยการหัวเราะนี่แหละเจ็บแสบที่สุด เพชรพลอยแอบชำเลืองมองเขา ตอนนี้เอเดรียนหน้าแดงหูแดงไปหมด มือหนาก็กำแน่นแนบลำตัว
‘ถ้าไม่มีความกวนตีนเหมือนกันคงไม่ใช่เนื้อคู่กัน ผมจะให้อภัยคุณ’ เขาปลอบใจตัวเองทั้งๆ ที่ข้างในกำลังเดือดพล่าน
“เฮอะ ผมไม่ใช่เด็กสองขวบนะถึงจะเชื่อ” นี่แหละถ้อยคำตอบโต้ที่ละมุนละม่อมที่สุดสำหรับเขาแล้ว
แต่ด้วยเสียงที่เริ่มจะดังขึ้น เพชรพลอยจึงเหลือบตาไปมองทางน้องไข่มุกเป็นการปรามเขากลายๆ
“ฉันคงไม่อธิบายอะไรให้คุณฟัง เพราะมันไม่เกี่ยวกับคุณ แต่อยากจะบอกคุณว่า...อย่ามั่นหน้าให้มาก”
เอเดรียนมองอย่างสงสัยเมื่อเธอย่อตัวลงนั่งยองๆ บนพื้น เอื้อมมือสองข้างมาที่เท้าเขา แล้วช้อนเอาอากาศขึ้นมา เธอยื่นมันให้ เขาจึงหงายมือออกอย่างงงๆ
“อะไร” เขามองความว่างเปล่าในมือตนเอง
“เศษหน้าของคุณ”
เอเดรียนหรี่ตามองหน้าเธอ มือข้างที่รับเศษหน้านั้นตวัดจับต้นแขนเธอ บีบลงน้ำหนักแต่ก็ยังระวังไม่ให้เธอเจ็บ...เขาต้องการดูแลอย่างอ่อนโยนในสิ่งที่เธอขาดไปทั้งชีวิต ไม่ใช่ซ้ำเติมให้เธอบอบช้ำทางจิตใจไปมากกว่านี้
“พูดยังไงผมก็ไม่เชื่อ” เสียงเขาดังขึ้นอีก เพชรพลอยรีบยกมือขึ้นอีกข้างทำท่าสงบศึก
“พอๆ โอเคๆ เอาเป็นว่า ฉันหนี แต่ไม่ได้หนีคุณ ฉันมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูก คุณรู้แค่นี้ก็พอ” เธอสารภาพ
“ลูกก็เหมือนกัน คุณหอบลูกหนีผม ไม่ส่งข่าวบอกผม” ความเจ็บช้ำคลอขึ้นในหน่วยตาของชายหนุ่ม ก่อนเลื่อนสายตาไปยังลูกสาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่กำลังเอาตุ๊กตาลูกหมีสีชมพูตัวเล็กไปจูบแก้มพ่อหมีน้ำตาลตัวใหญ่
“คุณทะเล้” เพชรพลอยทำเสียงสูง “ฉันจะบอกคุณทำม้าย มันเท่ากับทำลายครอบครัวของคุณเลยนะ ฉันพูดจนปากจะฉีกว่าให้คุณซื่อสัตย์กับเมีย แล้วจู่ๆ ฉันจะใช้ลูกเป็นข้ออ้างไปดึงคุณกลับมาเนี่ยนะ มันไม่ใช่ฉัน” เพชรพลอยเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยู่ในความล่มสลายของครอบครัวดี มันจึงไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดจะทำ
“คุณนี่ไงเมียผม คุณเป็นเมียผม จำไม่ได้เหรอ” คราวนี้เอเดรียนจับแขนเธอทั้งสองข้างเขย่า “ผมซื่อสัตย์กับคุณ ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของผม ซื่อสัตย์มาโดยตลอด” เขาเรียกร้องความเชื่อถือจากเธอ
“กลับมาคราวนี้พูดผัวๆ เมียๆ เต็มปากเต็มคำเลยนะ” เธอสะบัดแขนเขาออกแล้วหันหลังให้ ก้าวไปได้เพียงสองก้าวตัวก็ลอยหวือกลับไปข้างหลัง
“หรือไม่จริง” เขารวบเอวเธอจากด้านหลังดึงเข้ามากอด
เพชรพลอยรู้สึกว่าความหวานซ่านระยิบระยับไปทั่วตัวเมื่อจมูกโด่งคมจรดลงบนซอกคอ
“ก็ไม่จริงไง เซ็กส์กับเมกเลิฟมันไม่เหมือนกัน ก็เหมือนกับกรณีของเรา มันถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง” เธอโกหกตัวเองผ่านเสียงที่แผ่วพร่า
“ไม่ เพราะผมไม่ได้มีแต่อารมณ์ ผมมีความรู้สึกด้วย ผมไม่ได้ฉาบฉวย แต่ผมต้องการให้คุณตราตรึง และผมก็กำลังเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นความถูกต้องเพื่ออนาคตของเรา” เขากอดร่างบางแน่นขึ้นจนเธออึดอัด
“เชื่อคุณก็แย่แล้ว มีเมียไปทั่วโลก แล้วไปไข่ทิ้งไว้กี่ที่ก็ไม่รู้ ไปดูลูกดีกว่า” เธอแกะมือเขาออก น้ำเสียงของเธออ่อนลง แต่ความประชดประชันที่ซ่อนอยู่ก็จุดรอยยิ้มให้เอเดรียนได้
“เดี๋ยว” เขาดึงแขนเธอไว้ “คุณไม่ให้ผมใช้คำว่าเมียในตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ผมจะเก็บไว้อย่างดี เพราะมันเป็นของคุณคนเดียว เฮ้อออออ แต่ผมดีใจนะที่คุณไม่ปฏิเสธว่าผมไม่ใช่พ่อของน้องมุก”
“มันเสียเวลาไหมคะคุณ ที่จะมาอึกๆ อักๆ เล่นแง่ หรือโบ้ยว่าน้องมุกเป็นลูกของชายอื่น ฉันไม่ทำหรอก ปัญญาอ่อน สงสารลูกด้วย ฉันไม่กีดกันที่คุณจะแสดงตัวหรือทำอะไรเพื่อลูก เพราะสุดท้ายก็หนีความจริงไม่พ้น ตา สีผม ขี้แมลงวันที่ก้น ใต้รักแร้ แล้วก็ตรงขาหนีบ ได้จากคุณมาเป๊ะ”
“คุณลึกซึ้งถึงจุดซ่อนเร้นมาก ขอบคุณนะครับที่ไม่เคยลืม แล้วตรงหน้าอกกับจิมิล่ะ มีขี้แมลงวันแบบคุณไหม” เขาจงใจหลุบตาลงมายังจิมิของเธอภายใต้ชุดเดรสผ้าพลิ้วสีชมพูหวานสั้นเหนือเข่าขึ้นมาหน่อย
เพชรพลอยรับรู้ได้ว่าตอนนี้แก้มเธอร้อนผ่าวไปหมดแล้ว อยากจะจกลูกตาเขาออกมาจริงๆ
“มี เอามาหมด” เธอเก๊กเสียงห้วนสั้น
“เก็บทุกรายละเอียดเลยลูกพ่อ”
“ฉันขอถามกลับ ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนั้นว่าน้องมุกเป็นลูกของคุณ”
“ผมจดจำใบหน้าของคุณตอนที่เราแยกกันที่ท่าเรือแหลมฉบังได้ไม่เคยลืม ใบหน้าของคุณมันมาซ้อนอยู่บนใบหน้าของน้องมุกตอนที่แยกเขี้ยวร้องไห้อยู่บนโป๊ะ ผมรู้สึกว่าผมต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมผมจึงรู้สึกได้ถึงความผูกพัน” เขาถอนใจ “ผมทำร้ายจิตใจแก ผมมันแย่จริงๆ”
“เอาเถอะค่ะ อย่าไปพูดถึงมันเลย ส่วนเรื่องลูก ฉันเข้าใจคุณและสงสารลูก ภาพที่แกวิ่งไปหาคุณด้วยความดีใจเมื่อกี้นี้ ฉันไม่เคยเห็นที่ไหนเลย แกดูมีความสุขมากๆ คงจะเป็นสายใยของพ่อลูกมั้ง”