“ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถรักเด็กได้ แต่แค่เห็นแกแว่บแรก ผมสั่นสะท้านไปทั้งหัวใจ ได้แต่ยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นไปหมด”
“มีทุกอย่างที่คุณเกลียดเลยใช่ไหมคะ” พูดพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้ญี่ปุ่นหุ้มขนสัตว์ขนาดใหญ่ ในมุมห้องสีสันสดใส ตอนนี้น้องไข่มุกหนีบตุ๊กตาหมีสีชมพูไว้ใต้รักแร้เดินเข้าไปเล่นในบ้านลมยางสีสวยแล้ว
“ครับ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นจะให้การ์ดไปอุ้มมาหักคอ” เขาแกล้งพูด นั่งลงบนเก้าอี้ญี่ปุ่นอีกตัวซึ่งอยู่ข้างๆ กัน
“ฉันให้คุณดูแลน้องมุกได้ในขอบข่ายที่จะไม่สร้างปัญหาให้ครอบครัวของคุณ แต่ครอบครัวของคุณจะต้องไม่ตามมากลั่นแกล้งลูกของฉันนะ ฉันจะไม่เอาไปพูดที่ไหนว่าแกเป็นลูกของคุณ” เพชรพลอยถอนหายใจ
“ผมยังไม่ได้แต่งงานครับ มีคนดลใจให้ผมลุกขึ้นมาทำลายคำสาป ผมกำลังเร่งทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาอยู่กับคุณ ผมตั้งใจว่าถ้าทางนั้นเรียบร้อยเมื่อไรผมจะออกตามหาคุณทันที ต่อให้ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตผมก็ยอม แต่มันคงเป็นเพราะพรหมลิขิตถึงได้ส่งคุณมาอยู่ใกล้ๆ ผม ส่งลูกมาร้องกรี๊ดๆ ใส่งานผม” เขาพูดติดตลก
“ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น ฉันเคยบอกคุณแล้วไง ว่าฉันไม่กล้ามีความรัก ฉันกลัวจะได้ผู้ชายแบบพ่อ”
“คุณไม่ไว้ใจผมเพราะคิดว่าผู้ชายทุกคนเหมือนกันใช่ไหม” เขาวางมือบนหัวไหล่มนทั้งสองข้าง จับให้เธอหันตัวมามองหน้าเขา
“ฉัน...ไม่รู้สิ” แววตาของเธอดูขาดความมั่นใจ
“โอเค ผมเข้าใจ ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ผมจะทำให้คุณรู้ว่าผู้ชายทุกคนไม่ได้เหมือนกัน ถ้าคุณห้ามผม ก็เหมือนห้ามหัวใจของผมให้หยุดเต้น ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเอง ว่าเวลาเสือกลายเป็นแมวมันน่ารักขนาดไหน”
“นั่นก็เรื่องของคุณ ไม่ใช่ความต้องการของฉัน” เธอตัดบท
‘คุณไม่เปลี่ยนไปเลย ’ เอเดรียนคิดในใจ
“คุณต้องการ คุณหลอกผมไม่ได้หรอก เป็ดน้อย ทะเลจะเป็นความรักที่ปลอดภัยของคุณ เป็นความรักที่สวยงามที่สุดของคุณ” เขาจับมือเธอมาเขย่าให้เธอเชื่อในคำมั่นสัญญา
“แม่ก๋า” น้องไข่มุกเดินมาหาแม่ ดึงเพชรพลอยออกจากความเคอะเขินที่เริ่มก่อตัว เด็กน้อยเลือกที่จะก้าวขาสั้นๆ เข้ามาตรงกลาง เอเดรียนกับเพชรพลอยจึงพร้อมใจกันขยับเก้าอี้ญี่ปุ่นชิดกันให้หนูน้อยนั่งระหว่างพ่อกับแม่ พอนั่งแหมะลงก็คว้ากระเป๋าเป้ที่แม่มารูดซิป ตั้งหน้าตั้งตาล้วงทรัพย์สมบัติออกมาทีละชิ้น ขวดนม ผ้าห่มผืนน้อย แล้วก็ตุ๊กตากระต่ายหูยาวสีหม่นๆ
“ลูกจะทำอะไรเหรอคุณ”
“รอดูสิคะ”
น้องไข่มุกหันมองพ่อก่อนจะหันมามองแม่ จากนั้นก็เอาขวดนมแหย่ปาก หยิบตุ๊กตามาหนีบใต้รักแร้ แล้วหยิบผ้าห่มมาซุกอก เอนหัวลงหนุนตักแม่ ส่วนขาพาดไปบนตักพ่อ ปากอิ่มแดงดูดนม ตาปรือลงทุกขณะ ผ่านไปแป๊บเดียวก็หยุดดูด แต่เดี๋ยวก็กลับมาดูดต่อ ตาหลับๆ ลืมๆ
“ถึงเวลานอน ก่อนมาที่นี่เพิ่งกินยาด้วย ก็เลยง่วงมาก เวลาง่วงก็จะแบบนี้ เดินมานอนเอง แต่อีกสักพักแหละถึงจะหลับสนิท”
“ครับ เมื่อวานผมก็พาเข้านอนที่ร้าน”
“เจสซี่เอาแต่พร่ำเพ้อถึงคุณ เห็นบอกว่าถ้าเจอกันอีกทีจะจับคุณปล้ำให้คุณหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นเลย”
เขาหัวเราะพลางส่ายหัว “คุณพาลูกไปนอนในห้องผมดีกว่า ห้องนี้มีเตียงก็จริงแต่ผมยังไม่ได้ซื้อชุดเครื่องนอน”
เพชรพลอยพยักหน้า เขาจึงค่อยช้อนตัวลูกที่ยังสะลึมสะลือขึ้นมาและพาเดินเข้าไปยังห้องนอนใหญ่ที่เชื่อมถึงกัน
“ผมจะออกไปคุยงานกับลูกน้องในห้องทำงานสักครู่” บอกหลังจากวางเด็กน้อยลงบนเตียง
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวลูกหลับฉันออกไปรอคุยเรื่องงานกับคุณที่ห้องรับแขกนะคะ” เพชรพลอยยังไม่ลืมจุดประสงค์หลักของการมาที่นี่
“นั่นเป็นแค่แผนต้อนลูกเป็ดเข้าเล้าของผม”
“แต่ฉันซีเรียส”
*********
วางสายจากแมตต์ เลขาฯ ที่ลาสเวกัสแล้วก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เขานั่งดูเอกสารอยู่อีกครู่ก็เดินออกไปยังห้องรับแขก เพชรพลอยไม่ได้รออยู่ในห้องนี้อย่างที่บอกกับเขาไว้ ชายหนุ่มจึงก้าวเข้าไปในห้องนอน
รอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปากกับภาพรองเท้าลายการ์ตูนคู่จิ๋วข้างเตียง เจ้าของของมันดูตัวเล็กกระจิริดเมื่อนอนหลับสนิทอยู่กลางเตียง บนอกมีเน็กไทผูกโบที่เจ้าตัวไม่ยอมให้ถอด ขนตาของเด็กน้อยยาวจนแนบกระทบผิวแก้มตรงปลายตวัดงอนขึ้น ส่วนคนเป็นแม่นอนตะแคงข้างกอดลูกหลับสนิท
เอเดรียนเดินไปนั่งบนขอบเตียง จังหวะนั้นเพชรพลอยก็พลิกตัวนอนหงาย ตาหลับพริ้ม ขนตางอนยาวไม่ต่างจากลูก สายสร้อยพร้อมจี้เลื่อนขึ้นมาบนคอ เขาหัวใจพองโตตั้งแต่เห็นมันก่อนที่จะเริ่มแกล้งเธอด้วยบทสนทนาเผ็ดร้อน เอเดรียนเอื้อมมือจะไปจับ เธอก็พลิกตัวอีกครั้งตะแคงมาทางเขา แขนเธอปัดป่ายหาอะไรบางอย่าง พอจับได้ผ้าห่มก็ดึงขึ้นมาคลุมถึงคอ
“คุณ คุณ” เขาลองเรียก
พอไม่ตื่น ผ่านไปสองสามวินาทีก็เรียกใหม่อีกครั้ง
“คุณ วันนี้คุณมีนัดคุยงานนะ”
เสียงแว่วๆ ทำให้เธอตกใจพลิกตัวไปหาลูก ตบเบาๆ บนพุงกลมๆ ก่อนวางมือไว้บนนั้นแล้วนิ่งไป