น้องไข่มุกจัดเต็ม เต็มทั้งเครื่องแต่งตัว ทั้งความน่ารัก มีตรงไหนที่ลูกสาวของเธอไม่น่าเอ็นดูบ้างถามจริง
หน้าตาก็น่ารักที่สุดในโลกตั้งแต่เคยเห็นเด็กมา ผิวขาวใสอมชมพู แก้มยุ้ยปากอิ่มแดง ดวงตากลมหวานสีน้ำตาลอ่อน ขนตางอนยาว เนื้อตัวก็จ้ำม่ำนุ่มนิ่ม
เสื้อผ้าที่ลูกใส่ยังคงคอนเซ็ปต์ไม่เน้นแพง เด็กโตเร็วจะต้องเสียเงินมากมายโดยใช่เหตุทำไม แต่อันที่จริงคือเธอประหยัดนั่นแหละ วันนี้เด็กน้อยอยากติดกิ๊บสองข้างปล่อยผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนประบ่า สวมแว่นกันแดดที่เจ้าตัวเลือกว่าต้องเป็นอันนี้ มันพอดีกับใบหน้าที่สุด ในกระเป๋าเป้สะพายหลังเล็กๆ มีของสารพัดอย่างที่น้องไข่มุกจับยัดใส่ด้วยตัวเอง
เพชรพลอยเดินถอยหน้าถอยหลังพินิจพิจารณานางฟ้าตัวน้อยๆ ของเธออย่างคนหลงลูก เธอคิดว่าท่านประธานต้องเมตตาแน่ งานนี้การเจรจาคงเป็นไปด้วยดี
“ตอนเจอท่านประธานต้องพูดว่ายังไงคะ” เพชรพลอยให้ลูกท่องบทพูดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
“ซาหวาดดีค่า ทั่นปะธาน หนูชื่อน้องมุก้า” น้องไข่มุกยกมือไหว้พร้อมถอนสายบัว เพชรพลอยเชื่อว่าถึงเขาจะเป็นชาวต่างชาติ แต่วัฒนธรรมการไหว้แบบนี้เขาจะต้องประทับใจ
“เก่งที่สุด” เพชรพลอยยกนิ้วโป้งให้ลูกสองนิ้ว
เมื่อคืนหลังจากซักซ้อมกับลูกแล้ว เธอก็เตรียมเอกสารจนดึก ถึงจะเคยเป็นแม่ค้าออนไลน์ เป็นไกด์ทรานเฟอร์พูดคุยกับนักท่องเที่ยวเป็นต่อยหอย แต่การพรีเซนต์ตัวเองเพื่อให้คนระดับเจ้าของโรงแรมที่มีสาขาทั่วโลกฟัง เธอไม่เคย และไม่คิดว่าโอกาสจะมาหล่นปุอยู่ตรงหน้า
แทม หญิงสาวคนที่ไปหาเธอเมื่อวานเธอเป็นเลขาฯ ของท่านประธาน แทมพาสองแม่ลูกขึ้นมายังชั้นบนสุด ความหรูหราอลังการทำให้เพชรพลอยรู้สึกตัวเล็กลงไปทันที เธอจูงลูกเข้าไปยังห้องที่เลขาฯ ผายมือให้ พอเสร็จหน้าที่เลขาฯ ก็ออกไปโดยปิดประตูตามหลัง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทยืนหันหน้ามองผ่านกระจกใสไปทางแม่น้ำ สายตาเขาทอดไปยังโรงแรมอีกฝั่งที่เธอมองอยู่ทุกวัน กาแฟละมุนโชยกลิ่นกรุ่นมาจากแก้วในมือเขา เขายกข้อมืออีกข้างขึ้นมองนาฬิกา แล้วหันกลับมา
ทุกเส้นประสาทข้างในเต้นระส่ำ รวมทั้งหัวใจ แต่เธอเก็บอาการไว้ได้รวดเร็ว
“กรี๊ดดดดดดดด ป้อ ป้อก๋า กรี๊ดดดด”
ประโยคเปิดทักทายที่ให้น้องไข่มุกท่องจนขึ้นใจถูกโยนทิ้งไป เด็กน้อยสะบัดมือออกจากมือแม่และวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยกรีดร้องด้วยความดีใจ ทุกก้าวที่เท้าเล็กๆ กระแทกพื้นจะมีเสียงดังปี๊ดๆ จากพื้นรองเท้า
“ป้อก๋า ป้อ ป้อ ป้อ”
เหตุการณ์ตรงหน้าเกิดขึ้นภายในสองวินาที
“ผมคอยคุณตั้งนาน” มนุษย์นาฬิกาเริ่มต้นด้วยการตำหนิในขณะที่เจ้าตัวเล็กวิ่งไปได้ครึ่งทาง
“ห้านาที” ใช่ เธอสายไปห้านาที
“หนึ่งนาทีของคุณ มันเท่ากับหนึ่งปีของผม” คำพูดเขาย้อนเวลาไปถึงวันแรกที่เจอกัน
“จอมวางแผน” เพชรพลอยแสยะปากใส่ และก็ไม่ได้อินไปกับถ้อยคำโบร่ำโบราณที่เขาคิดว่าเท่เลยสักนิด เธอเดาออกแล้วว่าไอ้หนุ่มที่ไหนไปอ่อยเจสซี่จนลูกสาวเธอเรียกว่าพ่อ “ไม่มีขาหรือไง ถึงต้องให้ฉันกับลูกฉันเดินมาหา”
เอเดรียนเขม้นสายตาหรี่มอง สะดุดหูตรงคำว่า ‘ลูกฉัน’ หรือเธอจะจงใจบอกใบ้ว่าน้องไข่มุกไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขา วิธีรีดคำตอบจากเธอนั้นไม่ยาก ชวนทะเลาะไปมากๆ เดี๋ยวก็หลุดออกมาเอง
“คุยเรื่องธุรกิจระดับร้อยล้านพันล้านมันก็ควรจะคุยในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวมันจะได้มีสมาธิไงครับคุณผู้หญิง” มือหนาเอื้อมไปจับต้นแขนกลมกลึง นิ้วโป้งไล้ผิวเนียนนุ่มอย่างทะนุถนอม
เพชรพลอยยกแขนเบี่ยงตัวออก “เวลาคุยเรื่องธุรกิจ คุณถึงเนื้อถึงตัวคู่ค้าแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า”
“คู่ขาคุยกันบนเตียง คู่ค้าคุยกันบนโต๊ะ ส่วนคู่รักก็ทั้งบนเตียง บนโต๊ะ โซฟา ราวบันได ในลิฟต์ และทุกๆ ที่ คุณจะเลือกแบบไหนครับ” เขาประเมินอารมณ์ของหญิงสาวด้วยการปล่อยให้เธอชักสีหน้าใส่
‘กวนตีน’ เขาอ่านปากเธอได้เป็นคำนี้
“อุ้ม ป้อก๋าอุ้ม อุ้มมุ”
น้องไข่มุกเขย่าขาชายหนุ่มอยู่สักพักแล้ว เมื่อไม่ถูกสนใจจึงร้องเรียกเสียงดัง เอเดรียนยอมรับว่าตนเองลืมลูกสาวไปเสียสนิท ทุกวินาทีสายตาไม่พ้นการจับจ้องหญิงสาวที่เขารอคอย เอเดรียนต้องบังคับตัวเองให้เก็บอาการ ไม่กระโจนไปกระชากเธอมากอดให้สมความคิดถึง
เขาหันไปวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะข้างๆ ร่างสูงในชุดสูทภูมิฐานย่อเข่าลง ลูกสาวก็โผกอดคอทิ้งตัวบนท่อนแขนที่กำลังยกแกขึ้น เด็กน้อยเพิ่งจะเห็นว่าด้านหลังของชายหนุ่มเป็นผนังกระจกที่มองเห็นทิวทัศน์มุมสูงด้านนอก จึงกอบโกยเอาความสนใจจากเขามาไว้กับบทสนทนาของตนทันที
“ป้อก๋า ฉวยจังเยย” น้องไข่มุกชี้ไปที่ตึกรามบ้านช่องฝั่งตรงข้าม และพอเห็นเรือในแม่น้ำมีขนาดเล็กกว่าที่เคยเห็นก็ขมวดคิ้ว “เยือเย็กนี้ดดดดเดียว” ออกความเห็นพร้อมทำนิ้วประกอบ
“พ่อให้น้องมุกขึ้นมาดูทุกวัน น้องมุกอยากมาไหมครับ” คำถามของเขาทำให้เพชรพลอยหน้าบึ้ง
“หยักก้า แม่ก๋า” แกเรียกพร้อมพยักหน้าหงึกๆ ให้แม่เดินมาใกล้ๆ พอเพชรพลอยเดินมายืนที่กระจกแกก็ชี้ไปข้างล่าง “แม่ก๋า อันนั้นเปะฉีเหยืองก็เย็ก” แกชี้ไปที่เป็ดยักษ์หน้าโรงแรม