ตะล่อม

1092 คำ
“อ้าว ไปไหน” “พากูไปซื้อของที่มึงว่ามาเมื่อกี้หน่อย เร็ว นี่เย็นแล้ว จะได้มีเวลาเลือกเยอะๆ” “นึกสภาพมึงกับกูไปเดินที่แผนกของเล่นเด็กด้วยกัน ท่าทางจะน่าเอ็นดูเป็นบ้าเลย” เอเดรียนก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดสูทอย่างดีไม่ต่างจากณวัฒน์ แล้วยักไหล่ “แล้วไง พูดมากน่า ไปกันเถอะ” “เดี๋ยว!” ณวัฒน์ดึงแขนเพื่อนที่ทำท่าจะเดินออกจากห้องไว้ “อะไรอีกล่ะ” เอเดรียนหันมาชักสีหน้าใส่ “ไลลาเป็นไงมั่ง” ณวัฒน์เข้าประเด็นที่อยากรู้ ว่าจะถามเพื่อนตั้งแต่ขามาแล้ว แต่ไม่มีโอกาส “หึ มึงต้องไปดูเอง ไม่ได้เจอกันกี่เดือนแล้ววะ” “สาม” ณวัฒน์ไม่รู้ว่าตัวเองไปเอานิสัยขี้น้อยใจมาจากไหน ความจริงมันควรจะเป็นนิสัยของลูกคุณหนูอย่างไลลามากกว่า แต่พอวัดๆ กันดูแล้วเขากลับนำเธอโด่ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เอเดรียนโดนโดมินิคยิงตอนที่ไปช่วยไลลา เธอร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ในขณะที่เขาก็นอนตัวน่วมอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ แต่เธอกลับแทบไม่แสดงความห่วงใย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาณวัฒน์ก็มักจะมีเรื่องให้น้อยใจ หงุดหงิด ไม่กินข้าวกินปลา พานให้ทั้งสองไม่ยอมพูดจากัน แต่ยังไม่ทันเคลียร์ใจกันเขาก็ต้องรีบกลับมาดูแลงานที่ไทยซึ่งทำท่าจะมีปัญหา จนตอนนี้ทุกอย่างลุล่วงไปแล้วเขากับไลลาก็ยังไม่ได้ติดต่อหากัน “อ้อ กูรู้สาเหตุที่พวกมึงประสาทแดกใส่กันแล้ว” “อะไร สาเหตุอะไร กูไม่เห็นรู้” “ไปหาไลลาสิแล้วมึงจะรู้ อยู่บ้านลุงเขาน่ะ ไลลามาไทยเดือนนึงแล้วมึงไม่รู้เหรอวะ” “เหรอ ไม่ยักรู้” ณวัฒน์ใช้น้ำเสียงเรียบๆ ชิลๆ ทั้งที่ในใจพองโตสุดแสน อยากจรลีไปหาคุณเมียเสียเดี๋ยวนี้ “คิดถึงก็ไปหาเขาซะ ทำเป็นไม่สนใจ แต่กูรู้นะว่าข้างในน้ำตามึงไหลถึงพื้นแล้ว เฮ้อ กูละกลุ้ม ไอ้ขี้เก๊ก” เอเดรียนด่าทิ้งท้าย “ไปกันได้แล้ว กูอยากซื้อของเล่นให้ลูก” ********* 10.30 น. วันรุ่งขึ้น กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เสียงโมบายหน้าร้านดังล้อลมราวกับส่งเสียงต้อนรับตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวขาเข้ามาภายในรั้วสูงแค่เขย่า ซึ่งโอบล้อมพื้นที่ของร้านกาแฟ ร้านหันหน้าไปทางโรงแรมเขา ด้านขวาที่เอเดรียนเพิ่งเดินผ่านมาเป็นแหล่งขายสินค้าทำมือทั้งของกินและของใช้ ส่วนด้านซ้ายมีวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดพักสายตา ตอนนี้สิ่งที่โดดเด่นบนผืนน้ำคือเป็ดเป่าลมสีเหลืองอ๋อยขนาดใหญ่หน้าโรงแรม... เป็ดน้อยของเขา... เอเดรียนเดินผ่านรั้วมาตามหินปูพื้นที่ถูกขนาบด้วยสนามหญ้าเล็กๆ มีโต๊ะสำหรับลูกค้าสามชุดตั้งอยู่ในสวนของร้านพร้อมร่มกันแดดผ้าฝ้ายที่ยังไม่ถูกกาง พอเดินไปถึงหน้าร้าน เขาก็สะดุดตากับสระเป่าลมริมรั้วอีกด้าน มีเป็ดยางตัวเล็กๆ สี่ห้าตัวลอยอยู่ในนั้นพร้อมแม่เป็ดหนึ่งตัว เขาก้าวเข้าไปในร้านสไตล์มินิมอลสีขาว รู้สึกเย็นสดชื่นกับแอร์คอนดิชันและกลิ่นหอมของเบเกอรี่ โทนของร้านเป็นสีขาว ในนี้มีโต๊ะอีกสามชุดที่ดูน่ารัก เพิ่มความสบายตาด้วยต้นไม้ประดิษฐ์ที่สะดวกต่อการดูแล และกุหลาบผ้าสีโอลด์โรสให้ความอ่อนหวานละมุนละไม เอเดรียนขุ่นใจขึ้นมาทันที ร้านแถวนี้เปิดสิบโมง แต่ร้านกาแฟมีเวลาบอกตั้งแต่ซุ้มตรงประตูรั้วว่าเปิด 7.00-18.00 น. ก็แน่ละ กาแฟต้องดื่มตอนเช้า ถ้าเปิดสิบโมงก็เสียโอกาสในการค้าขาย แต่นี่สิบโมงครึ่งแล้วก็ยังไม่มีใครออกมาต้อนรับลูกค้า ระหว่างยืนคอยก็กวาดตาสำรวจภายในร้าน บนผนังมีอักษรประดิษฐ์เป็นคำว่า ‘Conch Pearl’ เช่นเดียวกับป้ายหน้าร้าน เขาหยิบกรอบรูปบนเคาน์เตอร์ขึ้นมาดู ถือโอกาสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ “ขอประทานโทษด้วยนะคะลูกค้า” เจสซี่เดินออกมาจากหลังร้าน กล่าวขอโทษขอโพยเป็นภาษาอังกฤษ เจ้าของร้านให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ลูกจ้างของเธออย่างน้อยก็ต้องสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ “ร้านเปิด 7.00 น.?” น้ำเสียงตำหนิลอดผ่านริมฝีปากรูปกระจับ “ค่ะ วันนี้เกิดปัญหานิดหน่อย ทำให้เตรียมของไม่ทัน ลูกค้ารับเมนูไหนดีคะ” เจสซี่ผายมือไปยังผนังด้านหลัง เมนูเครื่องดื่มถูกเขียนไว้บนกระดานที่อยู่ด้านล่างของป้ายชื่อร้าน น้ำเสียงของเจสซี่ตอนนี้ต่างจากตอนที่ตะโกนด่าการ์ดเขาลิบลับ เอเดรียนไล่สายตาอ่านเมนู สะดุดตรง “กาแฟไซรัปเกสรดอกมะพร้าว” เสียงพึมพำของเขาได้รับการถ่ายทอดข้อมูลด้วยสาวสองตรงหน้า “เป็นน้ำตาลจากเกสรดอกมะพร้าวที่ต้องควบคุมอุณหภูมิในการเคี่ยว ใช้เวลานานกว่าปกติ ให้ความหอมและถนอมสุขภาพ มีดัชนีจีไอต่ำ” “จีไอคือความหวานที่จะก่อให้เกิดโรคความดัน เบาหวาน โรคอ้วน?” เอเดรียนถามเพื่อความมั่นใจ เขากลับไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับไซรัปเกสรดอกมะพร้าวตั้งแต่เธอพร่ำเพ้อเรื่องกาแฟในตอนนั้น “ใช่ค่ะ” “ผมเอาเมนูนี้ครับ” “รับขนมด้วยไหมคะ ยังอุ่นๆ เลยค่ะ” “ทำที่ร้านเหรอครับ” เอเดรียนมองขนมหน้าตาน่ารับประทานในตู้กระจก “เปล่าค่ะ ทำที่บ้าน แล้วก็ส่งตามร้านอื่นๆ ด้วยค่ะ” “คุณทำเอง?” เอเดรียนถามราวกับสอบสวน “เจ้าของร้านทำค่ะ แต่วันนี้ลูกสาวของพี่เพชรป่วย ก็เลยวุ่นวายนิดหน่อย” “เพชร” เขาพึมพำชื่อเสียงทุ้มเย็น แต่ใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกคำถาม “ค่ะ ปกติเจสจะมีเพื่อนอีกคนที่ทำงานคู่กันชื่อหน่อย พอน้องไข่มุกป่วย พี่เพชรก็เลยต้องอยู่บ้านดูแลน้อง ให้หน่อยไปรับขนมจากบ้านพี่เพชรไปส่งตามร้านแทนน่ะค่ะ” “จัดใส่ถุงให้ผมอย่างละสองชิ้นนะครับ” เขาจะยังไม่วู่วามให้ผิดสังเกต ระหว่างที่เจสซี่เริ่มชงกาแฟ เขาก็ถามสิ่งที่ทำให้กังวล “น้องไข่มุกเป็นอะไรมากไหมครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม