เพราะต้องการช่วยเหลือผู้มีพระคุณ ทำให้บุษกรเลือกเส้นทางที่ผิดพลาด เธอแอบเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งหวังจะขโมยของ ใช่...เธอได้มาจริง ๆ สิ่งนั้นทำให้เธอได้พบกับพีรายุ ที่ไม่เอาความแต่เธอต้องทำตามที่เขาต้องการ การแต่งงานโดยสองคนที่มีข้อตกลงจึงเกิดขึ้น แต่พีรายุกลับไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่...จบลงอย่างรวดเร็วเขาจึงต้องมัดบุษกรไว้ข้างกายด้วยเสน่หา
“อือ...” บุษกรเบี่ยงส่ายหน้าหนี พลางทุบอกกว้างรัวเร็ว เธอไม่น่าคิดผิดเดินติดกับดักที่อีตานี่วางไว้เลย ให้ตายสิ! มาคิดได้ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว คอยดูนะ...ถ้าหนีได้เมื่อไหร่ ไม่ว่าจะถูกขู่ยังไงก็ตามสบายแล้วกัน
แม้จะไม่เจ็บ แต่เมื่อถูกบ่อย ๆ พีรายุก็รู้สึกรำคาญเหมือนกัน เขาเลยจับรั้งแขนเรียวขึ้นไปตรึงไว้เหนือศีรษะ พลางกดจุมพิตเว้าวอนขอให้บุษกรผ่อนคลายและลดอาการขัดขืนลง มือที่ว่างอยู่ก็เริ่มขยับเคลื่อนเข้าหาสองปทุมถันอวบอิ่มอย่างเชื่องช้า
“ไม่ทำอย่างนี้นะคุณ” บุษกรยังฝืนต้านความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้น “เราเพิ่งจะเจอกัน ยังไม่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันเลยนะ คุณให้เวลาฉันปรับตัวปรับใจหน่อยได้ไหม นะคะคุณกลาง”
“จะช้าหรือเร็ว ผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน สู้ทำใจยอมรับเสียแต่ตอนนี้ดีกว่าบัว ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด” เขาปลอบประโลมบุษกรที่กลัวจนตัวสั่น ขณะเดียวกันก็ปั่นป่วนเพราะพิษเพลิงสาวที่เขาปลุกเร้าขึ้น
“ถ้าเธอไม่หักหลังกัน ฉันสัญญา จะดูแลเธอและแม่ไม่ให้เดือดร้อนทั้งกายและใจ” ส่วนหัวใจ...เขาไม่คิดที่จะมอบให้ใครในตอนนี้
“ฉันไม่...” ‘ต้องการ’ เลือนหายไปในปาก เมื่อพีรายุแนบจูบลงมา พร้อมสอดแทรกเรียวลิ้นล่วงล้ำแต่งแต้มไปในโพรงปากอุ่น แม้จะอ่อนแรง หากบุษกรก็ยังคงต้านทานไฟสวาทที่ไหลบ่าเข้ามาหา
พีรายุดึงเอาปมผ้าขนหนูออกช้า ๆ เพราะไม่ต้องการให้บุษกรได้สติและขัดขืนขึ้นมาอีก ชายหนุ่มฟอนเฟ้นปทุมถันอวบอิ่มอย่างช้า ๆ แต่เน้นความหนักแน่นหน่วง พร้อมเว้าวอนให้หญิงสาวตอบสนอง ริมฝีปากหนาแนบจุมพิตไปทั่วใบหน้าขาวนวลหอมกรุ่น
“ระหว่างเรามาไกลเกินจะหยุดได้แล้วล่ะบัว” ดวงตาคมมองกายอรชรพร้อมกับมือใหญ่ที่ลากไล้ไปทั่วอย่างหลงใหล
“ฉันต้องการเธอตั้งแต่เห็นหน้าอย่างชัดเจน ถึงตอนนี้ยิ่งปรารถนาจนหักห้ามใจไว้ไม่ได้”