8|เพื่อนรัก

1064 คำ
“มึงทำเหี้ยไรเพื่อนกู” “สัว” ฉันหันไปมองเจ้าของน้ำเสียงเอาเรื่อง เจ้าสัว เพทาย เจ และออสติน ยกพวกมากันหมด “มึงทำอะไรเพื่อนกู” มันถามย้ำอีกครั้ง “หายเดี้ยงแล้วเหรอ” ฉันต้องรีบวิ่งไปจับแขนไอ้สัวแล้วออกแรงดึงมันออกมาเพราะกลัวว่าจะมีเรื่อง “มึงอะไรเนี่ยเกี๊ยว มันทำอะไรมึง” มันพยายามสะบัดแขนฉันออก “กูเนี่ย ทำเค้า” มันชะงัก “มึงมาหาเรื่องเค้าถึงคณะเนี่ยนะ” ฉันพยักหน้ารับ ไม่เชิงหาเรื่องหรอก พอดีมีธุระแถวนี้แล้วบังเอิญเจอก็เลยถาม “แค่ถาม” ฉันตอบสั้นๆ อยากรู้ว่าใครเอาข่าวไปแจ้ง ไอ้สัวถึงได้ตื่นตูมวิ่งหน้าตั้งมาแบบนี้ “กูบอกแล้วว่าไม่ให้มึงยุ่งกับมันอีก” “กูแค่อยากรู้แล้วตอนนี้กูก็ได้คำตอบแล้ว” “มันทำอะไรมึงหรือเปล่า” ฉันรีบส่ายหน้า แค่ปะทะฝีปากกันนิดหน่อย “กูจัดการได้ ไม่ต้องห่วง” “เออ งั้นก็กลับ” ที่ไอ้พี่บอมไม่กล้าทำอะไรฉันก็เพราะพ่อเจ้าสัวจัดการเรื่องอุบัติเหตุวันนั้นได้อย่างเด็ดขาด ไม่มีการลงไม้ลงมือแต่อย่างใดพูดคุยกันด้วยเหตุผลพร้อมยอมรับทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องที่ฉันอยากรู้ก็ได้รู้หายข้องใจเรียบร้อย “มึงไม่ต้องทำอะไรเพื่อกูแล้วนะต่อไปนี้” “ทำไม” เจ้าสัวหยุดเดินแล้วสอดมือล้วงกระเป๋าถามด้วยท่าทางนักเลง “กูไม่อยากให้มึงเจ็บตัว” มันยักไหล่แล้วเดินนำหน้าฉันไป ไอ้บ้านี่เคยฟังกันบ้างมั้ย “รู้เรื่องมั้ยเนี่ย” ฉันรีบวิ่งตามแล้วใช้มือดึงแขนมันให้หยุดเดิน “อะไรอีก” “เข้าใจที่พูดมั้ย ใครจะพูดอะไรก็ช่างแม่ง กูไม่สนใจ” “แล้วที่มึงทำให้กูตกใจเนี่ย คืออะไร” “เพทายต่างหากที่ตื่นตูมไปเอง” “อย่ามาโทษกันดิ” เพทายรีบค้าน แล้วเดินหนีไปทางอื่น “ไม่มีใครทำอะไรกูได้หรอก ใครๆ ก็รู้ว่ากูน่ะเพื่อนสนิทลูกชายมาเฟีย” “อย่าทำอะไรลับหลังกูอีก” “ถ้าบอก มันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไง” “เรื่องใหญ่มันก็ดีกว่ามึงโดนไอ้เหี้ยนั่นทำไม่ดีใส่ปะ” “เออๆ รู้แล้ว จบแค่นี้” “ไปกินข้าว เดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่ทัน” พอกินข้าวเที่ยงเสร็จก็แยกย้ายไปเรียน หนุ่มๆ คณะบริหารเดินมาส่งสาวนิเทศถึงหน้าตึก สร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมาก ส่วนฉัน ชินแล้วเพราะเจ้าสัวทำแบบนี้เสมอ “เลิกเรียนแล้ว รอกูด้วย” “อือ ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวสาวๆ แถวนี้ก็เป็นลมตาย” “คนมันหล่อ” ฉันบิดปากแล้วหันหลังเดินเข้าตึกทันที “พี่เจ้าสัว” “พี่เพทายเมื่อไหร่จะถึงคิวหนูคะ” “พี่เจ เมื่อวานขนมอร่อยมั้ยคะ” “หนูอยากได้พี่เป็นผัวสักที พี่เจ กรี๊ดดด” แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือเสียงกรี๊ดและวาจาลวนลามจนทำให้เพื่อนแต่ละคนของฉันรีบเดินกลับคณะของตัวเอง เป็นเพราะแบบนี้หรือถึงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาจีบฉัน ผู้ชายเดินล้อมหน้าล้อมหลัง โดยเฉพาะไอ้สัวที่ชอบทำตัวเหมือนผัวเข้าไปทุกวัน ฉันก้มมองเวลาและเงยหน้ามองของตรงหน้าที่ต้องจัดการ อาทิตย์หน้าคณะของเราจะมีการแสดงละครเวที ชั้นปีของฉันได้รับหน้าที่ดูแลชุดนักแสดงและของเข้าฉากทั้งหมด นี่ก็เกือบห้าโมงเย็นที่ฉันยังนั่งเช็กชุดไม่เสร็จ “เกี๊ยวฝากเช็กชุดตัวประกอบด้วยนะ” “โอเคได้ แล้วนี่จะไปไหนกันอะ” “ไปกินข้าวแป๊บนึง ฝากซื้ออะไรมั้ย” ฉันนึกในใจ ใจคอพวกมันจะไม่ชวนฉันไปด้วยเลยเหรอ “ไม่ดีกว่า ตามสบายเลย” การมีเพื่อนคณะเดียวกันมันดี๊ด๊าได้แบบนี้นี่เอง ฉันหมายถึงพากันอู้งานไปกินข้าวหน้าตาเฉยแล้วทิ้งให้ฉันทำคนเดียวทั้งๆ ที่ทุกคนต้องช่วยกัน พึบ! ฉันวางชุดในมือลงบนพื้น เรื่องอะไรที่ฉันต้องทำคนเดียว รอให้พวกนั้นกลับมาค่อยเริ่มลงมือ Line เจ้าสัว : เลิกหรือยัง ทำไมวันนี้ช้า กูหิวข้าว เจ้ากรรมนายเวรไลน์ตามละ ME : ไปกินก่อนเลยมีงานเข้า เจ้าสัว : จะรอ ME : ดึก เจ้าสัว : รอ คุยกับคนมึน เหนื่อย! อยากรอก็รอไป เพราะคนอย่างมันคำไหนคำนั้น หลังจากคุยกับสัวเสร็จฉันก็หยิบช็อกโกแลตในกระเป๋ามานั่งกินพลางๆ ระหว่างรอพวกนั้นกลับมาจากกินข้าว ครึ่งชั่วโมงผ่านไป นั่งรอจนเมื่อยต้องลุกเดินไปชะโงกดูว่ากลับมาหรือยัง “ไปกินข้าวถึงไหนวะ” รู้สึกตงิดใจว่าพวกนั้นคงไม่กลับมาแล้ว โคตรเซ็งที่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกับยัยพวกนี้ พึบ! ไฟดับ ฉันรีบเปิดไฟจากมือถือแล้วลุกเดินไปที่ประตูทันที พี่ปี4ก็แจ้งลุงยามไปแล้วนี่ว่าจะใช้ห้องนี้คืนนี้ กำลังจะถึงประตู ประตูก็ถูกปิด “เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งปิด มีคนอยู่ในนี้” ปัง! ฉันใช้มือทุบประตูรัวๆ แล้วร้องบอกคนข้างนอกให้เปิดประตู จะร้องไห้แล้วนะ กลับมาแกล้งกันแบบนี้ไม่น่ารักเลย “เปิดดิวะ อีพวกบ้า” ฉันอยู่ในห้องมืดคนเดียว มีเพียงแสงไฟจากมือถือเท่านั้น กลัวผี กลัวมากๆ เลย ฉันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักชอบใจ มันไม่ตลกเลยนะฉันอาจตายได้เลยนะพวกนั้นไม่คิดบ้างเหรอ “บอกให้เปิดไง” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่ไหวแล้วนะ เสียงข้างนอกเงียบไปแล้ว มือที่จับมือถือสั่นหงึกๆ พยายามประคองสติและบังคับมือของตัวเองเลื่อนหน้าจอแล้วหาชื่อ เจ้าสัว ให้เจอโดยเร็ว พอหาเจอฉันก็รีบกดโทรออกทันที รอไม่นานเจ้าสัวก็รับสาย “กูหิวข้าวแล้วเกี๊ยว เสร็จยัง” “สัว ฮึก” พอได้ยินเสียงเจ้าสัวก็แทบปล่อยโฮ พยายามฮึบเอาไว้เพราะกลัวพูดไม่รู้เรื่อง “มึงอยู่ไหน” “ห้อง ฮึก ห้อง” ฉันอยากยกมือตบปากตัวเองแรงๆ ติดอ่างสะอึกสะอื้นอะไรนักหนาก็ไม่รู้ “เดี๋ยวกูไปหา” _______________
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม