“มึงทำเหี้ยไรเพื่อนกู”
“สัว” ฉันหันไปมองเจ้าของน้ำเสียงเอาเรื่อง เจ้าสัว เพทาย เจ และออสติน ยกพวกมากันหมด
“มึงทำอะไรเพื่อนกู” มันถามย้ำอีกครั้ง
“หายเดี้ยงแล้วเหรอ” ฉันต้องรีบวิ่งไปจับแขนไอ้สัวแล้วออกแรงดึงมันออกมาเพราะกลัวว่าจะมีเรื่อง
“มึงอะไรเนี่ยเกี๊ยว มันทำอะไรมึง” มันพยายามสะบัดแขนฉันออก
“กูเนี่ย ทำเค้า” มันชะงัก
“มึงมาหาเรื่องเค้าถึงคณะเนี่ยนะ” ฉันพยักหน้ารับ ไม่เชิงหาเรื่องหรอก พอดีมีธุระแถวนี้แล้วบังเอิญเจอก็เลยถาม
“แค่ถาม” ฉันตอบสั้นๆ อยากรู้ว่าใครเอาข่าวไปแจ้ง ไอ้สัวถึงได้ตื่นตูมวิ่งหน้าตั้งมาแบบนี้
“กูบอกแล้วว่าไม่ให้มึงยุ่งกับมันอีก”
“กูแค่อยากรู้แล้วตอนนี้กูก็ได้คำตอบแล้ว”
“มันทำอะไรมึงหรือเปล่า” ฉันรีบส่ายหน้า แค่ปะทะฝีปากกันนิดหน่อย
“กูจัดการได้ ไม่ต้องห่วง”
“เออ งั้นก็กลับ” ที่ไอ้พี่บอมไม่กล้าทำอะไรฉันก็เพราะพ่อเจ้าสัวจัดการเรื่องอุบัติเหตุวันนั้นได้อย่างเด็ดขาด ไม่มีการลงไม้ลงมือแต่อย่างใดพูดคุยกันด้วยเหตุผลพร้อมยอมรับทั้งสองฝ่าย
ส่วนเรื่องที่ฉันอยากรู้ก็ได้รู้หายข้องใจเรียบร้อย
“มึงไม่ต้องทำอะไรเพื่อกูแล้วนะต่อไปนี้”
“ทำไม” เจ้าสัวหยุดเดินแล้วสอดมือล้วงกระเป๋าถามด้วยท่าทางนักเลง
“กูไม่อยากให้มึงเจ็บตัว” มันยักไหล่แล้วเดินนำหน้าฉันไป ไอ้บ้านี่เคยฟังกันบ้างมั้ย
“รู้เรื่องมั้ยเนี่ย” ฉันรีบวิ่งตามแล้วใช้มือดึงแขนมันให้หยุดเดิน
“อะไรอีก”
“เข้าใจที่พูดมั้ย ใครจะพูดอะไรก็ช่างแม่ง กูไม่สนใจ”
“แล้วที่มึงทำให้กูตกใจเนี่ย คืออะไร”
“เพทายต่างหากที่ตื่นตูมไปเอง”
“อย่ามาโทษกันดิ” เพทายรีบค้าน แล้วเดินหนีไปทางอื่น
“ไม่มีใครทำอะไรกูได้หรอก ใครๆ ก็รู้ว่ากูน่ะเพื่อนสนิทลูกชายมาเฟีย”
“อย่าทำอะไรลับหลังกูอีก”
“ถ้าบอก มันก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไง”
“เรื่องใหญ่มันก็ดีกว่ามึงโดนไอ้เหี้ยนั่นทำไม่ดีใส่ปะ”
“เออๆ รู้แล้ว จบแค่นี้”
“ไปกินข้าว เดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่ทัน”
พอกินข้าวเที่ยงเสร็จก็แยกย้ายไปเรียน หนุ่มๆ คณะบริหารเดินมาส่งสาวนิเทศถึงหน้าตึก สร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมาก ส่วนฉัน ชินแล้วเพราะเจ้าสัวทำแบบนี้เสมอ
“เลิกเรียนแล้ว รอกูด้วย”
“อือ ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวสาวๆ แถวนี้ก็เป็นลมตาย”
“คนมันหล่อ” ฉันบิดปากแล้วหันหลังเดินเข้าตึกทันที
“พี่เจ้าสัว”
“พี่เพทายเมื่อไหร่จะถึงคิวหนูคะ”
“พี่เจ เมื่อวานขนมอร่อยมั้ยคะ”
“หนูอยากได้พี่เป็นผัวสักที พี่เจ กรี๊ดดด”
แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือเสียงกรี๊ดและวาจาลวนลามจนทำให้เพื่อนแต่ละคนของฉันรีบเดินกลับคณะของตัวเอง
เป็นเพราะแบบนี้หรือถึงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาจีบฉัน ผู้ชายเดินล้อมหน้าล้อมหลัง โดยเฉพาะไอ้สัวที่ชอบทำตัวเหมือนผัวเข้าไปทุกวัน
ฉันก้มมองเวลาและเงยหน้ามองของตรงหน้าที่ต้องจัดการ อาทิตย์หน้าคณะของเราจะมีการแสดงละครเวที ชั้นปีของฉันได้รับหน้าที่ดูแลชุดนักแสดงและของเข้าฉากทั้งหมด นี่ก็เกือบห้าโมงเย็นที่ฉันยังนั่งเช็กชุดไม่เสร็จ
“เกี๊ยวฝากเช็กชุดตัวประกอบด้วยนะ”
“โอเคได้ แล้วนี่จะไปไหนกันอะ”
“ไปกินข้าวแป๊บนึง ฝากซื้ออะไรมั้ย” ฉันนึกในใจ ใจคอพวกมันจะไม่ชวนฉันไปด้วยเลยเหรอ
“ไม่ดีกว่า ตามสบายเลย”
การมีเพื่อนคณะเดียวกันมันดี๊ด๊าได้แบบนี้นี่เอง ฉันหมายถึงพากันอู้งานไปกินข้าวหน้าตาเฉยแล้วทิ้งให้ฉันทำคนเดียวทั้งๆ ที่ทุกคนต้องช่วยกัน
พึบ!
ฉันวางชุดในมือลงบนพื้น เรื่องอะไรที่ฉันต้องทำคนเดียว รอให้พวกนั้นกลับมาค่อยเริ่มลงมือ
Line
เจ้าสัว : เลิกหรือยัง ทำไมวันนี้ช้า กูหิวข้าว
เจ้ากรรมนายเวรไลน์ตามละ
ME : ไปกินก่อนเลยมีงานเข้า
เจ้าสัว : จะรอ
ME : ดึก
เจ้าสัว : รอ
คุยกับคนมึน เหนื่อย!
อยากรอก็รอไป เพราะคนอย่างมันคำไหนคำนั้น หลังจากคุยกับสัวเสร็จฉันก็หยิบช็อกโกแลตในกระเป๋ามานั่งกินพลางๆ ระหว่างรอพวกนั้นกลับมาจากกินข้าว
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
นั่งรอจนเมื่อยต้องลุกเดินไปชะโงกดูว่ากลับมาหรือยัง
“ไปกินข้าวถึงไหนวะ” รู้สึกตงิดใจว่าพวกนั้นคงไม่กลับมาแล้ว โคตรเซ็งที่ต้องอยู่กลุ่มเดียวกับยัยพวกนี้
พึบ!
ไฟดับ
ฉันรีบเปิดไฟจากมือถือแล้วลุกเดินไปที่ประตูทันที พี่ปี4ก็แจ้งลุงยามไปแล้วนี่ว่าจะใช้ห้องนี้คืนนี้
กำลังจะถึงประตู ประตูก็ถูกปิด
“เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งปิด มีคนอยู่ในนี้”
ปัง!
ฉันใช้มือทุบประตูรัวๆ แล้วร้องบอกคนข้างนอกให้เปิดประตู จะร้องไห้แล้วนะ กลับมาแกล้งกันแบบนี้ไม่น่ารักเลย
“เปิดดิวะ อีพวกบ้า”
ฉันอยู่ในห้องมืดคนเดียว มีเพียงแสงไฟจากมือถือเท่านั้น
กลัวผี กลัวมากๆ เลย
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักชอบใจ มันไม่ตลกเลยนะฉันอาจตายได้เลยนะพวกนั้นไม่คิดบ้างเหรอ
“บอกให้เปิดไง” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่ไหวแล้วนะ
เสียงข้างนอกเงียบไปแล้ว มือที่จับมือถือสั่นหงึกๆ พยายามประคองสติและบังคับมือของตัวเองเลื่อนหน้าจอแล้วหาชื่อ เจ้าสัว ให้เจอโดยเร็ว
พอหาเจอฉันก็รีบกดโทรออกทันที
รอไม่นานเจ้าสัวก็รับสาย
“กูหิวข้าวแล้วเกี๊ยว เสร็จยัง”
“สัว ฮึก” พอได้ยินเสียงเจ้าสัวก็แทบปล่อยโฮ พยายามฮึบเอาไว้เพราะกลัวพูดไม่รู้เรื่อง
“มึงอยู่ไหน”
“ห้อง ฮึก ห้อง” ฉันอยากยกมือตบปากตัวเองแรงๆ ติดอ่างสะอึกสะอื้นอะไรนักหนาก็ไม่รู้
“เดี๋ยวกูไปหา”
_______________