เมื่อไอรักเริ่มรู้สึกสับสนหัวใจของตัวเอง ส่วนนรินทร์เองก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น วันเวลาเดินผ่านไปอย่างช้าๆ ก้าวเข้าสู่เดือนใหม่
ลมหนาวพัดกระทบร่างสูงใหญ่ที่ยืนเหม่อมองออกไปยังพื้นที่ที่แสนไกล ทำไมไอรักถึงทำตัวเหินห่างจากเขานักนะ มันดูผิดปกติจริงๆ เธอเป็นอะไรกันแน่
“นายจ๋า ชอบสาวคนนั้นเหรอจ๊ะ?”
ภาคภูมิยื่นหน้าเสนอเข้ามาใกล้ๆ นรินทร์ เผยให้เห็นรอยยิ้มไร้เดียงสากับฟันหลอไม่ครบซี่ คำถามของเด็กซื่อๆ ทำเอาผู้ใหญ่ตัวสูงถึงกับชะงักกึก
“นายนี่ไม่ได้เรื่องเลยนะ” ภาคภูมิยังไม่อดพูดแซวผู้เป็นนายอีกครั้งพลางส่ายหน้าไปมา
“อะไรของเอ็ง”
“ก็จีบสิ! นายจีบพี่คนสวยคนนั้นเลย ถ้าเป็นภาคไม่ได้หรอก ผมได้เธอคนนั้นเป็นแฟนนานแล้ว”
“หืม ไอ้เด็กแก่แดด มาให้ข้าเตะสักทีมา”
“โอ๊ย! นาย”
ไอรักหันมามองเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกของภาคภูมิ ไหนแพรวพราวว่านายนั่นหงอย ดูสิ เล่นกับเด็กซะร่าเริงเชียว ไม่รู้ที่หน้าบานเพราะเด็กหรือเพราะผู้หญิงคนนั้นกันแน่ ชิ!
“เอ...ไหงแกมองเขาซะตาแทบจะหลุดอย่างนั้นล่ะ” แพรวพราวอดไม่ได้ที่จะแซวเพื่อนสาว
ไอรักเบือนหน้ากลับมาทางเดิมพลางปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ได้มองเสียหน่อย”
“จ้า ไม่ได้มอง ไม่ได้สนใจเล๊ย! เฮ้อ...ถามจริง ทำไมไม่คุยกันไปเลยตรงๆ จะได้ไม่ค้างคาใจ”
“จะให้คุยอะไรล่ะ?”
ไอรักเอ่ยถามตรงประเด็น ก็ในเมื่อคนทำมันยังไม่รู้เลยว่าไปพรากความบริสุทธิ์ใครเขามา แล้วเธอจะหน้าด้านไปพูดโต้งๆ เรียกความยุติธรรมให้ตนเองได้ยังไง เกิดเขาไม่ยอมรับขึ้นมา ที่นี้ล่ะได้ขายหน้าเสียยิ่งกว่าเดิมแน่
“แล้วแกจะยอมเสียตัวฟรีๆ แบบนี้เหรอวะ ยอมเหรอ?” แพรวพราวลองหยั่งเชิงเพื่อนสาวดู เพราะด้วยนิสัยของเจ้าหล่อนแล้ว ถึงแม้จะดูสดใสและใสซื่อดูไม่มีอะไร แต่เนื้อแท้ของเธอจริงๆ แล้วร้ายพอตัว รั้นพอใช้ได้ และดื้อดึงไม่มีใครเกิน
“ก็ไม่แน่หรอก เขาอาจะมีเมียอยู่แล้วก็ได้นี่ เหอะ!”
“เหมือนเมียกำลังงอนผัวเลยเนอะ” แพรวพราวอดไม่ได้ที่จะพูดแหย่เพื่อนสาวอีกครั้ง ก็ดูท่าทางของเจ้าหล่อนสิ น่าหมั่นใส้จริงๆ
“แพรว!”
“ก็มันจริงนี่ พูดก็พูดนะเพื่อนรัก ฉันเห็นพวกแกมองกันไปมองกันมาแบบนี้ได้อะไรวะ ถ้าแกไม่หวังจะให้เขามารับผิดชอบก็ไม่ต้องไปสนใจสิ และไม่ต้องไปแอบเหล่มองเขาด้วย แต่ที่แกทำอยู่ในตอนนี้นี่คือคาดหวัง แกคาดหวังให้เขาจำได้ว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นแกใช่ไหม?”
“แพรว…”
ไอรักเรียกชื่อเพื่อนออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใช่! แพรวพราวพูดถูกทุกคำ ถึงการแสดงออกของเธอจะทำทีเป็นไม่สนใจไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น แต่ในใจลึกๆ เธอรู้ใจตัวเองดีเสียยิ่งกว่าใคร
“สวัสดีครับ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมได้ถ่ายทอดความรู้พื้นฐานไปให้พวกคุณหมดแล้ว มาเดือนนี้ เป็นเดือนที่เราต้องลงมือทำกันจริงๆ โดยไม่มีคนมาคอยสอนอยู่ข้างๆ อีกแล้ว ผมหวังว่าพวกคุณจะตั้งใจและเรียนรู้มันได้มากเท่าที่ต้องการนะครับ” ลุงสิงกล่าวเล็กน้อยพอเป็นพิธี ก่อนจะการแบ่งโซนให้นักศึกษาได้มีโอกาสลงมือศึกษางานด้วยตนเอง
นรินทร์ยืนมองอยู่ครู่หนึ่งก็มีคนงานเดินมารายงานถึงแขกผู้มาใหม่ ส่วนไอรักยืนเม้มปากมองพื้นที่ว่างตรงหน้าอย่างชั่งใจ เธอมาที่นี่เพื่ออยากลองงานจริงไม่ใช่หรือ ถ้าเธอทำสำเร็จ สวนของแม่เธอก็จะเกิดใหม่อีกครั้ง
“ขอโทษนะครับ เอ่อ…บ้านใหญ่อยู่ทางไหนอ่ะครับ?”
พอตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างนี่ชอบมีคนมาขัดอยู่เรื่อยเลย ไอรักหันไปมองก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าคนที่มาใหม่ที่แสนคุ้นเคย ก่อนที่หญิงสาวจะเอามือตบบ่าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความดีใจ
“เฮ้ย! ไอ้กล้า”
“เอ่อ…” ชายหนุ่มถึงกับยืนงงทำตาปริบๆ
“ไหนไอ้กล้า! เฮ้ย! มาได้ไงวะ” แพรวพราววิ่งโร่มาแต่ไกล เมื่อเธอเข้าไปในบ้านใหญ่เพื่อเอาอุปกรณ์ที่ต้องใช้วันนี้ พอได้ยินเสียงไอรักพูดชื่อกล้า ความสนิทที่มีมากมายผลักดันให้เธอวิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิต คว้าหมับกอดร่างเพื่อนชายเต็มรัก
“คือ…ผมไม่ใช่กล้านะครับ ผมเป็นแฝดกล้าชื่อกร แฮ่ๆ”
ทันทีที่ได้ยินเท่านั้นแหละ สองสาวถึงกับเก้อเขินขึ้นมาทันที ยิ่งเป็นแพรวพราวที่เป็นฝ่ายกอดชายหนุ่มตรงหน้าแล้วด้วยนั้น หญิงสาวถึงกับหลบหน้าหลบตาแอบอิงอยู่หลังไอรักด้วยความเขินอาย
“เคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่คิดว่าจะได้เจอกรนะเนี่ย โทษที เหมือนกันมากเลย” ไอรักพูดพลางอดทึ่งกับหน้าตาของชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ ช่างเหมือนกันราวกับแกะจริงๆ
“ไม่เป็นไรๆ”
กรมองไอรักด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แพรวพราวแอบหรี่ตาสังเกตการณ์ทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่ากรมาถามทางเธอ ไอรักจึงรีบชี้มือบอกไปในทันที กรยิ้มให้พร้อมกับคำขอบคุณ
ตกบ่าย ณ ลานพักกลางวันที่ตอนนี้มีกลุ่มนักศึกษามารวมตัวกันมากมาย นรินทร์พูดแนะนำสั้นๆ ให้เหล่านักศึกษากลุ่มใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามา ส่วนลุงสิงแนะนำให้ทุกคนจับบัดดี้กันระหว่างสองสถาบัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้รู้จักกันง่ายขึ้น ซึ่งมันก็ดีต่อการทำการสอนของนรินทร์ด้วยนั่นเอง
ไอรักยิ้มแย้มมากขึ้นเมื่อได้เจอเพื่อนใหม่ที่คุยสนุกมาก เธอได้ฟังเรื่องราวจังหวัดอื่นๆ ที่เธอไม่เคยไป ส่วนนรินทร์เองก็ไม่ค่อยมาให้เธอเห็นสักเท่าไหร่ ทำให้ไอรักรู้สึกโล่งอกขึ้นบ้าง แต่ทว่าในใจของเธอลึกๆ แล้วมันกลับโหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก