3 'บ้านอาจณรงค์' - 1

1836 คำ
บ้านอาจณรงค์... จะเป็นคฤหาสน์ทรงยุโรปสีขาวหลังงามโดดเด่นเป็นสง่า โดยมีต้นไม้สูงอยู่รายล้อมตัวคฤหาสน์ และคฤหาสน์หลังดังกล่าวนี้ ก็เป็นของเศรษฐีที่มีชื่อติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศเลยทีเดียว ความร่ำรวยมั่งคั่งของตระกูลเกิดจากการทำมาค้าขายของบรรพบุรุษ กระทั่งมีการขยายไปดำเนินธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย และสุดท้าย ตระกูลอาจณรงค์ก็ได้กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ติดอันสามของประเทศอยู่ในปัจจุบัน                     และแม้ผู้ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังงามนี้ จะมั่งคั่งร่ำรวยมีชีวิตอย่างสุขสบายแค่ไหน ทว่า เช้านี้ความขุ่นมัวก็กำลังกัดกินจิตใจของหนึ่งในผู้ครอบครองนั้นคฤหาสน์หลังงามนี้ไม่น้อย เนื่องด้วยทายาทคนเดียวของตระกูลได้หายตัวไปและติดต่อไม่ได้หลายวันแล้ว     จนกระทั่งสตรีร่างระหงผู้ที่ร่วมเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังงามนี้จะต้องลุกขึ้นมาอาละวาดอย่างอดรนทนไม่ไหวในที่สุด "หลานชายของรุ่งหายตัวไปหลายวัน แต่ไม่มีใครรู้เรื่องเลยสักคน นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน...!"                           "ยังไม่ชินอีกหรือรุ่ง" เสียงห้าวของใครอีกคนดังขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้านกับอาการเดือดร้อนของสตรีตรงหน้า   แล้วร่างระหงนั้นก็หันขวับกลับมามองเจ้าของเสียงห้าวนี้ พลางถามกลับทันที "ชิน? ชินยังไงคะคุณอัศ"   คนถูกย้อนถาม แถมยังโดนจ้องกลับด้วยแววตาขุ่นเคืองทำหน้าคล้ายลำบากใจที่จะพูด แต่สายตาผู้ถามยังจ้องเขม็งที่ตนอย่างคาดคั้นจะเอาคำตอบเสียให้ได้ บุรุษวัยหกสิบจึงจำต้องเอ่ยว่า "ก็ แหม จะให้พูดตรง ๆ"                                                           รุ่งระวีจึงเดินตรงแล้วมาหยุดตรงหน้าบุรุษดังกล่าว ตวัดสองมือกอดอกพลางบอก "พูดถึงขนาดนี้ ก็พูดมาให้จบ ๆ ไปเลยค่ะ คุณอัศ"                                                                                                          คุณอัศวิน อาจณรงค์ กระแอมไอสองสามทีก่อนจะบอกภรรยาที่ยังสาวยังสวยอยู่ตรงหน้าว่า "ก็ที่พ่อหลานชายยอดขมองอิ่มของคุณหายตัวไปก็เพราะคุณนั่นแหละ...รุ่ง"                                               "เพราะรุ่ง อย่างไรกันคะ เอ๊ะ! พูดมาดี ๆ นะคะคุณ" รุ่งระวีถามกลับด้วยอาการตาขวางจัด     "อ้าว! ก็ที่คุณเล่นนัดลูกสาวบ้านนั้นบ้านนี้ แล้วหลอกล่อพาหลานชายคุณไปดูตัว เมื่อตารันเขารู้แกว เขาก็เตลิดเปิดเปิงไปเหมือนทุกครั้งน่ะสิ"                                                                                       รุ่งระวีเถียงไม่ออก จริงอย่างที่สามีตนว่า การนัดหมายสาว ๆ ของคนรู้จักบ้าง ของเพื่อนฝูงบ้างไว้ให้หลานชายยอดขมองอิ่มดูตัว อาจจะมีส่วนทำให้หลานชายของตนเร้นกายหายไปจากบ้านได้ ทว่า ครั้งนี้ 'ดรัน' ได้หายไปนานอย่างผิดปกติ จนตนก็ชักหวั่นใจว่าอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นกับหลานชายสุดที่รักคนนี้เข้า                                 เมื่อเถียงไม่ออกรุ่งระวีตวัดมือกอดอก แล้วใช้กิริยาค้อนปะหลับปะเหลือกใส่สามีที่นั่งทอดตัวอย่างสบายบนโซฟาสีทอง และยังหัวเราะร่วนกับกิริยาอย่างนี้ของหล่อน แต่สุดท้ายรุ่งระวีก็ยังไม่ยอมแพ้จึงว่าอย่างตั้งข้อสังเกตอีก "แต่ครั้งนี้  ตารันหายตัวนานเกินไปแล้วนะคุณ ทุกครั้งที่หายไป สองวันสามวัน อย่างมากก็แค่สามวันก็กลับมาแล้ว แต่นี่..."   "ห้าวันแล้วก็ยังไม่กลับ" สามีต่อให้ยิ้ม ๆ                                          "ใช่ แล้วมันนานเกินกว่าทุกครั้งมั้ยล่ะคะ คุณอัศ"               คุณอัศวินส่ายหน้าแทนคำตอบแรก และจากนั้นเหมือนตนและภรรยาจะได้ยินที่เสียงตะโกนบอกต่อกันเป็นทอด ๆ อยู่ภายนอกคฤหาสน์หลังนี้ว่า  "คุณหนูกลับมาแล้ว! คุณหนูกลับมาแล้ว!"                                      ไม่นานชายร่างสูง ค่อนข้างดูโทรมไปกว่าทุกครั้งก็ปรากฏตัวขึ้น เขากำลังเดินเข้ามายังห้องโถงโอ่อ่าของคฤหาสน์ และทันทีที่รุ่งระวีเห็นร่างของคนที่ทำให้ตัวเองทุกข์ร้อนใจมาหลายวัน ก็หมายใจว่าจะวิ่งเข้าไปกอดพ่อหลานชายตัวดีให้หายคิดถึง แต่ก็ไม่ทัน เพราะดันมีร่างอ้วนกลมของหญิงชราวัยหกสิบปีกว่า ชิงตัดหน้าเข้าไปกอดตัวเขาเสียก่อน แล้วรีบลูบเนื้อลูบตัวร่างสูงใหญ่นั้นอย่างรักใคร่อีก "คุณหนูรัน! คุณหนูของนมกลับมาแล้ว!" เอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดี ก่อนจะเงยหน้ามองสภาพของคุณหนูของตนด้วยความไม่ชอบใจนัก แล้วถามออกมาว่า "ทำไม คุณหนูถึงได้โทรมอย่างนี้ล่ะคะ"                  "ไม่เอาน่านมแม้น..." เสียงทุ้มนั้นบอกอย่างไม่ชอบใจ พร้อมกับบิดใบหน้าเข้มด้วยหนวดเคราหนีมืออูม ๆ ของอีกฝ่ายที่พยายามจับใบหน้าคมเข้มของตนตรึงไว้กับที่ เพื่อจะส่งสายตาตรวจจับหาสิ่งผิดปกติตามใบหน้าและร่างกายตนตาม  ชายหนุ่มรีบหลบสายตาหนีผู้สูงวัยกว่าอย่างซ่อนพิรุธ ไม่ได้เป็นเด็ดขาดที่จะให้แม่นมของตนรู้ว่า ตนได้รับบาดเจ็บมา ไม่อย่างนั้น...ต้องเป็นเรื่องใหญ่ไปอีกแน่ ๆ                                             "ไม่เอาอย่างไร ก็นมแม้นกอดคุณหนูมาตลอด ไม่อยากให้นมกอดอีกแล้ว" เสียงของผู้สูงวัยเอ่ยอย่างตะบึงตะบอน แฝงความน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด                                                                              ชายหนุ่มถอนใจ แล้วรีบอธิบาย "ไม่ใช่ ผมหมายถึงหยุดเรียกผมว่า คุณหนูเสียที เรียกคุณรันเฉย ๆ ก็พอ"                      "แหม นมก็เรียกแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนี่คะ คุณหนู"                  "ผมโตแล้ว อายุจะสามสิบอีกไม่กี่วันแล้ว จะมีลูกมีเมียวันนี้ วันพรุ่งนี้ก็ได้แล้ว หยุดเรียกว่าคุณหนูเถอะน่า" ชายหนุ่มบอกอีกอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ไม่ทันที่นมแม้นจะว่าอะไร เสียงของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้น   "ตาย! หลานน้า มะ... เมื่อกี้ว่าอะไรนะลูก..." เสียงแหลมนั้นอุทานอย่างดีใจ แล้วจึงเข้าไปดึงตัวอ้วนกลมของแม่นมออกไปจากตัวหลานรัก ก่อนจะรีบเบียดร่างระหงของตนเข้าไปแทนที่ พลางถามชายหนุ่มด้วยแววตาเจิดจ้าอีกว่า "มีลูกมีเมีย? แสดงว่า! รันเริ่มมีความคิดที่อยากจะแต่งงานแวบ ๆ เข้ามาในหัวแล้ว ใช่มั้ย ไป... ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าล้างตาโกนหนวดเคราแล้วไปบ้านหนูดาวกัน น้าจะพาไปดูตัวหนู..."                                                                               ดรันทำหน้าแย่เสียยิ่งกว่าโดนแม่นมของตนเรียกว่า ‘คุณหนู’ เขารีบปฏิเสธทันที "พอเลยครับ ๆ คุณน้าผมจะไม่ไปดูตัวกับสาวคนไหนอีกแล้วทั้งนั้น..." เขาเอ่ยพลางหลุบมองคุณน้าของตน แล้วก็นึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมา...  ทั้งนี้ทั้งนั้น เหมือนเขาจะได้พบหญิงสาวที่ถูกตาต้องใจแล้ว โดยที่เขาไม่ต้องไปแสวงหาจากที่ใดอีก  "ไม่ดู? …ก็เมื่อกี้รันบอกว่าจะมีลูกมีเมียได้แล้วนี่"                                  ดรันถอนหายใจอีกพรืด รีบว่าด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ "ไม่ใช่ ผมก็แค่เปรียบเทียบให้นมแม้นฟังว่า ไม่ควรเรียกผมว่าคุณหนูอีกต่อไปเพราะผมโตแล้ว"                                                                       "ก็ได้ ๆ" รุ่งระวียอมตอบรับไปก่อน ก่อนจะพิจารณาสภาพของชายหนุ่มอีกครั้งด้วยแววตาสนเท่ห์หนัก "ทำไมถึงได้โทรมแบบนี้ละรัน ผมเผ้า หนวดเครา...อี๋! อย่างกับไม่ได้สระ ไม่ได้โกนมาหลายวัน"   "อย่าว่าแต่สระแต่โกนเลย..." เขาเอ่ยแล้วทำหน้ายิ้ม ๆ "...แม้แต่น้ำห้าวันมาแล้วก็ยังไม่ได้อาบ"                                      เท่านั้นเองรุ่งระวีก็รีบดีดตัวออกห่างจากร่างหลานรัก เผลอทำหน้าขยะแขยงใส่ "ตายจริง! แล้วไปทำอะไรมาเล่า น้ำท่าถึงไม่ได้อาบ!                                                                                                            "มีเรื่องนิดหน่อย..." เขาอ้อมแอ้มตอบ ไม่อยากตอบตรง ๆ ว่าโดนโจรมันเอาไม้ฟาดหัวจนสลบ แล้วจับตัวโยนลงเรือของใครก็ไม่รู้ ก่อนที่พวกมันจะพากันถีบหัวเรือส่งไปตามแม่น้ำ                                     ดรันเริ่มเห็นนมแม้นและคุณน้าต่างก็ส่งสายตามองกันไปมาด้วยความสงสัยหนัก เขาจึงรีบปดเพื่อเปลี่ยนเรื่อง "ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้นหรอกครับ ผมก็แค่ไปนอนค้างบ้านเพื่อนมา"                                       "เพื่อนคนไหน? เอ๊ะ! มีรายชื่ออยู่ในสมุดบันทึกรายชื่อเพื่อนรันของน้ามั้ย ถ้าไม่มี รันช่วยเพิ่มให้น้าโดยด่วน ทั้งที่อยู่และ อ้อ ถ้าบ้านเขามีเบอร์โทรศัพท์ก็เขียนลงไปพร้อมกันด้วย เกิดครั้งหน้า รันหายตัวไปน้าจะได้โทรไปถามหาให้ครบทุกบ้าน" ว่าอย่างยืดยาวจบแล้ว รุ่งระวีก็รีบหมุนตัวเดินจากไปที่ไหนสักที่                                               ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนนิ่งอึ้ง ก่อนจะส่งสายตาไปทางคุณลุงที่นั่งส่ายหน้าเป็นระยะ ๆ กับการมะรุมมะตุ้มตัวเขาของคุณน้าและแม่นม แล้วผู้เป็นลุงก็ยักไหล่หนาขึ้นทำนองว่า ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้จริง ๆ จากนั้นก็รีบลุกจากโซฟาและเดินหนีหายไปในทันที ต่อจากนั้น ชายหนุ่มก็ใช้เวลาอยู่นานจนกว่าจะงัดร่างของนมแม้นออกจากตัว แล้วก็รีบถามถึงเลขาฯคู่กายเขาว่า                     "แล้วนายอาชาล่ะนมแม้น" ‘อาชา’ ที่ดรันหมายถึง ก็คือลูกชายของแม่นมของเขานั่นเอง  "อาชาก็ไปตระเวนตามหาตัวคุณหนูตามบ้านเพื่อน ๆ ของคุณหนูน่ะแหละค่ะ ตามคำสั่งของ..."  "น้าสั่งเอง..." รุ่งระวีเอ่ย และรีบเดินกลับมาอีกครั้ง พร้อมสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง ก่อนจะกางหน้าสมุดขึ้นมาเตรียมทำท่าจะจดอะไรลงไป พลางถามกลับเขาว่า "เอาล่ะ ชื่อเพื่อนคนไหนของรันที่ยังตกหล่น บอกน้ามา น้าจะได้จดเพิ่ม ไว้วันหลัง ถ้ารันหายตัวไปจากบ้านอีก น้าจะได้โทรไปถามหรือไปตามหาได้"     ดรันถอนหายใจอีกพรืดที่ยาวกว่าเดิม คราวนี้เขาจะตัดบทอย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้ว "ผมขอขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ...ตอนนี้เนื้อตัวผมเหม็นไปหมด คุณน้าและนมแม้นไม่ได้กลิ่นกันเลยหรือครับ"  รุ่งระวีก็เหมือนนึกถึงสภาพในตอนนี้ของหลานชายขึ้นมาได้ จะให้มายืนส่งกลิ่นเหม็นตลบไปทั่วแบบนี้ไม่ได้ จึงรีบไล่ชายหนุ่มขึ้นไปอาบน้ำ "ตายจริง! งั้น ๆ รีบ ๆ ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า โกนหนวดเคราให้เรียบร้อยด้วยไป เสร็จแล้วจะได้ลงมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน"                                                 ดรันลอบยิ้ม แล้วจึงรีบหมุนตัวเดินขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์หลังงามทันที   
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม