3 'บ้านอาจณรงค์' - 2

1211 คำ
 "นมว่า คุณหนูมีอะไรแปลก ๆ อยู่นะคะคุณรุ่ง" แม่นมของชายหนุ่มแสดงความคิดเห็น ขณะส่งสายตามองตามหลังกว้างของชายหนุ่มไปอย่างสงสัยในพิรุธบางอย่าง แน่นอนว่าตนเลี้ยงคุณหนูมาตั้งแต่แบเบาะ ทำไมตนจะไม่รู้ถึงอาการแปลก ๆ นั้นได้    "นั่นน่ะสินมแม้น รุ่งก็สงสัยอยู่..." รุ่งระวีเอ่ยกลับไปบ้าง แล้วตวัดสองมือกอดอก "...เพื่อนคนไหนที่ตารันบอกว่าไปนอนค้างมาด้วย เท่าที่ให้อาชาไปตระเวนตามหาก็ครบทุกบ้านแล้วนะ"                                "นั่นน่ะสิคะ นมก็สงสัยเหมือนกัน"                                                 "อ้อ! นมแม้น!"                                                               เสียงทุ้มจากคนที่ได้ชะโงกหน้าลงมา ทำให้สตรีต่างวัยทั้งสองสะดุ้งขึ้น แล้วส่งสายตาขึ้นไปยังชั้นบนของคฤหาสน์ตาม    "ถ้านายอาชากลับมาแล้ว ช่วยบอกให้ขึ้นมาพบผมที่ห้องนอนด้วย ผมมีเรื่องด่วนอยู่หลายเรื่องที่ต้องให้อาชาจัดการ!" ดรันตะโกนบอกแม่นมของตนแล้ว จะหมุนตัวเดินไปยังห้องนอน แต่แล้วชายหนุ่มต้องกัดฟันน้อย ๆ เมื่อแม่นมของตนก็รีบตอบรับมาว่า                     "ค่า คุณหนูรัน!"                                                                          นมแม้นนะนมแม้น บอกกี่ครั้งว่าอย่าเรียกตนเองว่า คุณหนู ... น่าเบื่อจริง ๆ!       ดรันถอนหายใจอีกพรืดที่ยาวกว่าเดิม คราวนี้เขาจะตัดบทอย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้ว "ผมขอขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ...ตอนนี้เนื้อตัวผมเหม็นไปหมด คุณน้าและนมแม้นไม่ได้กลิ่นกันเลยหรือครับ"  รุ่งระวีก็เหมือนนึกถึงสภาพในตอนนี้ของหลานชายขึ้นมาได้ จะให้มายืนส่งกลิ่นเหม็นตลบไปทั่วแบบนี้ไม่ได้ จึงรีบไล่ชายหนุ่มขึ้นไปอาบน้ำ "ตายจริง! งั้น ๆ รีบ ๆ ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า โกนหนวดเคราให้เรียบร้อยด้วยไป เสร็จแล้วจะได้ลงมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน"                                                 ดรันลอบยิ้ม แล้วจึงรีบหมุนตัวเดินขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์หลังงามทันที                                                                 "นมว่า คุณหนูมีอะไรแปลก ๆ อยู่นะคะคุณรุ่ง" แม่นมของชายหนุ่มแสดงความคิดเห็น ขณะส่งสายตามองตามหลังกว้างของชายหนุ่มไปอย่างสงสัยในพิรุธบางอย่าง แน่นอนว่าตนเลี้ยงคุณหนูมาตั้งแต่แบเบาะ ทำไมตนจะไม่รู้ถึงอาการแปลก ๆ นั้นได้                                                      "นั่นน่ะสินมแม้น รุ่งก็สงสัยอยู่..." รุ่งระวีเอ่ยกลับไปบ้าง แล้วตวัดสองมือกอดอก "...เพื่อนคนไหนที่ตารันบอกว่าไปนอนค้างมาด้วย เท่าที่ให้อาชาไปตระเวนตามหาก็ครบทุกบ้านแล้วนะ"                                "นั่นน่ะสิคะ นมก็สงสัยเหมือนกัน"                                                 "อ้อ! นมแม้น!" เสียงทุ้มจากคนที่ได้ชะโงกหน้าลงมา ทำให้สตรีต่างวัยทั้งสองสะดุ้งขึ้น แล้วส่งสายตาขึ้นไปยังชั้นบนของคฤหาสน์ตาม                       "ถ้านายอาชากลับมาแล้ว ช่วยบอกให้ขึ้นมาพบผมที่ห้องนอนด้วย ผมมีเรื่องด่วนอยู่หลายเรื่องที่ต้องให้อาชาจัดการ!" ดรันตะโกนบอกแม่นมของตนแล้ว จะหมุนตัวเดินไปยังห้องนอน แต่แล้วชายหนุ่มต้องกัดฟันน้อย ๆ เมื่อแม่นมของตนก็รีบตอบรับมาว่า                      "ค่า คุณหนูรัน!"                                                                          นมแม้นนะนมแม้น บอกกี่ครั้งว่าอย่าเรียกตนเองว่า คุณหนู ... น่าเบื่อจริง ๆ!   "เป็นใบ้! คุณรันนี่นะเป็นนายใบ้!" อาชาอุทานอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะรีบตะครุบปากเอาไว้ เพราะเผลอทำเสียงดังเกินควร                          "เบา ๆ หน่อย! เดี๋ยวแม่นายก็มาได้ยินแล้วก็เป็นเรื่องใหญ่โตกันอีก" ดรันดุ ก่อนจะบอกต่อ "ฉันก็เสแสร้ง ไม่สิ เรียกว่าตกกระไดพลอยโจนมากกว่า ที่ต้องรับสมอ้างว่าเป็นนายใบ้ไปก่อน เพราะทุกคนที่นั่นเชื่ออย่างสนิทใจทีเดียวว่าฉันคือนายใบ้ เจ้าของเรือลำเก่า ๆ ลำนั้น”                                                                                                              ดรันสรุป พลางมองหน้าของอาชาไปด้วย ก่อนจะบอกสิ่งแรกที่อยากให้อาชาช่วย "ฉันอยากให้นายช่วยตามหานายใบ้ตัวจริงให้พบ ซึ่งฉันคิดว่าเขาคงจะวนเวียนอยู่แถว ๆ ที่ฉันถูกโจรทำร้ายน่ะ เพราะเรือเขาหายไปทั้งลำ ข้าวของทรัพย์สินก็ยังอยู่บนเรือลำนั้น เจ้าของเรือตัวจริงคงรู้สึกทุกข์ใจน่าดู"                                                                                                           อาชารีบพยักหน้าทราบ แล้วถามอีก "หากพบตัวนายใบ้ตัวจริง แล้วจะให้ผมทำอย่างไรกับนายใบ้"                                     ดรันรีบตอบ "หากเป็นไปได้ ให้พาตัวนายใบ้มาพบฉันให้ได้"  "แล้วคุณรันจะต้องทำอย่างไรต่อไป ท่าทางหญิงสาวที่ช่วยชีวิตคุณรัน น่าจะสวยอยู่ไม่เบา...ล่ะสิครับ" อาชาลองถาม จากที่สังเกตแววตาและสีหน้าของชายหนุ่ม ยามเอ่ยถึงหญิงสาวที่ได้ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ ดรันมักจะลอบยิ้มพรายเป็นระยะ ๆ                                    ดรันเบือนสายตากลับมามองชายหนุ่มอีกคน แววตาของเขาที่พราวระยิบ ได้บ่งบอกความในใจที่มีต่อหญิงสาวผู้นั้นให้อาชารู้สิ้นแล้ว  "สวย สวยสิ ทั้งสวย ทั้งใจดี ดีเสียจนฉันไม่อาจจะทอดทิ้งหล่อนให้อยู่ที่นั่นอย่างลำบากได้หรอก"   "ว่าแล้วเชียว!" อาชาขานรับอย่างตื่นเต้น ก่อนจะกระเซ้าเจ้านายของตนต่อว่า "...อย่างนี้ คุณรุ่งก็คงไม่ต้องเสียเวลาตระเวนหาหลานสะใภ้ให้ลำบากอีกกระมัง เพราะหลานชายคนเดียวดันไปพบเจอด้วยตัวเองแล้ว แถมยังได้ช่วยชีวิตคุณรันเอาไว้อีก โบราณเขาว่าอยู่ว่า หญิงใด ชายใดประสบเหตุ แล้วอีกฝ่ายได้ช่วยเหลือชีวิตกันเอาไว้ ชะตาจะไม่คลาดแคล้วกันไปไหนหรอก เพราะเป็นเนื้อคู่กระดูกคู่กันชัด ๆ"     ดรันหัวเราะร่วนอย่างเบิกบาน รู้สึกถูกใจกับถ้อยคำกระเซ้าของคนสนิท จากนั้นก็กลับมาคิดหนักอีกเรื่อง พลางถอนหายใจเล็กน้อย "ฉันยังไม่อยากให้คุณน้าทราบเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ฉันกังวลอีกเรื่อง เพราะการจะพาตัวผู้หญิงในฐานะหลานสะใภ้เข้าบ้านนี้ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว เท่าที่ผ่านมานายก็เห็นแล้วว่าคุณน้าท่านพิถีพิถันกับเรื่องนี้มาก แต่... สุดท้ายหากฉันยืนยันว่าจะแต่งงานกับใคร คุณน้ารุ่งหรือใคร ๆ ก็ไม่อาจมาห้ามความต้องการของฉันได้หรอก แต่ตอนนี้นายอย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลกว่าเรื่องที่ว่า ฉันจะกลับไปพบหน้าหล่อนอีกครั้งได้อย่างไรดีกว่านะ ...อาชา"                                   “แสดงว่าคุณรันจะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง"                                             ดรันพยักหน้ารับเสียงแข็งขัน "อย่างแน่นอน ฉันดูดายหล่อนไม่ได้ หล่อนน่าสงสาร"    "ในฐานะของใครล่ะครับ คุณดรัน อาจณรงค์ หรือนายใบ้" อาชาถามกลับเสียงเคร่ง  ดรันจึงกลอกดวงตาเข้มจัดกลับมาจ้องหน้าคนสนิท พลางถามอย่างขอความเห็นไปในตัว "นายคิดว่า ฉันควรจะกลับไปหาหล่อนในฐานะใครดีล่ะ"                                                                           ถูกถามกลับแล้ว อาชาก็ค้นหาคำตอบไม่ได้เช่นกัน ได้แต่มองหน้าเจ้านายหนุ่มอย่างตรึกตรองหนักอยู่ไม่น้อย                       
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม